 |
บุคลิกภาพมันคือะไร?
ตอนอากาศร้อนๆเราใส่กางเกงยีนใส่เชิร์ตลอยชายพับแขนเสื้อเข้าไปติดต่อหน่วยงานราชการในประเทศอังกฤษทุกคนต้อนรับเราหมด เราแต่งตัวแบบนั้นเข้าหอสมุดแห่งชาติในประเทศไทยยามมันไล่เราออกมา
"จนป่านนี้เรายังคิดไม่ออกเลยว่าการทับเสื้อไม่พับแขนเสื้อนี่มันทำให้คนมีอารยธรรมสูงขึ้นมางั้นหรือ"
ตอนเราสอนภาษาอังกฤษตามบ้านคนรวยๆกับเช่าห้องแถวสอนภาษาอังกฤษเราต้องเสแสร้งตัดผมสั้นๆใส่เสื้อผ้าราคาแพงๆซักจนสะอาดรีดจนเรียบเพื่อให้นักเรียนกับผู้ปกครองนักเรียนเลื่อมใสจ่ายเงินเรามาตั้งมากมาย นี่ตกลงคนเราต้องแต่งตัวดีๆเพื่อไปหลอกกันงั้นหรือ?
แต่ตอนเราไปทำงานแปลเอกสารเราใส่เสื้อกางเกงตัวละ 199 บาท ไว้ผมยาวกระเซิง ทำงานได้เจ้านายก็ไม่ว่าอะไร คือจริงๆแล้วเราเคยใส่เสื้อผ้า brandname เข้าไปทำงาน แล้วเพื่อนร่วมงานมันชอบมองเสื้อผ้าแล้วทำหน้าประเมินราคา เราก็เลยแต่งตัวมันให้กุ๊ยๆไปซะเลย สะใจดี...555+++...ยิ่งตอนนี้เราออกมาทำงานเป็นนักแปลอิสระผมเรายิ่งยาวมากขึ้นจนเกือบจะถึงก้นแล้วหละ ถ้าไปให้ช่าง dry ผมให้ตรงๆขึ้นเงาเหมือนสาวโฆษณาแชมพู แล้วเรา make up หน้าเข้มๆ แต่งตัวเป็นผู้หญิงสวยๆออกไปเดินสบายเลย เคยทำเล่นๆแล้วหนุ่มๆมองเหลียวหลังเลย...555+++... แต่ถ้าเราปล่อยผมยาวกระเซิงมันหยิกเป็นฝอยเราหน้าตาเหมือน rock singer มาดแบบนี้ไปสอนภาษาอังกฤษนักเรียนวิ่งหนีหมด...555++++... ^ ^ พี่แอ๊ด ปากเกร็ดเคยเห็นเราแต่ตอนเราหน้าตาเหมือนฮิปปี้ แต่พี่ไม่เคยเห็นเราตอนเราแต่งตัวสวยๆวาบหวามออกมาเดินหรอก...อิๆๆ...
จริงๆแล้วหลังจากห่างเหินจากการสอนภาษาอังกฤษมาเสียนาน แล้วทำแต่งานเป็นนักแปลอิสระนี่น่ะ ความสามารถด้านภาษาอังกฤษเรารุดหน้าไปไกลกว่าเดิมค่อนข้างมาก (เพราะเราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ) เราเคยคิดจะกลับไปทำงานสอนภาษาอังกฤษใหม่อีกแต่ที่ไม่ทำก็เพราะเราไม่ชอบแต่งตัวสร้างบุคลิกฝืนธรรมชาติตัวเอง มันได้เงินเยอะก็จริงแต่มันไม่ทำให้สุขใจ
เวลาเราแต่งตัวรุ่มร่ามผมเผ้ากระเซิงเราไม่กล้าเดินเปลี่ยวๆกลางคืน เพราะเคยโดนตำรวจหยุดค้น เกือบจะโดนยัดของผิดกฎหมายให้ แล้วเราก็คิดว่า
"ทำไมตำรวจมันถึงโง่ขนาดนี้นะ เพราะถ้าเราจะไปปล้นใครหรือไปค้าของเถื่อนที่ไหนเราคงแต่งตัวให้เรียบร้อยเหมือนคนทำงานในธนาคารหรือในตลาดหลักทรัพย์แหงๆอยู่แล้ว!"
เพื่อนเราคนหนึ่งชื่อตุ้ยเป็นนักเรียนเก่าอังกฤษ ภาษาอังกฤษมันก็เก่ง แถมยังขวางโลกมากกว่าเราอีก บุคลิกมันดูเหมือนโจรห้าร้อยมากกว่าเราอีกด้วย กางเกงยีนเก่าๆ (แต่ levi's ของแท้) เสื้อมันปล่อยชายพับแขนเสื้อ ท่าทางดูกุ๊ยมากๆ พอมันเดินส่ายอาดๆหน้าตากวนๆใครมอง Rolex ที่ข้อมือมันก็ต้องคิดว่าของปลอมแหงๆ แต่จริงๆแล้วของแท้แฮะ หมอนี่วันๆไม่ทำอะไรได้แต่อ่านข่าวสังคมจนรู้หมดว่าคนดังๆที่ไหนทำธุรกิจอะไร ใครมีเอี่ยวกับใคร นักการเมืองที่ไหนโกงกินอะไร เวลามันโผล่เข้าไปในวงเพื่อนฝูงคุยกัน พอเจ้าตุ้ยอ้าปากวิจารณ์สังคม ทุกคนแตกวงแยกย้ายกันหนีหมด เพราะรับฟังไม่ได้ที่มันพูดแทงใจดำมากเกินไป ถามว่าเจ้าตุ้ยนี้มันจะอยู่รอดในสังคมยังไง มันก็อยู่รอดของมันได้ ตั้งแต่มันกลับมาเมืองไทยมันไม่เคยทำงาน เมื่อ 20 ปีที่แล้วแม่มันให้เงินเดือนมันเดือนละ 40,000 บาท ซื้่อบ้าน 3 ชั้นให้หลังหนึ่ง รถบีเอ็มคันงามๆอีกหนึ่งคัน ตอนนี้คิดว่าเงินเดือนเจ้าตุ้ยมันคงขึ้นไปมากกว่านั้นหลายเท่าแล้วหละ หรือไม่มันก็รับมรดกแม่มันมาเรียบร้อยแล้วหละ แล้วเราก็ยังเชื่อว่าบุคลิกมันก็ยังเหมือนกุ๊ยเช่นเดิม แต่มันข้างในมันรวยระดับมหาเศรษฐี รายได้หลักมันคือเก็บค่าเช่าตึกแถวที่ ถ. สีลม เดือนๆหนึ่งค่าเช่าหลายล้าน
แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 15:54:14
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ธ.ค. 54 15:49:04
|
|
|
|
 |