ความคิดเห็นที่ 1 สมัย ที่ หม่อมเจ้าปิยะรังสิต ยังทรงอยู่ในวัยหนุ่ม กระมัง เพราะหม่อมเจ้าพจน์ปรีชา ในเรื่อง มีความรู้ความสามารถ มีน้ำพระทัยดีและยังทรงพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมันได้เป็นคุณสมบัติของหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต พระสวามีในชีวิตจริง ท่านพระองค์หญิงที่ทรงแต่งเรื่อง “ปริศนา” แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 54 22:48:34 จากคุณ : ไข่มุขราตรี เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 22:43:50

ความคิดเห็นที่ 2 ประมาณรัชกาลที่แปดครับ เพราะคนเขียนตอนเขียนยังวิ่งหนีระเบิดลงหลุมหลบภัยอยู่เลย เรื่องปริศนานี่จะกล่าวถึงแต่คนชั้นสูงนะครับ ขนาดบ้านปริศนาจนๆยังมีบ้านพักริมทะเลหัวหินเลย เนี่ยแหละจนสุดๆของคนเขียนแล้ว กล่าวถึงกิจกรรมของชนชั้นสูง ว่ามีอะไรบ้าง กินข้าวยังไง เล่นกีฬายังไง กินเลี้ยงเต้นรำวนไปวนมา ได้กลิ่นอายนิยายฝรั่งหน่อยๆ ผมยอมรับว่าอ่านปริศนาด้วยความประดักประเดิดมาก มันจะไทยก็ไม่ไทยไปเลย จะฝรั่งไปเลยก็ไม่ฝรั่งไปเลย และที่สำคัญ มันกล่าวถึงแต่กิจกรรมของชนชั้นสูงจริงๆ ราวกับว่าโลกของปริศนามีแต่ความสุข สดชื่น สมหวังดุจเทพนิยายของเจ้าหญิง อุปสรรคที่มีก็พอเป็นกระสายพอให้ได้ตื่นเต้น ความลำบาก ข้าวยากหมากแพงของสงครามไม่เคยปรากฏในเรื่องนี้ ไม่ได้มีรายละเอียดของสังคมจริงๆในสมัยนั้นเลย ยังไงคุณก็ต้องดูในจุดของคนเขียนด้วย คนเขียนเรื่องนี้เขียนตอนอายุยังไม่ถึงยี่สิบ ประสบการณ์ชีวิตก็ไม่ค่อยมี ความรู้ส่วนใหญ่ได้จากการอ่านหนังสือเป็นหลัก คาดว่าชีวิตคงมีแต่ความสุขสบายมาตลอด พ่อก็เป็นถึงเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ โอกาสจะได้สัมผัสความลำบากลำบนจริงๆจึงไม่มี อยากจะเขียนให้ปริศนาบ้านจนมากๆก็เขียนได้เท่าที่อ่าน(คนจนอะไร มีบ้านริมชายทะเลหัวหิน) คนเขียนยังเขียนไว้ในคำนำเลย ว่าถ้าให้เค้ามาเขียนอีกทีตอนเป็นผู้ใหญ่แล้วอย่างตอนนี้ เค้าก็คงเขียนปริศนาไม่ได้อย่างที่เรากำลังอ่านแน่นอน จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 22:54:52 A:115.87.187.187 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ถ้าคุณอ่านงานชิ้นหลังๆ ความประดักประเดิดแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นแล้วนะครับ อาจเป็นเพราะว่าเขียนตอนโตเป็นผู้ใหญ่ เริ่มทำงานตามเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารจริงๆ เลยได้เห็นว่าความยากจนจริงๆเป็นยังไง บังกะโลริมทะเลแถวระยองที่เป็นบ้านเอียงโย้เย้อากาศร้อนอบอ้าวจริงๆ(เรื่องนี่หรือชีวิต) ก็เขียนได้จนเห็นภาพชัดเจน จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 22:59:48 A:115.87.187.187 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 4 อยากให้กิ๊ฟต์คุณอืมจังครับ  แต่เสียดายที่ให้ไม่ได้ จากคุณ : รัษฎา เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 23:04:47

ความคิดเห็นที่ 5 ยังหาคำตอบที่แท้จริงไม่ได้ครับ เพราะขนาดล่วงเลยมาในยุคสมัยนี้แล้ว ... ก็ยังเป็น ปริศนา อยู่เลยครับ ;p จากคุณ : ปลาทองสมองโป่ง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 23:07:51

ความคิดเห็นที่ 6 อยากให้กิ๊ฟคุณอืมเหมือนกันค่ะ ปริศนา นี่ซื้อเพราะเห็นใครๆ ว่าหาซื้อยากก็เลยอยากรู้ว่าเป็นยังไงถึงหาซื้อยาก กว่าจะอ่านได้จบเล่นเอาเหนื่อย เล่มที่ซื้อมาเป็นฉบับพิมพ์ปี 2544 มีคำนำในเล่มแรกบอกว่าเรื่องนี้เขียนประมาณปี 2480 เท่าไหร่จำไม่ได้แล้วค่ะ เช็คไม่ได้ด้วยเพราะเล่มนั้นทิ้งไว้ที่เมืองไทย แต่ถ้าพิจารณาจากปีเกิดของผู้เขียนซึ่งก็คือปี 2463 บวกเข้าไปประมาณ 18-20 ปี ก็ประมาณ 2480 กว่าๆ สงครามมหาเอเซียบูรพาเริ่มปี 2484 ก็คงช่วงใกล้ๆ สงครามกำลังจะเริ่มหรือเริ่มไปแล้วนั่นแหลค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 23:54:27

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเราจำไม่ผิด บ้านริมทะเลหัวหิน ไม่ได้เป็นบ้านของครอบครัวปริศนานะคะ แต่เป็นบ้านที่ขอยืมเขามา คิดว่าน่าจะเป็นบ้านของคุณป้าสงวนเจ้าของโรงเรียนที่ปริศนาเป็นครูอยู่ และเป็นเพื่อนกับคุณนายสมรแม่ปริศนา แต่ก็อย่างที่คุณอืมบอกไว้แหละค่ะว่านิยายเรื่องปริศนามีแต่เรื่องราวของคนชั้นสูง ตอนที่เราอ่านครั้งแรกตอนนั้นยังเด็ก ๆ อยู่เลย จำได้ว่าชอบมาก นางเอกเก่งแสนเก่ง  ส่วนพระเอกก็หล่อ รวย มีชาติตระกูลดี อ่านแล้วอยากเก่งอย่างปริศนามั่ง   แต่พอมาอ่านตอนนี้ ด้วยวัยขนาดนี้แล้ว ความชอบมันลดลงไปเยอะเลย แต่ก็ยังสนุกอยู่ค่ะ เพราะว่าเราชอบนิยายแนวพาฝันแบบนี้   จากคุณ : o_pinP เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 00:12:45

ความคิดเห็นที่ 8 เราไม่รู้เร่ืองราวเกี่ยวกับผู้เขียน แต่จากเรื่องก็เดาได้ว่าต้องเป็นคนรวยมีชาติตระกูลแน่ๆ เพราะในเรื่อง ขนาดปริศนาย้ำตลอดว่าตัวเองจน เรายังหันไปถามแม่เลยว่า... นี่เรียกจนแล้วเหรอ บ้านมีเด็กรับใช้ ไปเที่ยวหัวหิน เล่นกีฬา ไปงานเต้นรำ มันดูหรูมาก (บ้านที่หัวหิน ไม่ใช่บ้านของครอบครัวปริศนานะคะ เพราะในเรื่องเห็นแม่ของปริศนาบอก "ไปว่าบ้านเอาไว้" เราว่าน่าจะแปลว่าเช่ามากกว่า) คนเขียน แต่งเรื่องนี้ตั้งแต่อายุไม่ถึงยี่สิบ เราว่าเก่งมากๆเลยนะเนี่ย เพราะเราชอบเรื่องนี้มาก ชิลดี ไม่มีนางร้ายนางอิจฉา ดูได้เรื่อยๆ ทั้งๆที่เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไร แต่ตัวละครดูหลากหลายดี แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 04:00:05 จากคุณ : blackbillaz เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 03:59:06

ความคิดเห็นที่ 9 ตามท้องเรื่องเริ่มต้นที่ พ.ศ. 2481 ครับ ตอนนั้นสงครามโลกยังไม่เกิด แต่ญี่ปุ่นก็เข้ายึดพื้นที่บางส่วนของประเทศจีนไปแล้ว พร้อมนโยบายวงไพบูลย์แห่งเอเชีย และเนื้อเรื่องของปริศนาดูแล้วก็ไม่น่าจะเกิน 8 ธันวาคม 2484 ไปได้ เพราะในเรื่องไม่มีญี่ปุ่นเข้ามาเกี่ยวเลย แม้กระทั่งเพื่อนท่านชายซึ่งเป็นชาว scotland ก็ยังเดินทางมาเที่ยวเล่นในพระนครได้ แถมท่านชายยังบอกปริศนาว่า เพื่อนจะขอย้ายจากย่างกุ้งมาพระนครเพื่อจะได้พบปริศนา ดังนั้น อย่างช้าก็ควรจะเป็นสงครามที่ยังจำกัดอยู่แค่ในยุโรป เพราะฉะนั้นตามท้องเรื่องจนจบตอนปริศนาควรจะเป็นตั้งแต่ 2481-2483 เท่านั้นครับ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 06:23:51 จากคุณ : โรงเรียนลูกผู้ชาย เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 06:12:39

ความคิดเห็นที่ 10 นึกถึงเรื่องขำขันเรื่องเรียงความของโรงเรียนคุณหนู "...ครอบครัวคนจนครอบครัวหนึ่ง เป็นครอบครัวที่น่าสงสาร พวกเขามีรถยนต์เบนส์เก๋งเก่าๆคันหนึ่ง มีคนขับรถที่ยากจนขับให้ มีแม่นมผู้ยากจนเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ และคนรับใช้ยากจนเพียงสองคนช่วยกันทำความสะอาดบ้านหลังซ่อมซ่อบนเนื้อที่เพียง 300 ตารางวา ..." จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 10:11:30

ความคิดเห็นที่ 11 เพิ่งอ่านจบไปเอง ^ ^ สงสัยเรื่องธรรมเนียมจิบน้ำชายามบ่ายมากกว่า ถ้าเป็นคนชั้นสูงก็ไม่แปลกใจ แต่บ้านธรรมดาอย่างปริศนานี่มีด้วยเหรอ หรือว่าเป็นธรรมดาของคนสมัยนั้น ที่ถามเพราะไม่รู้น่ะค่ะ เกิดไม่ทัน จากคุณ : jibjib เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:07:27 A:124.122.149.76 X: TicketID:117703

ความคิดเห็นที่ 12 เรามีความเห็นต่าง ไม่เคยอ่านแล้วรู้สึกว่าปริศนาจน และไม่เคยรู้สึกว่าผู้เขียนพยายามจะบอกว่าปริศนาจนด้วย ก่อนอื่น เราขอเสวนาว่าด้วยความจนของปริศนาในนิยายเล่มนี้เสียหน่อย คนที่พูดว่า "เราจน" คือปริศนา และไม่ได้พูดเพื่อบอกว่าเราจนหรือยากแค้น แต่เพื่อบอกสถานะของตนประมาณว่า "เพราะปริศนาจน ปริศนาถึงต้องทำงาน" แปลว่าเธอไม่ได้ร่ำรวยอู้ฟู่จนอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำงานก็ได้ เหมือนสตรีในวงสังคมชั้นสูง ยกตัวอย่างก็คือ รตี ในยุคสมัยของปริศนา คือช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง (น่าจะต้องก่อน เพราะผู้เขียนกล่าวว่าตนเป็นผู้เข้าไปในโรงพิมพ์เพื่อเอาต้นฉบับนิยายเล่มนี้หลังหรือก่อนโดนระเบิด อันนี้ไม่แน่ใจ) และปริศนานั่งเรือจากอเมริกามาลงที่สิงคโปร์ได้โดยไม่มีอุปสรรคอันใด เพราะฉะนั้นช่วงเวลาของปริศนาคือช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่นานนัก ถ้าหันไปดูสภาวะสังคมสมัยนั้น ชนชั้นกลางน่าจะเพิ่งเป็นคำที่เกิดใหม่ ภาวะทางเศรษฐกิจของคนยังไม่พ้นจากยุคศักดินาเท่าไหร่ ก็คือเจ้ากับไพร่ คนจนและคนรวย ชนชั้นกลางอาจจะเป็นคำที่ไม่คุ้นหูเอาเสียเลย นวนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายพาฝัน ผู้เขียนไม่ได้ตั้งใจเขียนถึงความยากจนของปริศนา และไม่ได้บอกว่าปริศนายากจนแม้แต่น้อย (ในนิยามของความจนที่แปลว่าสิ้นไร้ไม้ตอก) นิยายเรื่องปริศนาไม่ใช่นิยายที่ว่าด้วยการยกระดับฐานะของหญิงสาวยากจนข้นแค้นไปสู่หญิงอันสูงศักดิ์ นางเอกอย่างปริศนาไม่จำเป็นต้องจนถึงขนาดนั้น และเอาเข้าจริงๆ เกิดเขียนว่าปริศนาจนสมกับคำว่าจน ก็คงเป็นนิยายเรื่องอื่นไป ปริศนาคงไม่สามารถทำอะไรอย่างที่ทำในนิยายเรื่องนี้ ไม่สามารถพูด คิดและทำอย่างที่ปรากฏในนิยายเรื่องนี้ได้ … ในความเป็นจริง คนที่เป็นหม่อมเจ้าและเป็นหมอ จะไปพบรักกับคนที่มีคุณสมบัติเหมือนนิยายเมโลดราม่าทั่วไปนั้น มันเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย พจมาน พินิจนันท์ ยังต้องเป็นนักเรียนโรงเรียนเซ็นฟรัง และเล่นเปียโน แถมเป็นเจ้าแห่งปรัชญา สามารถสั่งสอนผู้คนได้ทีละสองหน้ากระดาษแน่ะ ปริศนาจะจนได้อย่างไร คุณพ่อเธอแม้จะถูกตัดออกจากกองมรดกเพราะไปแต่งงานกับหญิงที่ท่านเจ้าคุณและคุณหญิงไม่ได้เลือกให้ แต่ก็นับว่าเป็นผู้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าคนทั่วไป คุณนายสมรแม้ไม่ใช่ผู้ดีชั้นสูง แต่มีความรู้ทำงานเป็นครูในโรงเรียนชื่อดัง (ถ้าจำไม่ผิดก็คือโรงเรียนที่ปริศนาไปเป็นครูนั่นแหละ) ผู้หญิงได้ร่ำเรียนเขียนอ่าน สามารถส่งเสียบุตรสาวสองคนให้มีความรู้พอสมควร มีบ้านของตัวเอง แปลว่าคุณนายสมรก็คือชนชั้นกลางทั่วๆ ไปนี่แหละ แต่จะไปบอกว่าคุณนายสมรรวยก็คงไม่ได้ ส่วนเรื่องบ้านพักตากอากาศหัวหิน เราว่ามันก็เป็นสิ่งที่พอจะหาได้ ไม่ได้เกินเอื้อม พูดมาตั้งยาวก็แค่จะบอกว่า ผู้เขียนไม่ได้เขียนนิยายที่มีนางเอกจนตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ และผู้เขียนก็ไม่ได้เขียนนิยายประเภทรักทรมานหรือรักทรหดที่ต้องมีอุปสรรคขัดขวาง นางเอกต้องอดทนกล้ำกลืนและช้ำชอกเพราะฐานะอันต่ำต้อยของตน ก็ไม่ใช่อีกเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 13:26:30 จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:25:59

ความคิดเห็นที่ 13 นิยายเรื่องปริศนามีดีตรงไหน วิธีเขียนนิยายเรื่องนี้ถ้าเทียบกับนิยายชื่อดังอื่นๆ ก็ต้องบอกว่ามีส่วนที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ปริศนาไม่ใช่ผู้หญิงท่ามาก ขี้งอน จอมหยิ่ง มีอะไรเก็บงำไว้ไม่ยอมพูด ตรงกันข้าม ปริศนามีนิสัยที่ผู้หญิงไทยหลายๆ คนอยากเป็น แต่ไม่สามารถเป็นได้ เธอกล้าพูด เธอฉลาด เธอมีข้อเสียตรงหัวรั้นใจร้อน และหลายต่อหลายครั้ง สิ่งที่เธอทำมันบอกว่าเธอคิดถึงคนอื่นน้อยไป แต่โดยรวมเธอมีน้ำใจที่ดีงาม ใครเคยเห็นบุคลิกแบบนี้บ้างในนิยายไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน ส่วนหม่อมเจ้าพจปรีชานั้นเหมือนมาจากเทพนิยาย เรื่องฐานะหน้าตาของพระเอกที่เป็นหม่อมเจ้าคงไม่ต้องสาธยาย สิ่งที่หม่อมเจ้าพจปรีชามีดีกว่าหม่อมเจ้าและหม่อมราชวงศ์ทุกคนในนิยายไทยทุกเรื่อง คือเป็นผู้ถืออิสรภาพแห่งตนสมกับที่ดูแลตัวเองมานาน ไม่ได้มีแม่ ป้า เมียเก่า แฟนเก่า ฯลฯ มาสนตะพายให้ต้องหันซ้ายหันขวาหรือทำตัวหน่อมแน้มคิดเองไม่เป็น ที่สำคัญ ท่านชายพจน์ไม่ใช่ท่านชายซึนเดเระ (คือวางท่านั้นมีบ้าง) รักก็รัก ชอบก็ชอบ ไม่ได้ทำให้เรื่องยุ่งมันยุ่งสาหัสเพราะพฤติกรรมไว้ชั้นไว้เชิงเหนือมนุษย์เหมือนพระเอกหนังไทยทั่วไป เราชอบนิยายเรื่องนี้เพราะมันดูเป็นจริงดี อ่านแล้วไม่หงุดหงิด :) ป.ล.1 เจ้าสาวของอานนท์สนุกดี แต่เราเบื่อๆ ตอนปัญหาชีวิตบ้านเจ้าคุณ แต่เราไม่ชอบรัตนาวดีนะ อันนั้นพาฝันสุดๆ เลย ฝันไกลเกิ๊นนนนนนน ป.ล. 2 อ่ออีกอย่าง เรื่องนี้ปริศนาทำงานเป็นครู ก็มีฉากที่บรรยายชีวิตการเป็นครูโรงเรียนสตรีและการสอนหนังสือเด็กเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนท่านชายพจน์เป็นหมอศัลยกรรม อยู่ผ่าตัดคนไข้จนดึกจนดื่นบ่อยๆ  เอาเป็นว่าไม่ใช่มีอาชีพตามทะเบียนพระเอกนางเอง แต่อ่านแล้วเชื่อว่ามีงานมีการทำ ไม่ใช่ลอยไปลอยมา ทำอะไรก็ไม่ทราบ เอาแต่ทะเลาะกัน แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 13:39:34 จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:33:55

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องนี้อ่านครั้งแรกเมื่ออายุยังสักสิบกว่าๆ   มันถูกอารมณ์เด็กเริ่มสาวดีนักแล  สำนวนเรียบง่าย เข้าใจง่าย แล้วระบบสังคมไทยตอนนั้นก็ยังเป็นอย่างที่เรียกว่า "ศักดินา" เต็มๆ นักเขียนในสมัยนั้นมาจากกลุ่มชนชั้นสูงเสียส่วนใหญ่ จะขานชื่อนักเขียนที่มาจากชนชั้นเดินดินจริงๆกันได้ ก็คงมีไม่มีกี่ชื่อ  (อาจจะนึกไม่ออกด้วยซ้ำไป) เวลาอ่านหนังสือนักสืบดังๆของ Agatha Christie มันก็ให้บรรยากาศคล้ายๆกัน   เรื่องราวทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นในสังคมของคนชั้นแรงงาน จากคุณ : akebi1 เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 14:25:52

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องความจนในปริศนา คิดว่าเข้าข่ายแบบ genteel poverty คือเป็นความจนแบบชนชั้นสูงแบบที่พบในนิยายของ Jane Austen ไม่ใช่จนแบบปกติหรอกค่ะ จากคุณ : jackfruit_k เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 17:36:12

ความคิดเห็นที่ 16 คิดว่าปริศนาไม่จนเหมือนกันอะ เท่าที่อ่านมันออกในบริบทที่ว่าปริศนาจนกล่าวพระเอกเฉยๆ จากคุณ : ปาบู่ผู้พลิ้วไหวไปกับสายลม (PaBo) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 17:50:54

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 15 ดู sense&sensibility ทีไรก็คิดเทียบกับปริศนาอยู่รำไปค่ะ ว่าไม่ได้จ๊นจนแบบชนชั้นกลางหรือล่าง แต่ผู้ดีที่ตกยากสักหน่อย จากคุณ : หมูหันตัวอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 22:24:03

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่อง "ปริศนา" เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2483 ครับ มีลายพระหัตถ์หม่อมเจ้าพจน์ปรีชา ทรงส่งถึงปริศนา ก่อนเริ่มความในลายพระหัตถ์ ทรงระบุสถานที่ว่าทรงเขียนที่ "ตำหนักศิลาขาว" บรรทัดต่อมาระบุวันที่ว่า "วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2483" เหตุการณ์ที่มีการส่งลายพระหัตถ์ไปประทานนี้ เกิดขึ้นเมื่อเสด็จออกจากบ้านพักกลับกรุงเทพโดยไม่รับสั่งบอกกับปริศนา ทำให้ปริศนาออกจะโกรธท่านชายมาก เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ใน timeline ของเรื่องแล้ว ขณะที่ไปบ้านพักตากอากาศกัน เกิดขึ้นหลังจากปริศนากลับมาอยู่ประเทศไทยได้ไม่ถึงปี แต่เข้าทำงานที่โรงเรียนสิกขาลัยแล้ว (เพราะได้รู้จักกับคุณครูใหญ่ และแม่อธิการแล้ว) และได้เป็นครูประจำชั้นของท่านหญิงรัตนาวดีแล้ว จึงเป็นชั่วระยะเวลาประมาณสามเดือนหลังจากกลับมาไทยครับ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 54 15:14:02 จากคุณ : ohmygodness เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 22:58:58

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบเรื่องปริศนา มากค่ะ อ่านมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยพิพม์เป็น 2 เล่ม ปกแข็ง เล่มโตๆ พอเป็นละคร เคยดู สมัย คุณหมิวเป็นนางเอก ต่อมา ดูตอนติ๊ก กับ เทย่าเล่น แล้วรู้สึกว่า ถ่ายทอดออกมาดี น่ารักจัง จนต้องเอาหนังสือกลับมาอ่านอีกรอบ ตอนนี้หนังสือหายไป เห็นเค้าพิมพ์ออกมาใหม่ ยังอยากซื้อเก็บไว้อีก รู้สึกว่าเป็นเรื่องน่ารัก พาฝัน เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ในชีวิตของเรา ที่จะไปงานเต้นรำ แต่งตัวหรูๆ ดูเป็นเรื่องย้อนยุคดี เรื่องแบบที่ ไปทำงาน โหนรถเมล์ มันก็อีกอารมณ์นึง ถ้าปริศนาจนๆ โหนรถเมล์ ซ้อนมอเตอร์ไซด์ ไม่มีตังค์ซื้อชุดไปงานเต้นรำ ตีแบดบนถนนหน้าซอย พูดฝรั่งไม่เป็น หรือ ชวนท่านชายกินส้มตำที่ร้านลาบ ก้อย ข้างทาง อ่านแล้วมันไม่บันเทิงอารมณ์ จากคุณ : คุณนายดวง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 18:34:14

ความคิดเห็นที่ 20 เราว่าเรื่องนี้เรื่อยๆ มาเรียงๆ อ่านตั้งนานยังไม่จบเลยค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเขาวง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 16:57:27