เรื่องการใช้งานคณิตศาตร์ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ง่ายกว่าที่เรายกมาใน คคห 10
ก็คือเราลองมาดูเรื่องหวยกัน เลขท้าย 3 ตัวจาก 000 ถึง 999 มีความเป็นไปได้ทั้งหมด 1000 ความเป็นไปได้
การที่หวยเพิ่งออกงวดนี้ สมมุติว่าเป็นเลข 025 ถามว่างวดถัดไป และงวดถัดจากงวดถัดไป ความน่าจะเป็นไปได้ที่เลข 025 จะออกซ้ำอีกมันมีมากน้อยแค่ไหน คำตอบก็คือ 1 ใน 1000 เหมือนเดิมนั่นแหละ ดังนั้นเราจึงรู้ว่าเวลาเราแทงหวยใต้ดินเลขท้าย 3 ตัว เจ้ามือให้ราคาต่อรองประมาณ 559 ต่อ 1 หมายถึงแทง 1 บาท ถ้าแทงถูกก็ได้ 600 บาท (คือเงินทุน 1 บาท บวกกำไร 599 บาท...จำไม่ได้แล้วว่าหวยใต้ดินเขาต่อรองกันตัวเลขขนาดไหน แต่คิดว่าเจ้ามือเอาเปรียบคนแทงมากๆประมาณนี้แหละ) นั่นก็หมายความว่าแทงไปอีก 10 ชาติคนแทงก็เจ้งหมดตัวเพราะจริงๆแล้วราคาต่อรองแบบไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันมันคือ แทง 1 บาท ถ้าแทงถูกก็ได้ 1000 บาท (คือเงินทุน 1 บาทบวกกับกำไร 999 บาทที่ได้จากความน่าจะเป็นไปได้ที่มัน against เราอยู่ 999 ทาง)
นั่นก็เพราะว่า เลขท้ายพวกนี้ "มันจำไม่ได้" ว่าเมื่อคราวที่แล้วมันออกอะไร การที่จะพูดว่าเมื่องวดที่แล้วเลข 025 ออกไปแล้ว งวดนี้คงไม่ออกอีก มั้นเป็นความคิดที่ "ผิด" ซึ่งต่างจากการเล่นเผ ถ้าไพ่ Jack โพดำมีคนดึงออกไปวางหงายให้เห็นแล้วแค่ใบเดียว แต่การจะดึงไพ่ใบต่อไปจากสำรับ ถ้ามีไพ่ในสำรับเหลือ 7 ใบ ความน่าจะเป็นไปได้ของการดึงไพ่ Jack โพดำก็จะเป็น 3 ใน 7 ซึ่งกรณีนี้ "ไพ่มันจำได้" ถ้าไพ่ในสำรับยิ่งลดลง โอกาสดึง Jack โพดำออกมาได้ก็ยิ่งง่ายมากยิ่งๆขึ้น
เรื่องง่ายๆแบบนี้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกนักเรียนไทยจะเรียนกันตอน ม.ปลาย แต่ก็ยังอุตส่าห์มีคนจบปริญญาตรี ปริญญาโท กับปริญญาเอกที่ไปเชื่อคนใบ้หวย! การใบ้หวยจะทำได้มีอยู่ทางเดียวก็คือ
"หวยโดนล็อค"
ถ้าเรารู้ว่าหวยมันโดนล็อคแล้วงวดหน้ามันจะออกเลขอะไร เราไม่มาใบ้หวยเพื่อแลกกับเงินเล็กๆน้อยๆให้เสียเวลาหรอก เพราะเราไปแทงหวยซะเองได้เงินมากกว่าตั้งหลายเท่า!
^
แต่ภาพของไทยมุงในตลาดที่มุงดูคนที่ตั้งตัวเป็นปรมาจารย์ใบ้หวย มันอสนจะบาดตาเอาซะเหลือเกิน คนเป็นจำนวนมากยังหลงเชื่อว่าการคำนวณหวยมันทำได้ แทนที่จะฉลาดพอที่จะไปจับผิดกองสลากว่า
"มันมีวิธีโกงกันหรือเปล่า ถ้ามี มันโกงกันยังไง มันล็อคเลขไว้ยังไง ต่างหาก"
แม้กระทั่งการคำนวณความเร็วม้าแข่งโดยการใช้ time form ที่แม่นยำมากๆ ทำให้นักพนันมีทางหาเงินได้ แต่มันก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่า independent chance นั่นก็คือ โอกาสที่จะเป็นไปได้ซึ่งไม่ขึ้นอยู่กับอะไร มันเป็นอะไรเหมือน "ฟ้าลิขิต" ยกตัวอย่างเช่น favorite คือม้าเต็งหนึ่ง จากการนับเวลาตาม time form เป็นวินาทีเทียบกับม้าตัวอื่นๆแล้ว มันชนะแบเบอร์ bookmaker คือเจ้ามือจึงให้ราคาต่อรอง 1 ต่อ 7 คือแทง 7 บาทได้แค่ 1 บาทเพื่อทำให้ไม่มีนักพนันอยากแทง แต่มันก็ยังมีนักพนันประเภท "ซื้อเงิน" ทุ่มเงิน แต่ถึงคราวซวยโดน independence chance ฆ่านักพนัน นั่นก็คือเผอิญ favorite เป็นม้าต้วผู้มันวิ่งตามม้าตัวเมียที่กำลังอยู่ในช่วงติดสัด มันจึงไม่ยอมแซงและวิ่งแพ้ไปในที่สุด
^
การคำนวณม้าแข่งด้วย time form ในประเทศอังกฤษเป็นไปได้มากๆ เพราะในอังกฤษมีกฎหมายคุ้มครองห้ามฉีดยาม้าเพื่อให้มันวิงเร็วผิดปกติและห้ามทำอะไรให้ม้าเมาวิ่งไม่ไหวเพื่อเป็นการล้มม้า ซึ่งมีโทษปรับแพงมากๆ แต่ในเมืองไทยมันไม่มีกฎหมายคุ้มครองแบบนี้ ใครขืนไปแทงม้าในเมืองไทย ก็มีแต่จะหมดตัวลูกเดียว เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นเจ้าของม้าด้วยกันที่รู้ว่าม้าคอกไหนจะล้มคือแกล้งวิ่งแพ้ นั่นเอง ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั่นในเมืองไทยมันไม่มี time form ให้คำนวณ คือมันมั่วลูกเดียว มันไม่เหมือนการแข่งม้าในประเทศอังกฤษที่จะต้องมีการเขียนประวัติม้าแต่ละตัวว่าเป็นลูกหลานม้าตัวไหนและมีสถิติความเร็วในการวิ่งในแต่ละครั้งโดยละเอียด โดยจะต้องบอกลักษณะของสนามที่วิ่งด้วย และบอกลักษณะของพื้นดินที่ิวิ่งด้วยว่าสภาพอากาศเป็นยังไง และสนมาบางแห่งวิ่งวนซ้ายแต่บางแห่งวิ่งวนขวา วิ่งไปวิ่งมาม้างงจนเสียม้าได้ แต่ของไทยไม่มีข้อมูลอะไรให้เลย ดังนั้นการพนันม้าในเมืองไทยจึงมีแต่นักพนันจะแพ้หมดตัวเพราะไม่มีข้อมูลอะไรที่จะเอาชนะ bookmaker คือเจ้ามือ ได้เลย
^
แนวคิดเหล่านี้ก็อยู่ในวิชาคณิตศาตร์ว่าด้วยเรื่อง probability นั่นเอง
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 12:36:11
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 09:28:14
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 04:06:09
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 04:01:27
การศึกษาไทยทำอย่างไรถึงจะให้เด็กเห็นว่าที่เรียนไปนำไปใช้ประโยชน์ได้
