ความคิดเห็นที่ 1 ดังนั้นกำแพงดินเหล่านี้เสื่อมสลายได้ง่ายตามกาลเวลา ยังภาพที่นำมาให้ดูนี้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:27:15

ความคิดเห็นที่ 2 ในสมัยราชวงค์ถัง ได้เริ่มพัฒนาการก่อสร้างสถานที่ต่าง ๆด้วย "อิฐ" ซึ่งมีความแข็งแรงมาก แต่ด้วยเป็นของใหม่ จึงมีต้นทุนที่สูงในการก่อสร้าง ดังนั้นอิฐจึงถูกสร้างอยู่เฉพาะกำแพงวัง และป้อมปราการที่สำคัญ ๆ (คือก่อสร้างด้วยการปูอิฐทั้งนอกและใน) ส่วนกำแพงที่อยู่นอกเมืองไปไกล ๆ นั้นด้านในเขาก็ถมด้วยดิน โคลน และทราย และนำอิฐมาดาดไว้เฉพาะด้านหน้าเท่านั้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย การสอด้วยปูนก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว หากแต่ยังไม่มีส่วนผสมของ "น้ำข้าวเหนียว" ดังเช่น "ผสมน้ำอ้อย" เพื่อการเชื่อมติดให้แน่นหนา จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:32:24

ความคิดเห็นที่ 3 ในสมัยราชวงศ์หมิง ได้เริ่มนำ "น้ำข้าวเหนียว" มาเป็นส่วนผสมกับปูน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะระหว่างกันให้แน่นหนาขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อเทคโนโลยีแบบนี้เห็นผลได้ชัด การเผาอิฐเริ่มทำกันอย่างมากมาย ต้นทุนก็ถูกลง การใช้ดินโคลนผสมฟางก็เริ่มเป็นเทคโนโลยีที่เก่ากว่า ทั้งนี้แล้วกาลเวลาก็ทำให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เสื่อมตามกาลเวลา กำแพงเมืองจีนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นชมก็ล้วนบูรณะใหม่ เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนสร้างใหม่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว "กำแพงเมืองจีนแม้จะแข็งแกร่งเป็นหมื่นลี้ หากไม่มีความสามัคคีกันก็ไร้ความหมาย" จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:41:20

ความคิดเห็นที่ 4 ด่านจูหยงกวน ที่ไปเที่ยวมา มีชนชาติหนึ่งฝากรอยเอาไว้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:49:03

ความคิดเห็นที่ 5 ก้อนอิฐใหม่ที่นำมาวางไว้รอการซ่อม จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:51:39

ความคิดเห็นที่ 6 ผนังกำแพงแบบดาดด้วยหิน เชื่อมด้วยปูนเป็นวง ๆ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:53:55

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบพระคุณมากๆครับผม เป็นเช่นที่คุณหนุ่มรัตนะกล่าวมาครับ กำแพงเมืองจีนที่สวยงามแถวๆเมืองปักกิ่งนั้นพึ่งจะสร้างขึ้นใหม่ในสมัยหมิง และบูรณะติดต่อกันเรื่อยมาครับ ส่วนกำแพงสมัยฉินและฮั่นจริงๆนั้น อยู่ทางตะวันตกที่ห่างไกลหรือตามซอกเขาต่างๆในภาคเหนือของจีน ซึ่งมีสภาพทรุดโทรมมาก บางจุดเป็นเพียงแนวกำแพงดินเท่านั้นเอง จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 08:22:48

ความคิดเห็นที่ 8 ชนชาตินั้นไปที่ใหนก็เกรียนได้ทุกที่จริงๆ ตั้งแต่ยูทูปยันกำแพงเมืองจีน จากคุณ : Michael เบ๊ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 08:25:36

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นคห.4 แล้วอายมากค่ะ - -" ขนาดเมื่อวานไปวัดใหญ่ชัยมงคลมา ของของชาติตนเองมันยังเขียนเลยค่ะ เยอะด้วย จากคุณ : HijiriXXX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 08:36:48

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณคุณหนุ่มรัตนะ สำหรับกระทู้มีสาระเสมอมาครับ ;) #8-9 ต้องเรียนว่าถ้าหากไปเยือนกำแพงเมืองจีนด้วยตนเอง จะพบว่ามีการเขียน(สลัก)กันทุกชาติ ทุกภาษาเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นด่านจูยฺยงกวน ปาต๋าหลิง มู่เถียนยู่ยฺ ซือหม่าไถ ฯลฯ ผมเห็นว่าเจตนาของคุณณล คือต้องการนำมาตักเตือนว่า นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากกว่า คงไม่ได้ต้องการนำมาให้เป็นที่แคะไค้ค่อนว่ากันเองนะครับ ด้วยความเคารพ,, จากคุณ : Vive L'Amour เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 09:21:46

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเห็นว่าเจตนาของคุณณล คือต้องการนำมาตักเตือนว่า นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากกว่า คงไม่ได้ต้องการนำมาให้เป็นที่แคะไค้ค่อนว่ากันเองนะครับ ด้วยความเคารพ,, จากคุณ : Vive L'Amour   ++++ ถูกต้องครับ บางกำแพงนั้นถูกขูดขีดทุกชาติทุกภาษา หากแต่เราเห็นว่าเป็นภาษาใดบ้าง ซึ่งเห็นว่ามันไม่ดี แต่ทั้งหมดเราอ่านได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่อักษรแบบนี้มองผ่านตามันอ่านง่ายและเข้าใจดีกว่าภาษาอื่น ๆ โบราณสถานบ้านใคร ๆ ก็รัก จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 09:35:00

ความคิดเห็นที่ 12 อันนี้เป็นซากกำแพงสมัยเป่ยซ่งครับ แต่สร้างโดยราชวงศ์เหลียว เพื่อป้องกันดินแดนทางตอนเหนือของต้าเหลียวจากพวกเผ่าเร่ร่อนในมองโกลเลีย จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:20:33

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนอันนี้เป็นซากกำแพงสมัยราชวงศ์จินครับ ก่อสร้างขึ้นในรัชกาลจักรพรรดิจินซีจง เพื่อป้องกันภาคเหนือจากการรุกรานของพวกมองโกลเผ่าต่างๆ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:28:29

ความคิดเห็นที่ 14 ใช้ไพร่พลชาวหนี่เจินกว่า 1 แสนคน ในการสร้างแนวกำแพงนี้ในมองโกลเลีย จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:28:52

ความคิดเห็นที่ 15 กำแพงเมืองจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น ก่อสร้างด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น ฟางข้าว หญ้ายาว ๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง และทับด้วยดิน เป็นชั้น ๆ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:43:34

ความคิดเห็นที่ 16 ในบางครั้งกำแพงเมืองจีนก็สร้างด้วยหิน บริเวณแคว้นฉู่ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:46:39

ความคิดเห็นที่ 17 ขออนุญาต จขก.ยกข้อความมาเติมที่นี่นิดนึงนะครับ  จากคห.ต่างๆของจขก.ข้างบน  ถ้าอ่านให้ดีก็จะพบความจริงว่าเขาไม่ได้ใช้ข้าวเหนียวเป็นตัวประสานอิฐครับ ถึงแม้ยุคหลัง(หรือกำแพงบางส่วน)จะมีการใช้อิฐ(ที่เผาสุกก็ตาม) ตัวประสานเชื่อมอิฐสุกให้ติดกันนั้น  เขาใช้ ปูน ครับ ส่วนน้ำที่ใช้ผสมปูน  ที่ว่าเป็น "น้ำข้าวเหนียว" : คห.3  (ไม่ใช่ "ข้าวเหนียว" เฉยๆนะครับ) นั้น เป็นภูมิปัญญาของคนโบราณ  คือการที่ให้มีส่วนผสมของสารประเภทแป้ง หรือน้ำตาลนั้น  จะทำให้ปูนเซ็ทตัวช้าลง  ครับ เมื่อใช้ผสมปูน  ปูนก็จะมีเวลาที่จะอัดตัวกันแน่นลง  รูพรุนในเนื้อปูนจะน้อยลง  มันเลยแข็งแรงขึ้น วัตถุประสงค์ในยุคนั้น  น่าจะแค่ต้องการให้ปูนเซ็ทตัวช้าลง  จะได้มีเวลาในการทำงานเท่านั้นครับ สมัยเมื่อหลายสิบปีก่อน  ยังไม่มีน้ำยากันซึม  หรือน้ำยาหน่วงการเซ็ทตัวของคอนกรีต เข้ามาขาย ช่างก่อสร้างก็จะใช้วิธีเติมน้าตาลน้ำอ้อย  ลงในน้ำที่จะใช้ผสมปูน  เพื่อให้คอนกรีตเซ็ทตัวช้าลง ฟองอากาศที่เกิดขึ้นตอนผสมปูนก็จะออกจากเนื้อคอนกรีตได้มาก  ทำให้เนื้อคอนกรีตแน่นขึ้น รู หรือ โพรงในเนื้อจะน้อยลง  ทำให้แข็งแรงและกันน้ำซึมได้ดีขึ้น จะเห็นว่าความไม่รู้  ทำให้คนเราเชื่ออะไรผิดๆได้ง่ายครับ    ขอบอกว่าข้าวเหนียว  ไม่ใช่ตัวเชื่อมอิฐครับ  ตัวเชื่อมที่แท้จริงคือ "ปูน" ครับ จากคุณ : ครับผม เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:08:28

ความคิดเห็นที่ 18 ปูนข้าวเหนียว ก็มีนะครับ "ปูนตำทำจากปูนขาวที่หมักและกรองจนสะอาด ตำผสมกับทรายละเอียด ข้าวเหนียวสุก และกระดาษฟางที่แช่น้ำจนเปื่อยยุ่ย ตามสัดส่วนที่เหมาะสม ตำให้ละเอียดเข้ากันจนเหนียวและหนืดเหมาะแก่การใช้งานแต่ละชนิด  ช่างบางคนจึงเรียกปูนตำนี้ว่า ปูนข้าวเหนียว " ที่มา http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=3086 จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:59:12

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณคุณหนุ่มรัตนะค่ะ   ได้ยินที่ไกด์บอกข้าวเหนียว  ตอนนั้นยังสงสัยว่าโดนฝนนานๆไม่พังหรือไร ? แต่ก็ปากหนักไม่ได้ถามต่อ อีกอย่างมีความรู้สึกแปลกๆนึกว่ามึนเพราะขึ้นกระเช้า ( กลัวความสูงค่ะ ) ปรากฏว่ามีแผ่นดินไหวรู้สึกถึงคนที่ยืนบนกำแพงด่านป่าต้าหลิงค่ะ คนที่เป็นไกด์เขาก็ผ่านการอบรมมาแล้ว  ก็ต้องให้ความเชื่อถือในคำอธิบายของเขา เป็นไปได้ว่าเขาไม่ใช่คนไทยการสื่อสารอาจจะคลาดเคลื่อน เผอิญเรียนสายศิลป์เลยไม่ได้สนใจมากนักในการก่อสร้าง นอกจากคิดว่าอลังการมาก   อย่างที่บอกไว้ค่ะสงสัยแต่ไม่ถามต่อ แต่ก็เพราะประเด็นข้าวเหนียว    เลยทำให้ได้ทราบข้อมูลดีๆจากคุณหนุ่มรัตนะ กระเช้าที่นั่งขึ้นกำแพง  ก็มีภาษาจีนเขียนเต็มกระจก  ยังมีภาพติดตัวหนังสือจีนมาด้วย รูปชุดนี้ลงไว้ในซีดียังไม่มีเวลาหาค่ะ ไม่อย่างนั้นคงมีมาประชันกับคุณหนุ่มรัตนะ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 17:41:02 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:39:40

ความคิดเห็นที่ 20 ^ ในกระเช้าแบบนี้ซิครับ แต่เกาหลีก็แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ จากคุณ : หลี่ เสียนหลอ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:31:39

ความคิดเห็นที่ 21 อันที่จริงงาน ก่อสร้างแต่โบราณ ก็คงใช้วัสดุในท้องถิ่นเป็นหลักอยู่แล้ว แต่หลักการที่สำคัญคือการบดอัด ให้อยู่ตัวมากกว่า อีกอย่างทางเหนือของจีน ฝนไม่ได้ตกกันมากมายนะครับ บ้านรุ่นก่อนๆยัง ฉาบผิวกันด้วย ดินผสมฟางกันอยู่เลย -รูป บ้านชาวนา ทางตอนเหนือของเมือง ซีอัน บ้านเป็นแบบก่ออิฐด้วยปูนแล้ว แต่รั้วยังเป็นแบบดั้งเดิมอยู่ แถมโรงเก็บของก็ เจาะเข้าไปในเขา เป็นเหมือนตู้เย็นตามธรรมชาติ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 18:42:15 จากคุณ : หลี่ เสียนหลอ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:41:53

ความคิดเห็นที่ 22 ส่วนบ้านหลังนี้ ไม่มีคนอยู่แล้ว หลงมาจากยุค คอมมูน นู๊น ใช้ก่ออิฐ แนวตั้งทั้งหลัง ฉาบผิวด้วยดินผสมฟางข้าว อันที่จริงมีรูปแบบอย่างนี้เยอะครับ แต่เอาเท่านี้ก่อน จากคุณ : หลี่ เสียนหลอ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:51:11

ความคิดเห็นที่ 23 คนที่เป็นไกด์เขาก็ผ่านการอบรมมาแล้ว  ก็ต้องให้ความเชื่อถือในคำอธิบายของเขา เป็นไปได้ว่าเขาไม่ใช่คนไทยการสื่อสารอาจจะคลาดเคลื่อน จากคุณ : tintila     +++ ถึงคุณ  tintila ที่นับถือ ... ไกด์ในคณะทัวร์กระผมคุยแต่เรื่องเล่นหุ้น จนลืมเล่าประวัติศาสตร์จีนไปทุกมุม 555+ อีกอย่าที่อยากกระซิบคุณ  tintila ว่าอย่าเชื่อถือมาก เคยไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว ได้ยินไกด์อธิบายเรื่องเครื่องทรงพระแก้ว อธิบายเรื่องวังหลวง ฟังแล้วอยากจะเอาเทปกาวไปปิดปาก มั่วไปหมด เช่น ต่างชาติถามว่า : ทำไมถึงปิดทองไปทั่ววัดเลย ไกด์ : เพราะเป็นสีแห่งพระเจ้าแผ่นดิน เหลือง --- ทอง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:23:59

ความคิดเห็นที่ 24 ยังดีนะครับที่ไกด์ไม่บอกว่า สารที่ใช้ก่ออิฐกำแพงเมืองจีน  มีชื่อว่า "ปูนตำ" ซึ่งท่านจิ๋นซีฮ่องเต้ อิมพอร์ทจากเมืองสยาม 555 จากคุณ : ครับผม เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:07:09

ความคิดเห็นที่ 25 ^    คุณหนุ่มรัตนะ แล้วสาเหตุจริงๆที่ปิดทองไปทั่ววัดคืออะไรละครับ เรื่องมั่วๆที่ว่าพอจะยกมาเล่าให้ฟังบ้างได้มั้ยครับ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 20:30:16 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:24:46

ความคิดเห็นที่ 26 พวกฝรั่งหนักกว่าไทยอีกเยอะครับ มีไปจัดปาร์ตี้แคมป์ไฟกันบนกำแพงด้วย เอาเต้นกันไป แบบว่าเมาปลิ้นกัน อึ ฉี่ กันพุ่มไม้แถวกำแพง แล้วก็คงเหลือขยะไว้สำหรับบางกลุ่ม ผมก้เคยอยากไป แต่รับไม่ได้เรื่องการถ่ายหนัก จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:07:57

ความคิดเห็นที่ 27 บางคห.ยัง ค ว า ย ตั้งแต่กระทู้ก่อนยันกระทู้นี้ไม่เลิกนะคะ  พยายามจะแถทุกวิถีทางให้ตัวเองถูกให้ได้  ขนาดมีผู้รู้มาบอกเรื่องข้าวเหนียวแล้ว  มันยังแถได้อีกว่า "น้ำข้าวเหนียว ไม่ใช่ข้าวเหนียว"  สมเป็นเกรียนไทยจริงๆเจ้า -_-'  กระทู้ก่อนมั่ว กระทู้นี้แถ ให้ได้งี้สิเจ้า คุณtintila อาจใจเย็นไม่ด่า  แต่เราขอด่าเอง  เพราะเราเกลียดคนแบบนี้ที่สุด  พวกอวดรู้แล้วดูถูกคนอื่นเนี่ย  แบบเซ็งมากเข้ามาอ่านเสพความรู้ดีๆ  เจอบางคห.ไปนี่อย่างเซ็ง ขออภัย จขกท.คุณหนุ่มรัตนะด้วยนะคะ  แต่ถ้าไม่กระทุ้งเกรียนบ้าง  มันคงเกรียนไปเรื่อยๆอะเจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:41:23

ความคิดเห็นที่ 28 ได้ความรู้และข้อคิดมากเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:11:24

ความคิดเห็นที่ 29 มันจบวิศวะเพราะอ่านหนังสือเท่านั้นนี่หว่า นอกนั้นมันเป็นกรรมกรชัดๆ ตรรกะหรือการเข้าสังคม มีค่าน้อยกว่า0 เพี๊ยะๆๆ  น่าสมเพช จากคุณ : กรรมกร (rabellu) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:12:03

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย  เราว่าเพลาคำพูดลงนิดดีกว่านะคะ ไปด่าเค้าว่า ค ว า ย เนี่ย มันไม่แรงไปเหรอคะ ^_^'' เถียงกันด้วยเหตุและผลเถอะค่ะ อย่ารุนแรงใส่กันเลย จากคุณ : ~CaRaMelLoVer~ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:16:24

ความคิดเห็นที่ 31 สำเนียงส่อภาษา   สำนวนที่ใช้ส่อสกุล จากคุณ : ครับผม เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:20:15

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ : หนุ่มรัตนะคะ   กลายเป็นไกด์ไม่ได้เรื่องซะแล้ว  ทั้งๆที่ว่าเลือกมาดี ทิพย์นี่เขาบอกเลยว่ารับเฉพาะกรุ๊ฟพิเศษ  ทิพย์มีเชื้อสายแมนจู (บอกเหลือไม่เยอะแล้วค่ะ)   ทริปหลังพาลูกไปเป็นทัวร์ทั่วๆไป ไกด์ขนมผิงน่ารักค่ะ เพราะทริปแรกไม่ได้ไปวัดลามะ   วังฤดูร้อน  พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งเลยต้องไปอีกรอบ พอสามีไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่ไปฝึกใช้เครื่องมือขุดเจาะน้ำมัน ที่ปักกิ่ง เขาได้ไปดูสุสานกษัตริย์  ที่ยังไม่เคยไป อิจฉาอยากไปค่ะ แต่ลูกขอไปที่อื่นบ้างเพราะพาลูกไปจีนอีกครั้งที่เซี่ยงไฮ้ ( งานเอ็กซ์โป) ลูกเบื่อจีนแล้ว ที่จริงก่อนไปก็ศึกษาแต่ละที่พอให้รู้บ้าง  ทริปแรกเน้นที่พัก 5ดาว  ทานอาหารชั้นดี ทริปหลังเที่ยวเยอะ   อาหารพอทานได้ค่ะ คุณ : หลี่ เสียนหลอ ใช่ค่ะ   เพื่อนๆบ่นกันว่าทำไมภาพรกๆ  ยังขำกัน   ไม่แพ้พี่ไทยนะคะ คงอย่างที่คุณบอกคงไม่ค่อยมีฝน ขอบคุณค่ะ       คุณ : ครับผม คะ  คห.ที่ 17 ของคุณใช้เหตุใช้ผลดูเหมาะสมกับที่คุณบอกเป็นวิศวกร แต่พอเห็นคห.ที่ 24 ขอบอกสลดใจ ดิฉันไม่ขำค่ะ อย่าทำให้กระทู้ที่ให้ความรู้แบบนี้เสียเลยนะคะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:48:54

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบพระคุณมากค่ะ  อ่า่นเพลินเลย จากคุณ : biebie999 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 06:43:59

ความคิดเห็นที่ 34 กุนซือเมืองนี้เขาแรงดีจริง "กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย"... ไม่เคยสงสัยหรือว่า "ข้าวเหนียว" เมืองสยาม กับ ข้าวเหนียว ที่เมืองจีน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร อยู่รัฐวุ่ยน่าจะเคยสำรวจพืชผลการเกษตรบ้างหรือไม่ ถ้าทราบวานบอกด้วย...อิอิ คุณ tintila ครับ ประเทศจีนมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และทิวทัศน์งาม ๆ มากมายครับ ดูอย่างสมเด็จพระเทพฯ ที่เสด็จจีนมากครั้ง ทรงพระราชนิพนธ์ตำราไว้มาก มีเรื่องราวใหม่ ๆ ตลอดการเดินทางเลยนะครับ จากคุณ : ผมก็วิศวกรนะ (หนุ่มรัตนะ) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 07:47:18

ความคิดเห็นที่ 35 จริงเนอะคนเรา คงไม่มีใครรู้หมดทุกอย่างหรอก อันไหนไม่รู้ก็คือไม่รู้ ไม่รู้แล้วทำอวดรู้นี้ ไม่ไหว จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:08:23

ความคิดเห็นที่ 36 คุณหนุ่มรัตนะ  ไม่เคยสงสัยค่ะว่าต่างกันยังไง  เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันต่างกันเจ้า  ข้าวเหนียวบ้านเราก็ข้าวเหนียวแบบที่ร้านส้มตำขาย  ข้าวเหนียวจีนจะเส้นป้อมกว่า  หุงแล้วคล้ายข้าวสวยมากกว่า  เราว่าเหมือนข้าวญี่ปุ่นมากกว่าข้าวเหนียวบ้านเราค่ะ คุณ~CaRaMelLoVer~ พูดด้วยเหตุผล  เราก็พูดไปแล้วค่ะตั้งแต่กระทู้ก่อน  พูดดีๆด้วย  แต่ ค ว า ย บางตัวมันอ่านไม่เข้าใจค่ะ  มันยัง ค ว า ย + เ ก รี ย น อยู่ก็ต้องด่าภาษาที่มันเข้าใจอะค่ะ  แต่ขนาดนี้แล้วมันไม่เข้าใจอีก  คงเพราะมัน ค ว า ย จริงๆค่ะ เผอิญสกุลไม่ดี  ภาษาไม่ดีเจ้าค่ะ  ที่บ้านสอนมาไม่ดีเจ้าค่ะ  เลยพูดจาแบบนี้  อย่าหวังเลยว่าคนอย่างเราจะพูดจาเพราะพริ้ง  เรามันก็กุึนซือปากจัดตามชื่อนั่นแหละค่ะ  จะหามารยาทและIQจากคนอย่างเรา  หายากยิ่งกว่าจมหาพญานาคในลุ่มน้ำโขง(สำนวนไหนเนี่ย) อีกอย่างคนที่เราเกลียดที่สุดคือจำพวก ดูถูกคนอื่นเจ้าค่ะ  ยิ่งพวกไ่ม่มีความรู้แต่ยังกล้าดูถูกคนอื่นอีกเนี่ย  ยิ่งน่ารังเกียจที่สุด ตบเกรียนเสร็จละมันแถต่อไม่ออกละ  พอใจละเจ้า  ขอกลับไปนั่งอ่านกระทู้เงียบๆแบบแต่ก่อนละกันนะเจ้า  ^ ^ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 15:15:55

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณครับ พี่ณล จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 17:12:30

ความคิดเห็นที่ 38 ที่อยุทธยา บ้านเราก็เอาข้าวเหนียว น้ำอ้อยผสม อิอิ จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 17:55:37

ความคิดเห็นที่ 39 ขอมาตอบอีกรอบเรื่องข้าวเหนียวนะคะ เพิ่งคิดขึ้นมาได้ ข้าวเหนียวไทยกับจีนต่างกันแน่นอน  แล้วข้าวเหนียวที่ใช้ผสมสมัยราชวงศ์หมิงกับข้าวเหนียวจีนปัจจุบันสายพันธ์เดียวกันรึเปล่าเจ้า ?  หรือต่อให้สายพันธ์เดียวกันผ่านมา600ปีแล้ว  มันน่าจะกลายพันธ์ไปพอสมควรนะเจ้า ถ้ามันกลายพันธ์หรือคนละสายพันธ์กันจริง  คำตอบของข้าเจ้าคห.36น่าจะผิดนะเจ้า ความเห็นส่วนตัว  ข้าวเหนียวที่อร่อยที่สุดสำหรับข้าเจ้า  คือข้าวเหนียวไก่ย่างเจ้าค่ะ  จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่ว  อร้อยอร่อยเจ้า  ^ 0 ^ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 18:33:02

ความคิดเห็นที่ 40 กิ๊ฟมีแจกแล้ว แต่มีแจก"กีบ"มั๊ยครับ  จะยกให้บางความเห็นที่ พูดถึงความไม่รู้ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่รู้ 555+ จากคุณ : sega เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 06:35:22

ความคิดเห็นที่ 41 กระทู้ดีๆ ทะเลาะกันจนน่ากลัวจะถูกแบนจริงๆ สมัยก่อน คนโบราณเขาลองผิดลองถูก ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่หลายๆ อย่างได้ผ่านการพิสูจน์จากคนรุ่นก่อนหน้า (ก็คนโบราณน่ะแหละ) ว่ามันใช้ได้จริง และการศึกษาค้นคว้าก็ก้าวหน้ามากขึ้น ฉะนั้นที่มีคนบอกว่าใช้ข้าวเหนียว เราไม่แปลกใจหรอก สมัยก่อน คนยังไม่รู้ มีอะไรลอง ก็ลองกันไป ใช้ไม่ได้ ก็เลิกใช้ ถ้าใช้ได้ ก็ใช้กันต่อ เท่านั้นเอง แถมนิดนึง บางคนอาจคิดว่า ข้าวญี่ปุ่น กับข้าวเหนียวบ้านเราก็ครือๆ กัน แต่จริงๆ ไม่ใช่ ข้าวญี่ปุ่น มีทั้งที่เป็นข้าวเจ้า กับข้าวเหนียว แต่เผอิญข้าวเจ้ามันมีลักษณะต่างจากข้าวเจ้าของไทย ออกจะเหนียวนิดๆ ไม่ถึงขนาดข้าวเหนียวของไทย แต่นุ่มกว่าข้าวไทย ส่วนข้าวเหนียวของญี่ปุ่น ก็เอาไว้ทำโมจิ ซึ่งต่างจากโมจินครสวรรค์อย่างสิ้นเชิง ขนมโมจิของญี่ปุ่นที่ใช้ข้าวเหนียวทำ ขอให้นึกถึงขนมกะลอจี๊ของจีน หาได้แถวเยาวราช แต่ไม่ได้ทอด แป็งจะเหนียวๆ นุ่มๆ ประมาณนั้น สำหรับคนกรุงเทพ ขนมโมจิของญี่ปุ่น สามารถหาได้ตามห้าง ขนมตัวนี้แหละที่ใช้ข้าวเหนียวญี่ปุ่นทำ (แต่เราว่าถ้าใช้แป้งข้าวเหนียวของไทย ก็น่าจะได้นะ) จากคุณ : Canossa เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 16:51:46

ความคิดเห็นที่ 42 พี่หนุ่มรัตนะ ครับ สรุปแล้วว่า ทำไม วัด วัง ทั้งหลาย จึงนิยมสีทองครับ? ขอความรู้ด้วยคนครับ จากคุณ : น้องกี้...ความรู้แค่คืบ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 11:54:20

ความคิดเห็นที่ 43 นั่นน่ะสิ ทำไมถึงต้องปิดทอง ลองค้นในอากู๋ โดยใช้สารพัดคำค้น จนในที่สุดก็ถามอากู๋ดื้อๆ เลยว่า "ทำไมต้องปิดทองพระ" ก็ได้ลิงค์มาโขยงนึง http://www.google.co.th/search?rlz=1C1LAVA_enTH349TH353&sourceid=chrome&ie=UTF-8&q=%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D+%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87#pq=%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D+%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87&hl=th&cp=8&gs_id=1c&xhr=t&q=%E0%B8%97%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0&pf=p&sclient=psy-ab&rlz=1C1LAVA_enTH349TH353&source=hp&pbx=1&oq=%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87&aq=0&aqi=g1&aql=&gs_sm=&gs_upl=&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.,cf.osb&fp=30662ccb5fc967d6&biw=1024&bih=653 จากคุณ : Canossa เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 16:19:14

ความคิดเห็นที่ 44 มาอ่านประวัติศาสตร์ค่ะ จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 22:39:15

ความคิดเห็นที่ 45 ข้าวเหนียวจีนที่ว่าหมายถึงแบบไหนไม่รู้นะ แต่ข้าวเหนียวแบบไทย มีขายในจีนแน่นอน ปลายปีที่แล้วผมได้จัดปาร์จตี้อาหารอีสานไปที่ต้าเหลียน หุงข้าวเหนียวได้เหมือนอีสานแท้ๆเลย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 00:18:20