|
เห็นเงินเดือนอาจารย์มหาลัยแล้วเราต้องเลิกดูถูกงานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือแฮะ งานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือคืองานแปลด่วนที่รับจากร้านแปลเอกสารแถวๆ ถ. วิทยุ กับ ถ. เพลินจิต ร้านแปลรับหน้าร้านหน้าละ 400 บาท กินหัวคิวไป 50% แล้วจ่ายให้น้กแปลหน้าละ 200 บาท นักแปลเลยแปลลวกๆมา
เราแปลเร็วมาก แต่เราแปลได้ดีกว่านักแปลหลายๆคน เราแปลได้วันละ 10 หน้า ก็ได้วันละ 2,000 บาท (งานมีให้ทำทุกวันถ้าอยากจะทำ) ถ้าทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน หยุด เสาร์ อาทิตย์ ก็เหลือ ทำงานแค่เดือนละ 22 วัน รายได้ก็ประมาณเดือนละ 44,000 บาท สบายๆทุกเดือน
ความรู้ที่เรานำไปใช้สมัครงานก็คือ เราจบ มัธยมต้น แต่เราเขียนภาษาอังกฤษได้ไม่แพ้คนจบปริญญาโทหรือเอกด้านภาษาอังกฤษจากเมืองนอกมา คนเรียนด้านภาษามาวุฒิสูงบางทีลองไปแปลงานก๋วยเตี่ยวเรือ แต่แปลไปแล้วโดนลูกค้าตีกลับมาแล้วไปไม่รอดก็มี
เราเบื่องานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือมากๆ กะจะเปลี่ยนอาชีพเป็นหมอดู แต่แฟนเราไม่ยอมให้เราไปเป็นหมอดู สงสัยกลัวเราจับไม้จับมือสาวๆตอนดูดวง มันจะทำให้เรามีกิ๊กหลายคน ฮาๆๆ เธอเลยใช้วุฒิปริญญาโทด้านภาษาอังกฤษรับงานแปลมาเป็นชื่อเธอ แล้วโยนให้เราทำ เธอรับมาได้ ในอัตราสูง 5 เท่าที่เรารับคือหน้าละ 1,000 บาท เราเลยทำงานวันเดียวได้เงิน 10,000 บาท แต่จะว่าไปอะนะ งานราคาแพงๆแบบนี้มันก็ไม่มีบ่อยๆหรอก เราเลยบางทีต้องแปลนิยายให้สำนักพิมพ์สลับกัน บางทีก็รับทำงานเป็นบรรณาธิการหนังสือแปลบ้างสลับกัน
เราเพิ่งมาคิดอะไรได้อะนะ ถ้าเราเรียนภาษาจีนด้วยตัวเองเหมือนเราเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง แล้วไปรับงานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ แต่เป็นแปลภาษาจีน เขาให้ตั้ง 2 เท่าแน่ะ คือหน้าละ 400 บาท (บริษัทแปลรับหน้าร้านหน้าละ 800 บาท) ถ้าเราเรียนภาษาจีนให้เก่งแค่ครึ่งเดียวของความรู้ภาษาอังกฤษที่เรารู้ เราน่าจะใช้วุฒิมัธยมต้นของเราหาเงินได้เดือนละ 88,000 บาท โดยการแปลจีนเป็นอังกฤษ
แต่เรียนๆภาษาจีนไปดันซ่าไปทดสอบ computer software มากเกินไปแฮะ จนงานแปลหนังสือก็ไม่ค่อยได้แปล สงสัยซ่ามากไม่ทำงานเพราะบางทีพ่อเราแบ่งเงินให้เราใช้อ้ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ก็เลยหมู่นี้ขี้เกียจบรรลัยเลย!
ตอนนี้เราว่าเราเปลี่ยนอาชีพไปเป็นหมอดูเหมือนที่เคยตั้งใจไว้ น่าจะดีกว่าอะนะ
อาชีพอะไรก็ได้ให้มันได้เงิน ถ้าอยากสอนวิชาที่เราเชี่ยวชาญให้คนไทยเพื่อพัฒนาประเทศชาติ เรารอรับมรดกจากญาติผู้ใหญ่ทั้งฝั่งเรากับฝั่งแฟนเราก่อนจะดีกว่า ได้มรดกรวมๆกันน่าจะเกิน 200 ล้านบาท นะ (ตอนแรกเราไม่คิดว่ามรดกจะมูลค่ามากขนาดนั้นจนกระทั่งเราเพิ่งเห็นราคาที่ดินใหม่ที่เป็นทางการที่เพิ่งออกทีวี เมื่อไม่กี่วันนี้) ถ้าเรามีทุนสำรองแบบนี้นะ อยู่เฉยๆไม่ต้องทำงานก็ยังได้ (แค่ให้บริษัทเช่าหน้าดินแพงๆเปิดทำธุรกิจเดือนหนึ่งเป็นแสนบาท (โดยไม่ต้องขายอสังหาริมทรัพย์)) ^ ถ้ามีรายได้แบบนั้นนะ เราถึงจะยอมทำการกุศลโดยการเขียนบทเรียนเป็น video clips สอนวิชาที่เราเชี่ยวชาญ โดยสร้างบทเรียนด้วยด้วย computer software อย่างเช่น camtasia (กว่าเราจะรับมรดกคงมี software เก่งๆกว่านี้แล้ว) แล้วเราก็จะ upload ขึ้น youtube ไปให้คนไทยเรียนฟรีกันเพื่อพัฒนาประเทศชาติ
^ แนวคิดแบบนี้ ที่เราเรียกว่า Charity begins at home. นั่นก็คือก่อนที่เราจะไปทำการกุศลที่ไหนให้ดูแลครอบครัวเราให้อยู่ดีกินดีซะก่อน เราเคยเสนอในบางกระทู้ ให้คนที่กระเสื้อกกระสนอยากเป็นครูอ่าน แต่ "พวกองุ่นเปรี้้ยว" ที่หาเงินจากอาชีพอื่นไม่ได้ถึงต้องไปเป็นครูอาจารย์ต่างก็เข้ามารุมด่าเรา หาว่า
"เราไม่เข้าใจที่พวกเขายอมกัดก้อนเกลือกิน เพื่อเป็นครูบาอาจารย์ เพื่อพัฒนาประเทศชาติ"
จริงๆแล้วครูบาอาจารย์ที่ดีมันต้องพร้อมทุกอย่าง แบบ Charity begins at home. ซะก่อน ม่ายงั้นปากท้องมันร้อง มันก็เป็นครูที่ดีไม่ได้หรอก เพราะวันๆมันคิดแต่เรื่องเงินๆทองๆ มันไม่มีความคิดพลิกแพลงแปลกๆใหม่ๆที่จะเตรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพได้เลย
คือเราเคยอยากสอนภาษาอังกฤษน่ะ จริงๆแล้วความเชี่ยวชาญด้านการแปลเรามีมากพอที่เราจะสอนการแปลระดับปริญญาโทในมหาลัยได้ แต่ขนาดเราเคยไปสมัครงานสอนภาษาอังกฤษแค่ ม. ปลาย เขายังไม่รับเราเลยเพราะเราไม่มีปริญญาตรี เราก็เลยทำงานแปลของเราต่อไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าประสบการณ์แบบเรานี้ถ้าไม่อยากได้ เราไม่สูญเสียอะไร
"แต่พวกเขาสิที่จะไม่ได้อะไรดีๆแปลกๆแหวกแนวจากเราไป เพราะมัวแต่ไปยืดกับวุฒิการศึกษาแทนที่จะเป็นความสามารถและผลงานที่พิสูจน์ได้จริงๆจากประสบการณ์การทำงานในชีวิตจริง"
หางานแปลนิยายจากสำนักพิมพ์เราพอหาได้ แค่ส่งตัวอย่างการแปลดีๆไปส่วนใหญ่เราจะได้งาน ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษาสูงๆมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเคยมีผลงาตีพิมพ์มาแล้วมันก็เลยพอเป็นใบเบิกทางให้เราดีไม่แพ้ปริญญาทางด้านภาษา
แต่จะอย่างไรก็ตามพออ่านเจอว่าอาจารย์ได้เงินเดือนเท่าไหร่ มันทำเราหวนคิดถึงรายได้ที่เราเคยได้จากงานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือที่เราดูถูกมันนักหนานะ ทำให้เราคิดว่า "มันก็ยังมากกว่าเงินเดือนอาจารย์มหาลัย" แต่เราดันไปปฏิเสธมันเองเพราะโลภมากหวังจะได้งานแปลราคาแพงๆมากกว่านั้น
สรุปแล้วเราเปลี่ยนอาชีพเป็นหมอดูน่ะ ดีที่สุดแล้ว ความเชี่ยวชาญที่น่าจะทำเงินให้เราได้มากๆนั่นก็คือ เราคลำชีพจรลูกค้า ถ้าเป็นผู้ชาย แล้วชีพจรอ่อนเรารู้ว่าเขาต้องเป็นกามตายด้าน เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้ชายเป็นกามตายด้านด้วยการฝึกกำลังภายในและใช้สมุนไพรตามแบบฉบับแพทย์จีนโบราณ เราน่าจะทำอาชีพนี้จริงๆนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คือจริงๆแล้วทำอาชีพอะไรก็ได้ให้มันได้เงินง่ายๆ อย่ามัวแต่ยึดติดกับอุดมการณ์เลย อุดมการณ์มันกินไม่ได้หรอก!
แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 00:59:41
แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 00:54:34
แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 00:44:33
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ม.ค. 55 00:33:12
|
|
|
|
|