|
ดังที่คุณ bmjas กล่าวมาครับผม จักรพรรดิจีนจะมีพระนามให้เรียกขานได้หลากหลาย
ชื่อเล่น ที่เรียกกันในครอบครัว มักจะเป็นชื่อที่พ่อแม่ใช้เรียกลูกในยามที่ยังเล็กอยู่
ชื่อตัว อันเป็นชื่อที่ได้มาเมื่ออายุได้ระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งชื่อตัวของจักรพรรดิซวนทง คือ ผู่อี้ ครับ โดยคำว่า ผู่ นั้นเป็นชื่อรุ่น ที่กำหนดให้เชื้อพระวงศ์ในราชวงศ์ชิงทุกคนต้องใช้ชื่อรุ่นตามลำดับเพื่อเป็นการบอกศักดิ์ในราชวงศ์ครับ (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ชื่อรุ่นของต้าชิงจะบัญญัติโดยจักรพรรดิคังซี เพื่อให้มีชื่อรุ่นตามแบบชาวฮั่นครับ)
ตัวอย่างเช่น โอรสของจักรพรรดิคังซีทุกพระองค์ใช้ชื่อรุ่นว่า หยิ่น เช่น หยิ่นจือ องค์ยใหญ่, หยิ่นเหริน รัชทายาท, หยิ่นเจิ้น ที่ต่อมาเป็นจักรพรรดิหย่งเจิ้น, หยิ่นถี, หยิ่นซื่อ องค์แปด เป็นต้น)
โอรสของจักรพรรดิหย่งเจิ้น และองค์ชายในรุ่นหยิ่นทุกพระองค์ จะใช้ชื่อรุ่นว่า หง เช่น หงสือ (โอรสองค์ที่สามของจักรพรรดิหย่งเจิ้น), หงลี่ (จักรพรรดิเฉียนหลง) เป็นต้น
อย่าง ชุนชินอ๋อง พระชนกของจักรพรรดิซวนทงก็มีชื่อว่า ไจ้เฟิง ครับ ส่วนพระเชษฐาของพระองค์คือ จักรพรรดิกวางสู มีชื่อว่า ไจ้เถียน และจักรพรรดิถงจื้อ มีพระนามว่า ไจ้ชุน เป็นต้นครับ
นอกจากนี้ยังมีพระนามในภาษาแมนจูอีก ซึ่งก็เป็นการแปลพระนามในภาษาฮั่นไปหน่ะครับ
พอขึ้นเป็นจักรพรรดิแล้ว ประชาชนจะไม่ขนานนามจักรพรรดิครับ แต่จะเรียกจักรพรรดิหรือฮ่องเต้เฉยๆ หรือในบางกรณี อาจจะใช้ชื่อรัชสมัยหรือรัชศก มาขนานนามจักรพรรดิก็ได้ เช่น จักรพรรดิถงจื้อ ใช้ศักราชว่า ถงจื้อ (แปลว่าร่วมกันปกครอง เพราะซูสีและซูอันไทเฮาร่วมกันว่าราชการ)
นอกจากพระนามรัชศกหรือรัชสมัยแล้ว เมื่อจักรพรรดิล่วงลับไป ก็จะมีการบันทึกพระนามลงในประวัติศาสตร์ครับ อันจะเป็นการบ่งบอกถึงวีรกรรมหรือคุณสมบัติทางประวัติศาสตร์ของจักรพรรดิองค์นั้นๆ
เช่น จักรพรรดิซวนทง มีพระนามในทางประวัติศาสตร์ (หรือพระนามแต่งตั้ง) ว่า โม่ตี้ 末帝 คำว่า โม่ 末 หมายถึงสิ้นสุดหรือสุดท้าย ครับ
หรือ ซวิ่นตี้ 逊帝 ก็คือ จักรพรรดิผู้ถูกแทนที่ เพราะคำว่าซวิ่น 逊 แปลว่ายึดหรือเข้าแทน
จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ มักจะได้รับนามแบบนี้เป็นประจำเลย เช่น จักรพรรดิเหี้ยนเต้ 獻帝 (หรือเซียนตี้) ของราชวงศ์ตงฮั่น เพราะเหี้ยนหรือเซียน 獻 แปลว่าถูกแสดง หรือพูดง่ายๆว่าถูกเชิดหรือตั้งบนหิ้งให้เขาเชิด เพราะพระเจ้าเหี้ยนเต้ถูกคนโน้นคนนี้ โดยเฉพาะโจโฉเชิดเป็นสัญลักษณ์ตลอดมา
หรือ จักรพรรดิหรูจื่อ 孺子 ที่เป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของซีฮั่น ก็ถูกขนานนามนี้ เพราะหวางหมั่งตั้งพระองค์เป็นจักรพรรดิในวัยเพียง 1 ชันษา ครับ 孺子 แปลว่าทารกนั่นแล
พระนามแต่งตั้งนี้มักจะบอกถึงคุณสมบัติของจักรพรรดิองค์นั้นๆว่า มีลักษณะเด่นทางการปกครองอย่างไร อาจจะมีทั้งในแง่ดีและไม่ดีก็ได้
อีกแบบหนึ่งคือ พระนามที่ถูกจารึกในศาลเทพบิดร (เมี่ยวเหา) 庙号 ครับ เมื่อจักรพรรดิสิ้นพระชนม์ไป พระนามของพระองค์จะถูกจารึกไว้บนป้ายพระวิญญาณในศาลเทพบิดรครับ ซึ่งมักจะจารึกแต่พระนามในแง่ดีหรือค่อนข้างดีให้ลูกหลานได้สักการะ โดยจะมีหลักการง่ายๆว่า หากเป็นปฐมวงศ์ หรือปฐมของสายราชวงศ์ จะลงท้ายพระนามด้วยคำว่า จู่ 祖 ส่วนพระองค์อื่นๆจะลงท้ายพระนามว่า จง 宗
เช่น จักรพรรดิหมิงไท่จู่ หรือจักรพรรดิหงอู่ เป็นปฐมวงศ์ เลยได้พระนามในศาลเทพบิดรว่า ไท่จู่ ที่แปลว่าปฐมวงศ์ผู้ยิ่งใหญ่
พระนามในศาลเทพบิดรนี้ บางพระองค์อาจจะมี บางพระองค์ก็ไม่มีครับ เพราะราชวงศ์ล่มไปเสียก่อน เลยไม่มีการถวายพระนาม หรือเพราะทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ ลูกหลานหรือคนที่สืบราชสมบัติ เลยไม่บรรจุพระนามเอาไว้ก็มี
เช่น จักรพรรดิซวนทง เนื่องจากสิ้นราชวงศ์ เลยไม่มีพระนามในศาลเทพบิดร, ไห่หลิงอ๋อง แห่งต้าจิน เนื้องจากตอนมีชีวิตโหดร้ายทารุณและโดนโค่นราชสมบัติ พระองค์เลยไม่มีพระนามในศาลเทพบิดร เป็นต้น
จากคุณ |
:
อุ้ย (digimontamer)
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ก.พ. 55 08:19:51
|
|
|
|
|