ความคิดเห็นที่ 1 อยากเป็นเกษตรกรเรียนแม่โจ้ อยากทำงานด้านการเกษตรเรียนมช. จากคุณ : แมวดำ (mong4248) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 05:54:05

ความคิดเห็นที่ 2 เท่าที่ดูหลักสูตรและเท่าที่รู้จักอาจารย์   ตอนนี้ถือว่าทั้งสองสถาบันไม่ต่างกันมากในเนื้อหาทางวิชาการ แต่แม่โจ้ยังมีค่านิยมเรื่องการ "ลงงาน" หลงเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย   สร้างนักศึกษาออกมาค่อนข้างจะสู้งานหนัก   ส่วนทางมช. นั้นผมว่านักศึกษาไม่ค่อยสู้แดดสู้ฝนเท่าไร งานในสายเกษตรส่วนใหญ่เป็นงานกลางแจ้ง   เป็นผมถ้าคะแนนที่จบมาเท่ากัน   ผมจะพิจารณารับคนที่จบจากแม่โจ้ก่อน จากคุณ : Tanis เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 09:39:21

ความคิดเห็นที่ 3 ผมยืนยันให้เลือก เชียงใหม่ก่อนครับ ถ้าไม่ได้เชียงใหม่ค่อยลงไปแม่โจ้ ผมยังคงใช้เกณฑ์เดิมๆในการตัดสินคุณภาพสถาบันการศึกษาอยู่ครับ คือ แม่โจ้ไม่เคยมีศิษย์เก่าได้รับทุนอานันทมหิดล แผนกเกษตรศาสตร์มาก่อน แต่ม.เชียงใหม่ คณะเกษตร เคยมีศิษย์เก่าที่เคยได้รับทุนอานันฯ แผนกเกษตรศาสตร์มาก่อน และศิษย์เก่าบางส่วนก็ได้กลับมาเป็นอาจารย์สอนที่คณะเกษตร มช. อีกอย่างงานเกษตรไม่จำเป็นต้องลงทำงานกลางแจ้งเท่านั้น คนจบเกษตรไม่ได้มีไว้สำหรับไถนาหรือลากซุง งานในห้องทดลอง หรือปฏิบัติการวิจัย ก็สำคัญพอๆกันกับงานกลางแจ้ง(หรืออาจสำคัญมากกว่าด้วยซ้ำ อย่าลืมว่าวุฒิของคนที่จบจากคณะเกษตร คือ วิทยาศาสตรบัณฑิต) และผมเชื่อว่าการชื่นชอบงานกลางแจ้งนั้น เป็นเรื่องส่วนบุคคล คนจบ มช.ก็สามารถทำงานกลางแจ้งได้ตามแต่ความชอบของบุคคลคนนั้น จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 10:50:20 A:58.11.35.29 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าสายเกษตร.. ส่วนใหญ่บริษัทจะรับแม่โจ้มากกว่าค่ะ เพราะว่าแม่โ๋จ้สู้งานกว่า มช.ค่ะ แต่ถ้าทางวิชาการ มช. เก่งกว่าจริงๆ อยู่ที่ว่า อยากทำงานแนวไหนค่ะ จากคุณ : ไอแดดยามเช้า เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 12:43:22

ความคิดเห็นที่ 5 แต่ถ้าเน้นทำกระทง แม่โจ้ชนะขาดครับ ชนะประกวดกระทงทุกปี มช.สู้ไม่ได้เลย หึหึ จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 14:03:48 A:58.11.35.29 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 6 เจอกระทู้ในบอร์ดปาล์มกระทู้นึง ถ้อยคำเหมือนกระทู้นี้เด๊ะๆ อย่าลืมว่า "งานหนักไม่เคยฆ่าคน" แต่คนที่ทนงานหนักคือควาย เดี๊ยน เอ้ย ผมหละขำมาก จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 14:08:56 A:58.11.35.29 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนตัวถ้าเลือกได้ อยากไปเรียนมหาวิทยาลัย ที่มีการเรียนการสอน สาขาวิชาต่างๆ อย่างหลากหลาย นั่นคือ มีคณะวิชาหลักๆอย่างครบถ้วน แม้ตนเอง ไม่มีโอกาสหรือความจำเป็น ที่จะต้องไปเรียนคณะวิชานั้นๆ แต่รู้สึกว่า มหาวิทยาลัยที่มีการสอน สาขาวิชาต่างๆ ค่อนข้างครบถ้วน ให้บรรยากาศและสังคมเพื่อนฝูง ที่มีความอบอุ่นเชิงวิชาการมากกว่า และในอนาคต จะมีเพื่อนร่วมสถาบัน หลากหลายอาชีพเช่นกันครับ จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 17:14:26

ความคิดเห็นที่ 8 เราเรียนเกษตรแม่โจ้ สาขาพืชสวนประดับ ตอนนี้ฝึกงานอยู่ที่โครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตกล้วยไม้ในพระดำริฯ กำลังจะจบละ..ถ้าถามว่าเรียนที่ไหนดีกว่ากัน อยากบอกว่า ที่แม่โจ้เน้นการทำงานเป็น อดทน สู้งาน วิชาการก็พอถูๆไถๆไป(แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน) ส่วน ม.เชียงใหม่ ไม่ทราบเหมือนกัน แต่เท่าที่ถามเพื่อที่เรียนเกษตรอยู่ม.เชียงใหม่ มันก็บอกว่าเรียนหนังสือก็ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองอยู่เหมือนเดิม เท่าที่ดูจากตำรา เรื่องกล้วยไม้ยังละเอียดไม่เท่าที่แม่โจ้เลย  ที่นี่เขาแข่งกันเรียน น้อยคนที่จะเรียนดีแล้วฉุดเพื่อนขึ้นมา .. ทั้งนี้มันก็แล้วแต่คุณแล้วกันนะว่าอยากได้สภาพแบบไหน ถ้าอยากได้แบบมีเพื่อนเยอะทุกสาขาเลยก็ว่าได้ ฝึกความอดทน ฝึกระเบียบวินัย การใช้ชีวิตฯลฯ ก็ไปที่แม่โจ้ แต่ถ้าอยากเรียนแต่วิชาการ อดทนสู้งานก็ได้แค่ตามกำลังของคุณ ได้ทุนที่มีชื่อเสียง เครดิตเด็กมอชอ ก็ต้องไปเรียนที่ม.เชียงใหม่แล้วล่ะค่ะ แต่อยากบอกว่าเด็กเกษตรแม่โจ้ก็มีดีเหมือนกัน อย่ามองแต่เด็กแม่โจ้ถึกเหมือนควาย จบมาเป็นได้แค่เกษตรกร ถ้างั้นทุกวันนี้ก็คงไม่มีพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ข้าวโพดพันธุ์ใหม่ พืชผักพันธุ์ใหม่ รวมไปถึงไม้ดอกไม้ประดับที่Breadingขึ้นมาใหม่ๆนั้นเกือบ 80%มาจากงานวิจัยของม.แม่โจ้หมดนะคะ และที่สำคัญม.เกษตรก็เป็นน้องของม.แม่โจ้นี่เอง (อาจารย์จากแม่โจ้ไปก่อตั้งม.เกษตรศาสตร์ขึ้นมาค่ะ) ปล.อาจารย์ระพี  สาคริก เซียนกล้วยไม้อันดับ1ของไทย ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี , บิว กัลยาณี  ก็เป็นศิษย์เก่าแม่โจ้ค่ะ จากคุณ : แม่โจ้73 (LingmiM) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 21:39:48

ความคิดเห็นที่ 9 ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เค้าไม่เรียกว่าเป็นศิษย์เก่าหรอกนะ ประวัติ และผลงาน ดร. ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. การศึกษา - พ.ศ. 2511 ปริญญาตรี การประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ - พ.ศ. 2513 ปริญญาโท การบริหารการประมง Oregon State University สหรัฐอเมริกา - พ.ศ. 2518 Post Graduate การบริหารจัดการ Bangalore Institute of Management ประเทศอินเดีย - พ.ศ. 2519 ปริญญาเอก นิเวศวิทยา University of Manitoba ประเทศแคนาดา - พ.ศ. 2533 ปริญญา วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร - พ.ศ. 2534 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยแม่โจ้ - พ.ศ. 2535 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ http://hilight.kapook.com/view/63903 ศาสตราจารย์ระพี สาคริก เป็นคนเรียนหนังสือเก่งและไม่หวงวิชา พร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่เพื่อนฝูงเสมอ และไม่เคยตั้งความหวังว่าจะต้องเรียนให้ได้เป็นที่ 1 เสมอ ในขณะที่ผลการเรียนด้านวิทยาศาสตร์ดีมาก ท่านก็แบ่งเวลาสนุกกับศิลปะที่ท่านชื่นชอบ เช่น ดนตรี การวาดภาพ การปลูกต้นไม้ และทำสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ด้วย หลังจากจบจากโรงเรียนเตรียมวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แม่โจ้ ที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อ พ.ศ. 2484 แล้ว ศาสตราจารย์ระพีก็ได้โอนมาศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่กรุงเทพฯ นับเป็นนิสิตมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์รุ่นที่ 2 ท่านจบปริญญากสิกรรมและสัตวบาลบัณฑิต (กส.บ.) หลักสูตร 5 ปี เมื่อ พ.ศ. 2490 http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/p129.html ส่วนอันนี้ต้องไปดูประวัติศาสตร์และระบบการเรียนของมหาวิทยาลัยดีๆ ว่าตอนนั้นใครอยากเรียน มก. ก็จะต้องไปเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์ ของแม่โจ้ก่อนเหมือนไฟลต์บังคับ ดังนั้น จะไป assume ว่าเป็นศิษย์เก่าแม่โจ้ก็ออกจะเกินไปหน่อย แต่ที่แน่ๆ ปริญญา กส.บ.ของศ.ระพีฯ ไม่ได้มาจาก ม.แม่โจ้แน่นอน ส่วนที่ว่า ม.เกษตรศาสตร์เกิดมาจากแม่โจ้นั้นเป็นความจริง แต่ไม่จำเป็นเสมอไปว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะต้องเป็นรองแม่โจ้ตลอดเวลา เราไม่สามารถพูดได้เลยว่า "ม.แม่โจ้ที่เป็นที่กำเนิดของม.เกษตรศาสตร์จะต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่สอนด้านการเกษตรที่ดีกว่าม.เกษตรศาสตร์เสมอไป" อ้อ คำว่า breeding ที่แปลว่าผสมพันธุ์ ขยายพันธุ์ หรือเพาะพันธุ์นั้น ต้องสะกดว่า breeding ไม่ใช่ breading ขนาดคำๆนี้เป็นศัพท์พื้นฐานของการเกษตรแท้ๆยังสะกดผิดเลย หึหึ จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 22:15:41 A:58.9.130.105 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 10 ผมขอตอบ ข้อ 3. เรียนด้วยสติปัญญา ดังความปราถนาของคุณ มุ่งเน้น ที่ความรู้ ความสามารถ ไม่ใช่เปลือกชื่อเสียง ไม่ว่า มหาลัยไหน หรือ ไม่มีมหาลัย อย่าง Steve Jobs คุณก็มุ่งสู่ความสำเร็จได้ ขอบคุณครับ จากคุณ : PAE เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 22:41:50 A:124.121.214.176 X: TicketID:305816

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้ามันใกล้เคียงมาก ก็ลองหาคอร์สซิลลาบัส ของแต่ละที่มาเทียบกันดิคะ ว่าแต่ละเทอมสอนหลักสูตรไรบ้างสอนวิชาอะไร วัตถุประสงค์แต่ละคอร์สวิชา แต่ละวิชาแนะนำให้อ่านหนังสืออ่านประกอบอะไร หนังสืออ่านนอกเวลาอะไร แล้วก็วิเคราะห์เอา แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 23:37:39 จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 23:36:36

ความคิดเห็นที่ 12 จริงเหรอคะที่มอเกษตรเป็นน้องแม่โจ้ แต่ทำไมคะแนนมอเกษตรถึงสูงกว่าแม่โจ้ชนิดแบบไม่เห็นฝุ่น ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ แต่น้องเรามันเอนไปทาง มช มากกว่าเพราะ มช เหมือนภาษีดีกว่า ไม่ได้ว่าแม่โจ้ไม่ดีนะคะ เพราะถามใครๆก็บอกว่าถ้าคะแนนถึงก็เลือก มช ไปเลย แต่เราอยากให้เรียน เกษตร กำแพงแสนมากกว่า แต่น้องมันอยากเรียนทางเหนือมากกว่า จากคุณ : Blamb เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 02:46:07

ความคิดเห็นที่ 13 คณะเกษตร มก.กำแพงแสน(รวมถึง คณะเกษตร มก.บางเขนด้วย) กับ คณะเกษตรศาสตร์ มช. และคณะเกษตรศาสตร์ มข. ศักดิ์ศรีพอๆกันครับในความคิดผม ทั้งเรื่องความยาวนานในการก่อตั้ง คุณภาพทางวิชาการ คุณภาพอาจารย์ การทำวิจัย คอนเนคชั่นกับต่างประเทศ ไม่แตกต่างกันเลย สิ่งที่เอามาช่วยในการตัดสินใจ อาจเป็นเรื่องอย่างอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับคุณภาพทางวิชาการก็ได้ เช่น ระยะการเดินทาง ความชื่นชอบส่วนตัว ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ส่วนเรื่องเกษตรศาสตร์ มาจากแม่โจ้นั้นเป็นความจริง แต่ก็เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ทางการศึกษาของประเทศไทย (หรืออย่างคณะวนศาสตร์ มก. มีต้นกำเนิดมาจากโรงเรียนป่าไม้แพร่ เดี๋ยวนี้โรงเรียนป่าไม้แพร่ไม่มีแล้ว แต่คณะวนศาสตร์ มก. ยังมีอยู่) และก็ไม่จำเป็นด้วยว่าแม่โจ้นั้นจะต้องเจริญก้าวหน้าทางวิชาการมากกว่าเพราะเป็นผู้ให้กำเนิดเกษตรศาสตร์ ความก้าวหน้าหรือล้าหลังทางวิชาการ ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับอายุหรือลำดับการก่อตั้งเสมอไป ก่อตั้งมาก่อน แต่ความคิดดักดานอยู่กับของเก่าๆ เข้าไปเรียนแล้วรู้สึกว่าเรียนโรงเรียนช่างกลมากกว่าเรียนมหาวิทยาลัย คงไม่ค่อยมีคนอยากจะไปเรียนเท่าไหร่ จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 14:38:47 A:110.168.139.103 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 14 อาจเป็นเพราะแม่โจ้รับนักศึกษา ปวช. ปวส. สายเกษตร ซึ่งเป็นสายวิชาชีพเข้ามาเรียนต่อจนจบ ป.ตรี ด้วยกระมังครับ งานกลางแจ้งจึงเป็นสายแข็งของแม่โจ้ ถ้าเป็นงานฟาร์มหรืองานควบคุมแรงงานเกษตร ผมยอมรับว่าคนแม่โจ้ทำได้ดีครับ คราวนี้คงต้องมาดูความตั้งใจของ จขกท. ว่า อยากจะทำงานด้านไหน ที่สำคัญ ดูที่วุฒิปริญญาบัตรที่จะได้รับด้วยนะครับ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 16:06:13

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนตัวแล้ว ถ้าเป็นผมจะตัดสินใจเลือก ที่ ม.เชียงใหม่ก่อน เพราะผมคิดว่าที่ ม.เชียงใหม่ มีความสะดวกสบายมากกว่าหลายอย่าง และบรรยากาศวิชาการที่นี่ดู เข้มข้นกว่าและความร่วมมือทางวิชาการกับมหาลัยในต่างประเทศน่าจะมีมากกว่าด้วย อาจเป็นผลดีมากกว่าในการที่จะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไป เห็นด้วยกับ #7  ที่ในอนาคต จะมีเพื่อนร่วมสถาบัน หลากหลายอาชีพ เพราะเรียนที่นี่มีโอกาสรู้จักเพื่อนต่างคณะและหลากหลายมากกว่า ทั้ง สัตวแพทย์ นิติศาสตร์ วิศวะ แพทย์ เป็นต้น จากคุณ : Mr.Toom เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 15:31:49

ความคิดเห็นที่ 16 เรียนที่ไหนไม่สำคัญ สำคัญที่คุณตั้งใจเรียนหรือไม่ เพราะจบออกมา ปัจจุบันนี้เค้าไม่ได้ดูที่สถาบัน ดูที่ว่าคุณสามารถทำงานให้เค้าได้หรือเปล่า เข้ากับคนอื่นได้หรือไม่ ในแต่ละมหาวิทยาลัยล้วนแล้วแต่มีความเด่นในเรื่องวิชาการที่แตกต่างกันออกไป อย่าได้เอาสถาบันมาเปรียบเทียบกัน เพราะถ้าเอาสถาบันมาเปรียบเทียบกัน (ในเรื่องของเครดิตหรือคะแนนสอบ) มหาวิทยาลัยในเชียงใหม่ทุกมหาวิทยาลัย สู้ จุฬา หรือ ธรรมศาสตร์ ไม่ได้หรอก (อันนี้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ) เพราะฉะนั้นแล้วสรุปว่า เรียนมหาวิทยาลัยไหนก็ดีเหมือนกันหมด จบออกมาเป็นปัญญาชน เพื่อพัฒนาประเทศชาติ จากคุณ : ปัญญาชน เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 16:30:38 A:101.109.1.3 X: TicketID:350694