ขึ้นอยู่กับประเภทของงานครับ ถ้าจะทำงาน office มันก็ได้ ถ้าความสามารถถึง ผมเคยทำ บ. นึง พี่เค้าจบ โยธามา แล้วมาเรียนโท Com. Eng. บ. เค้าก็รับเค้ามา แต่พี่เค้า programming ไม่ได้ (ทั้งๆที่เรียน programming มาด้วยตอนเรียนโท) ทำอยู่สัปดาห์เดียว พี่เค้าเองก็รู้สึกไม่ไหว บ. เองก็ไม่ satisfied สุดท้าย จ่ายค่าจ้าง 5 วันแล้วก็แยกย้ายกันไป
ถ้าท่านจะไปเป็นอาจารย์ ในสาย IT แล้วเรียนจบที่โทเนี้ย อันนี้ก็(แทบจะ)หมดสิทธ์ จาก profile ของท่านก็คือ เรียนการท่องเที่ยวมา (ไม่รู้ว่าเรียนวิชาในสาย computer มากี่หน่วยนะ) แล้วมาเรียนโท IT (สมมติว่าต้องเรียน 30 หน่วย) แล้วก็ต้องมาเรียนปรับพื้นอีก 5 วิชา (15 หน่วย) ศิริรวม 45 หน่วย ในขณะที่เด็กสายตรงเรียนมาไม่รู้กี่หน่วยต่อกี่หน่วย ดังนั้นทางที่ท่านจะเป็นอาจารย์สาย IT ได้มีอยู่สองทางคือ เรียน Ph.D. ในสาย IT หรือ เรียนโทสาย IT. ในแผน ก. (จะ ก.1 หรือ ก.2 ก็แล้วแต่อัตธยาศัยของท่าน)
ผมให้ข้อคิดอย่างนี้ดีกว่าครับ ถ้าคิดจะเปลี่ยน field เราน่าจะดูว่า ถ้าจบไปแล้ว จะเอา ป.โป (IT.) ไปสมัครงานในสาย IT. ให้ย้อนกลับไปคิดว่า เราทำได้เหมือนๆคนที่เค้าจบตรี IT มาหรือเปล่า เพราะว่าโทเค้าไม่ได้สอนให้ทำให้เป็น (ตรี สอนให้ภาคปฏิบัติทำให้เป็น) แต่ว่าโทเค้ามาเน้นเรื่องการคิด (นอกจากบางสายเช่น network เนี้ย เค้าก็จะให้ปฏิบัติ) คือที่ผมว่ามาน่ะ จากประสบการณ์ตรงครับ เวลาเค้าสอบ defense เค้าไม่มาดู coding เค้าดูที่ logic แล้วก็ส่วนอื่นๆ
สมมติว่าเราจบไปแล้วได้เกรด 16.00 (เก่งกว่าคนที่ได้ 4.00 4 เท่า) ไปเป็นหัวหน้าแผนก หัวหน้าส่วนอะไรสักที่นึง แต่ว่าเราไม่รู้ภาคปฏิบัติ แล้วคิดหรือว่าไอ้ที่เราคิดๆๆๆออกมาแล้วสั่งออกไปน่ะ มันมีประสิทธิภาพ เพราะในเมื่อเราปฏิบัติไม่เป็น เราก็ไม่น่าจะรู้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา
อันนี้ผมว่าจากประสบการณ์ผมนะ ส่วนแนวความคิดอื่นๆลองให้ท่านอื่นเค้าว่ากันดู
แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 55 01:38:21
จากคุณ |
:
khwankung
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.พ. 55 01:36:20
|
|
|
|