ความคิดเห็นที่ 1 คำแปลภาษาอังกฤษมันสื่อความหมายไม่ได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะคุณโดน meaning shift (การพูดอย่างหนึ่งแต่หมายถึงอีกอย่างหนึ่ง) ในภาษาไทยหลอกให้งง คนไทยใช้ meaning shift บ่อยมากๆจนทำให้การแปลภาษาไทยเป็นภาษาอื่นทำได้ยากมากๆ ถ้านักแปลไม่ระวังภัยจะแปลออกมาผิดหมด ยกตัวอย่างเช่น "ไปกดเงิน" มันไม่ได้แปลว่า "Go to press the money." แต่มันแปลว่า "Withdraw money from ATM." หรือ "สินค้าในตู้เรียกพนักงาน" มันไม่ได้แปลว่า "Goods in the cupboard call employees" แต่มันแปลว่า "If you want any merchandise in the showcase, please call our salesclerk." อีกประโยคหนึ่งมี meaning shift ซึ่งหลอกนักแปลเก่งๆได้ทั้งบริษัทแปลเอกสาร (เจอในเอกสารจัดซื้อจัดจ้างระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารออมสิน) เครื่องพิมพ์จะต้องพิมพ์สมุดคู่ฝาก ใบฝาก และใบถอนทุกชนิดได้ ทีแรกเราแปลไปแบบนี้ The printers must be capable of printing all types of passbooks, pay-in slips and withdrawal slips. แล้วเราเห็นอะไรผิดปกติ เราก็เอาคำแปลของเรา (ตอนนั้นเราทำงานในบริษัทแปล) ไปให้นักแปลรายอื่นๆดูแล้วถามว่า "คำแปลภาษาอังกฤษมันผิดตรงไหน ใครรู้บ้างเอ่ย?" ทุกคนบอกว่า "ไม่ผิด" แต่พอเราชี้แจงว่า printers เครื่องเล็กๆที่ต่อกับคอมพิวเตอร์ในธนาคารมันพิมพ์สมุดคู่ฝาก ใบฝาก และใบถอน ออกมาเป็นเล่มๆหรือแผ่นๆ ไม่ได้หรอก แต่มันพิมพ์ "รายการธุรกรรมลงบนสมุดคู่ฝาก ใบฝาก และใบถอน ต่างหากล่ะ" ดังนั้นคำแปลที่ถูกต้อง คือ The printers must be capable of printing all types of transactions onto passbooks, pay-in slips and withdrawal slips. เท่านั้นแหละ นักแปลทั้งบริษัทฮากันครึนเลย เมื่อรู้ตัวว่าพวกเขาโดน meaning shift ในภาษาไทยหลอกเอาอย่างแรง!   กรณีของคุณนะ - เทียบโอนวิชาอาชีพจากประสบการณ์อาชีพประกอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แปลแบบนี้ Transfer of professional experience as career computer equipment assembler. มันสื่อความหมายไม่ได้เลย เพราะจริงๆแล้ว "เทียบโอนในภาษาไทย เป็น meaning shift แปลว่า ให้นำประสบการณ์มาเทียบเป็น "หน่วยกิต (credit) ที่สอบผ่าน" อีกประโยคหนึ่ง คือ - เทียบโอนวิชาอาชีพจากแหล่งวิทยาการ โรงเรียนกวดวิชาและภาษา XXX พิมพ์ดีดภาษาไทย-อังกฤษ มันก็คล้ายๆกันนั่นแหละ ดังนั้น ลองกลับไปนั่งบริกรรมดูใหม่ดีๆ แล้วหาทางเขียนภาษาอังกฤษใหม่เพื่อสื่อความหมายให้ถูกต้อง แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 55 17:01:57 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 55 17:01:30 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 55 11:41:39 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 11:38:32

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็น Transfer credit from professional experience as career computer equipment assembler. หละครับ ปล.พอดีมีความต้องการจะใช้ใบแสดงผลการศึกษาที่เป็นภาษาอังกฤษ เลยติดต่อไปที่สถาบัน เค้าบอกให้แปลไปให้เค้าด้วย แล้วเค้าจะเอา ข้อความที่เราแปลมาหนะทำใบจริงให้ เลยมึนไปเลยครับ อย่างงี้ก็มีด้วย จากคุณ : CyberTon เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 11:58:20

ความคิดเห็นที่ 3 เราก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะแปลยังไง เพราะเรายังงงๆอยู่นะว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่? ลองแบบนี้ดูดิ -เทียบโอนวิชาอาชีพจากประสบการณ์อาชีพประกอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ -Credit(s) awarded on the basis of working experience in computer assembly -เทียบโอนวิชาอาชีพจากแหล่งวิทยาการ โรงเรียนกวดวิชาและภาษา XXX พิมพ์ดีดภาษาไทย-อังกฤษ -Credit(s) awarded on the basis of vocational training in English and Thai typing at XXX Tutorial and Language School หมายเหตุ เราไม่รู้ว่าคุณได้ 1 หน่วยกิต หรือมากกว่านั้น ในแต่ละกรณี เราก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องเติมหรือไม่เติม s ที่ credit อีกทั้งเราตีความว่าข้อความ 2 อันนี้คือ เทียบโอนวิชาอาชีพจากประสบการณ์อาชีพประกอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ กับ เทียบโอนวิชาอาชีพจากแหล่งวิทยาการ โรงเรียนกวดวิชาและภาษา XXX พิมพ์ดีดภาษาไทย-อังกฤษ มันเขียนโดยมหาลัยคุณนะ แต่ถ้าเป็นข้อความที่เขียนโดยโรงเรียนสอนประกอบคอมพิวเตอร์กับโรงเรียนกวดวิชาและภาษา XXX พิมพ์ดีดภาษาไทย-อังกฤษ ละก็ มันก็กลายเป็นว่าเราแปลผิดหมดเลย...555+++.... เพราะคนที่จะ award credits (เพื่อเอาไปนับเป็นเกณฑ์การเรียนจบมหาลัย) ได้นั้น ต้องเป็นมหาลัย ไม่ใช่โรงเรียนสอนประกอบคอมพิวเตอร์หรือโรงเรียนกวดวิชาและภาษา ตกลงเรานั่งทางในแปลนี่เราแปลถูกหรือแปลผิดกันแน่หว่า...555+++...!!??? แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 55 12:23:46 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 12:20:32

ความคิดเห็นที่ 4 มันเป็นข้อความใน ใบแสดงผลการเรียน กศน. หนะครับ แต่กรณีนี้มีการเทียบโอน มา 2 วิชา คือ เคยประกอบอาชีพช่างคอมพิวเตอร์ โอนเป็น "อาชีพ 1" จำนวน 13 หน่วยกิต เคยเรียนวิชาชีพ พิมพ์ดีดไทย-อังกฤษ โอนเป็น "อาชีพ 2" จำนวน 13 หน่วยกิต มันมีที่มาดังกล่าวครับ ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำโดยเฉพาะเรื่อง meaning shift ทำให้คิดอะไรได้หลายๆ อย่างเลยเวลาจะแปลภาษา คอยจะแปลเป็นคำต่อคำเรื่อยเลยเชียว ต่อไปจะพยายาม เอาความหมาย มาแปลครับ จากคุณ : CyberTon เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 12:37:43

ความคิดเห็นที่ 5 ลุ้นช่วย จขกท ผมชอบคนที่พัฒนาตัวเองอย่างนี้แหละ ที่คุณหมอดูแปลให้นั้นผมว่าเข้าเค้าแล้วนะ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 12:44:46

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าเป็นข้อความในใบแสดงผลการเรียน กศน. ก็แสดงว่า กศน. เป็นคนที่ awards credits ให้น่ะสิ ถ้างั้นเราก็ฟลุ๊กแปลไปแล้วเผอิญใช้ได้น่ะสิ...อิๆๆ ดีใจๆ วันนี้เป็นหมอเดาแม่นๆ (ทีแรกเดาเป็นมหาลัย แต่ถึงเป็น กศน. คำแปลของเราใน คคห3 ก็ยังใช้การได้) แต่คุณไปจัดการเรื่อง มีหรือไม่มี s หลัง credit เอาเองก็แล้วกันนะ จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 13:21:16

ความคิดเห็นที่ 7 สงสัยคะว่าถ้าเขียนอย่างที่คุณ fortuneteller บอกโดยที่ไม่มีคำว่าเทียบโอน (Transfer หรืออะไรก็ตาม) มันจะกินความครบตามความภาษาไทยไหมคะ ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ :) จากคุณ : =AA= เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 17:40:41 A:58.9.185.131 X: TicketID:217077

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ ^ เวลาแปลต้องแปลเอาความ ถ้าแปลเอาคำหละยุ่งแน่ๆ... คำศัพท์ "เทียบโอน" (ในเอกสารของ จขกท) พอดูเหตุการณ์แล้ว "ไม่มี transfer หรอก" แต่มันหมายถึง "เอาประสบการณ์การทำงานหรือผลการเรียนวิชาชีพมานับเป็นหน่วยกิตให้" หรือ ข้อความว่า "รับทำพระราชบัญญัติ(ที่เห็นแปะอยู่หน้าร้านค้าจนชินตาซะแล้ว)" ต้องคิดให้ดีๆก่อนแปล เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่ร้านค้าจะทำพระราชบัญญ้ติ จริงๆแล้วเขาตั้งใจพูดว่า "รับบริการทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติประกันภัย" ^ พอพูดกันนานๆติดปากเข้า ทุกคนก็ (หลง) คิดว่าสมองเห็นภาพ แต่เวลาแปลจริงๆ "สมองมันไม่เห็นภาพหรอก (มันโดนภาษาไทยหลอกเอาได้ง่ายๆ) แล้วถ้าแปลตรงตัวมันกลายเป็นแปลผิด" ซึ่งก็เหมือนๆกับ "กดเงิน" นั่นแหละ มันไม่ได้แปลว่า "เอานิ้วไปจิ้มที่เงิน" แต่มันแปลว่า "กดตู้เอทีเอ็มเบิกเงิน" ^ การใช้ภาษาไทยแบบนี้ (meaning shift) ของคนไทย ทำให้ภาษาไทยมีลูกเล่นแพรวพราวจนกลายเป็นหนึ่งในภาษาที่แปล (ให้เป็นภาษาอื่น) ยากมากที่สุดในโลก ลองเอาประโยคนี้ไปบริกรรมดู เจ้าหน้าที่ที่ว่าการอำเภอชอบเขียนบนทะเบียนบ้านหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องว่า "แจ้งย้ายปลายทางอัตโนมัติ" คุณลองไปคิดดูดีๆว่าเวลาแปลเป็นอังกฤษ มันจะต้องมีหรือไม่มีคำว่า destination (ปลายทาง) กับ automatically (โดยอัตโนมัติ) ^ กว่าจะคิดได้คุณก็ต้องแปลไทยเป็นไทยก่อน ม่ายงั้นแปลคำต่อคำจากไทยเป็นอังกฤษออกมาแล้วภาษาอังกฤษอ่านไม่รู้เรื่อง การแปลให้ถูกต้อง ครบถ้วน ไม่ขาด ไม่เกิน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยกคำศัพท์ทุกคำใน source text (ภาษาต้นทาง) มาใส่ไว้ให้ครบใน target text (ภาษาปลายทาง) เนื่องจากธรรมชาติของเจ้าของภาษาทุกภาษาในการพูดเรื่องเหมือนๆกันในภาษาที่ต่างกัน จะมีวิธีพูดที่แตกต่างกัน แต่ให้สื่อความหมายเดียวกันได้ หลักการในการแปลโดยคร่าวๆก็คือ 1 คำแปลที่ดีไม่ควรแปลกลับไปเป็น source text (ภาษาต้นทาง) ตรงๆตัวได้ง่ายๆ 2 ในการเขียน target text (ภาษาปลายทาง) ให้สื่อความหมายตามที่ผู้เขียน source text (ภาษาต้นทาง) ตั้งใจไว้ จะมีปรากฎการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น 2.1 บางทีต้องเพิ่มคำศัพท์ใน target text 2.2 บางทีต้องตัดคำศัพท์บางคำออกไปจาก target text 2.3 มักจะต้องจัดลำดับคำศัพท์ใหม่ใน target text 2.4 กฎตายตัวที่แน่ๆก็คือต้องเขียนคำแปลตามหลัก grammar ของ target text ^ จริงๆแล้วมันยังมีเรื่องยุ่งๆอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับการแปล เราว่ามันเป็นศาสตร์ที่เร้นลับพอสมควร จนถึงกับต้องแยกศาสตร์แห่งการแปลแตกแขนง ออกไปเป็นเอกเทศ หลุดพ้นจากศาสตร์ต่างๆด้านภาษาที่มีชื่อหรูๆทางด้านวิชาการซึ่งคนที่เรียนเอกด้านภาษาเขาเรียนกัน แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 55 20:12:50 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 55 20:06:19 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 19:57:30

ความคิดเห็นที่ 9 เข้าใจแล้วคะ ขอบคุณคุณ fortuneteller มากๆนะคะ :) จากคุณ : =AA= เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 22:24:38 A:110.168.148.46 X: TicketID:217077