PANTIP.COM : K11753891 O-NET ข้อ "หากเกิดอารมณ์ทางเพศ ต้องทำยังไง" ผอ.สทศ.คนปัจจุบันแถลงข่าวเฉลย ช้อยส์ที่ถูกคือ "ชวนเพื่อนไปเตะบอล" [ข่าวการศึกษา]

ความคิดเห็นที่ 22

คำถาม

หากเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาต้องทำอย่างไร"

แล้วมีให้เลือก

ก.ชวนเพื่อนไปเตะบอล
ข.ปรึกษาครอบครัว
ค.พยายามนอนให้หลับ
ง.ไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศ
จ.ชวนเพื่อนสนิทไปดูหนัง

รู้สึกสอนโง่ๆแบบนี้มาตั้งนานแล้ว คือจะยัดเยียดให้เด็กคิดในกรอบคือ "เล่นกีฬา" นั่นเอง

จริงๆแล้วมันคงมาจากความเชื่อที่คนเขียนศาสนาพุทธเป็นภาษาไทย ตีความคำสอนโบราณผิดๆว่า

"อย่ามีจิตติดอยู่ในกาม"

แล้วก็ได้แต่ยัดเยียดให้คนไทยคิดว่า

"พระที่สังขารร่วงโรยหน้าตาเหี่ยวย่น เดินแทบไม่ไหว ป่วยปางตาย คือพระที่กำลังจะบรรลุอรหันต์เพราะแค่ "เพราะไม่มีจิตติดอยู่ในกาม""

พอมรณภาพไปแล้วก็พากันยกย่องว่า "บรรลุอรหันต์ไปซะแล้ว"

แต่จริงๆแล้วจากการค้นคว้าคัมภีร์โบราณของเต๋าและฮินดู เราค้นพบข้อมูลว่า

นักพรตเต๋าที่ฝึกจนเป็นเซียน (เทียบเท่าพระโพธิสัตว์ของพุทธ) หรือปราชญ์ฮินดูที่ฝึกจนบรรลุระดับพระพุทธเจ้าได้นั้น "ทุกคนอายุมากแต่สุขภาพดีและหน้าตาเด็กๆกันทั้งหมด ซึ่งตรงกันข้ามกับคำสอนพุทธแบบเถรวาท (ซึ่งจริงๆแล้วพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนว่าต้องโทรมมากๆถึงบรรลุอรหันต์ได้)"

"sexual energy หรือพลังที่ใช้สืบพันธ์ เป็นพลังที่พระผู้เป็นเจ้าใช้สร้างเผ่าพ้นธ์มนุษย์"

เด็กจะเรียนเก่งได้ไม่ใช่ไปเล่นฟุตบอลจนอวัยวะเพศหด! หากแต่ต้องรู้วิธีเอา sexual energy ไปใช้ประโยชน์ หรือที่ในคัมภีร์โบราณเขาเรียกว่า sublimation นั่นเอง

คนที่ฝึกเต๋าเวลานั่งสมาธิถ้าไม่มีจิตติดอยู่ในกามร่างกายก็จะไม่ผลิต sex hormones ความเปล่งปลั่งจะไม่มี แต่ถ้าฝึกสมาธิแล้วอวัยวะเพศตื่นตัว (ถ้าไม่ตื่นตัวก็ต้องเอามือกระตุ้นมัน) ต้องถือว่าฝึกถูกต้อง และการเดินลมปราณขันเคลื่อน sexual energy (โดยไม่ต้องไปเล่นฟุตบอลให้โง่) ให้ไปเลี้ยงสมองจะทำให้ฉลาดขึ้น ถ้าฝึกดีๆจะบรรลุได้ระดับเซียน นักพรตเต๋าที่เขียนคัมภีร์โบราณหลายๆท่านต่างก็ยืนยันว่าพวกเขาก็ตีความว่าพระพุทธเจ้าก็สอนเคล็ดลับเรื่องวิธีเปลี่ยน sexual energy ให้กลายเป็นพลังแห่งการเรียนรู้ แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนว่าให้ไปบวชเป็นพระแล้วอวัยวะเพศไม่แข็งตัวจนร่างกายไม่ผลิต sex hormones จนกลายเป็นพระที่ป่วยเดินไม่ค่อยจะไหว (คนแก่ที่ร่างกายไม่ผลิต sex hormones มากพอจะมีปัญหาสุขภาพ) แล้วจะบรรลุอรหันต์ได้

ดังนั้นการเล่นกีฬาให้อวัยวะเพศหด มันเป็นคำสอนผิดๆ ซึ่งเกิดจากการตีความคำสอนศาสนาโบราณมาผิดๆที่แพร่หลายกันทั่วประเทศไทยนั่นเอง

กีฬาที่เราเล่นคือโยคะหรือมวยจีนที่ยิ่งเล่นอวัยวะเพศยิ่งตื่นตัว และร่างกายเรายิ่งผลิต sex hormones ได้เมื่ออายุมากๆ ทำให้หน้าตาเราดูเปล่งปลั่งเมื่ออายุมากๆ และเรายิ่งเพิ่มพลังแห่งการเรียนรู้

sex ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ผู้หญิงที่มีปัญหาปวดประจำเดือน ถ้ามี sex แล้วถึงจุดสุดยอดบ่อยๆ จะแก้ปัญหานี้ได้

จากคัมภีร์โบราณเราเรียนรู้ว่า

จุดอ่อนของผู้หญิงที่ทำให้ผู้หญิงสูญเสียพลังจนแก่เฒ่าลงก็คือ "การสูญเสียเลือดประจำเดือน(ผู้หญิงที่ฝึกเต๋าจะรู้วิธีแก้ปัญหานี้)" ในขณะที่ผู้หญิงที่มี sex แล้วถึงจุดสุดยอดบ่อยๆ ทำให้ช่องคลอดแฉะบ่อยๆกลายเป็นหน้าตาเธอจะเยาว์ว้ยผิวพรรณเปล่งปลั่งอยู่ตลอดกาล แต่ถ้าไม่มีจิตติดอยู่ในกามเลย ผู้หญิงจะพออายุมากๆช่องคลอดจะแห้งผาก แล้วแก่ลงเรื่อยๆ พอไม่มีจิตติดอยู่ในกาม ร่างกายจะหยุดสร้าง estrogen กระดูกจะเริ่มมีปัญหาจนหลังโกงเดินกระย่องกระแย่ง

จุดอ่อนของผู้ชายอยู่ที่การหลั่งน้ำกาม เพราะหลั่งมากๆ จะทำให้ iq ลดฮวบลง และร่างกายอ่อนเพลีย เวลาเรามีอารมณ์ทางเพศมากๆ เราจะไม่ไปเล่นกีฬาอะไรให้อวัยวะเพศหด แต่เราจะฝึกช่วยตัวเองให้ถึงจุดสุดยอดได้หลายๆครั้ง (multiple orgasm) แต่โดยไม่หลั่งน้ำกาม (เพราะกลไกธรรมชาติของผู้ชายก็คือ "orgasm (การถึงจุดสุดยอด)" กับ "ejaculation (การหลั่งน้ำกาม)" เป็นปรากฎการณ์คนละอย่างที่ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นพร้อมๆกัน ผู้ชายที่ฝึกมาดีๆจะกำหนดได้ว่าต้องการจะมีอย่างหนึ่งโดยไม่มีอีกอย่างหนึ่ง ก็ย่อมได้ ซึ่งมันเป็นการฝึกวิชาเร้นลับของเต๋า ที่มีชื่อว่า huan jing (the reversal of the semen (วิชาว่าด้วยการดึงน้ำกามกลับคืนศูนย์รวมกำลังภายในเพื่อเอาไปสร้าง elixir of life (ยาอายุวัฒนะ))) การฝึกเต๋าจนบรรลุขั้นสูงสุด จำเป็นต้องมี sexual energy (เพราะใช้ jing(น้ำกาม) + qi(พลังลมปราณ) + shen (วิญญาณ) ผสานกันเพื่อบรรลุในระดับสูงๆโดยการเริ่มตั้งแต่สร้าง elixir of life ไปจนถึงดึงวิญญาณออกจากร่างเพื่อไปเป็นเซียน) เราฝึกแบบนี้มาตัั้งหลายสิบปีแล้ว เพราะไม่เชื่อเรื่องเตะฟุตบอลให้จู๋หด...555+++...
^
การฝึกช่วยตัวเองบ่อยๆเช่นนี้เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิต sex hormones ในระดับที่มากเกินพอ เราชอบ download หนังโป๊มาดูทุกวัน เพื่อฝึกตัวเองให้หน้าตาเด็กขึ้นเรื่อยๆ จนเราตอนนี้อายุมากกลายเป็นตัณหากลับ แต่กระดูกเหมือนคนวัยรุ่น เคลื่อนไหวตัวได้รวดเร็ว และผิวพรรณเปล่งปลั่ง ความจำดี และสมองเรียนรู้ศาสตร์ใหม่ๆได้รวดเร็วมากๆ นั่นก็เพราะว่าเราเรียนรู้วิธีนำ sexual energy มาใช้งานให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ไปเล่นกีฬาให้อวัยวะเพศหด...555+++...

คำสอนอีกอย่างหนึ่งที่สุขศึกษา + พละศึกษามันสอนโง่ๆจนเราป่วยไปตั้งหลายปี

ก็คือสอนท่าเดินอกผายไหล่ผึ่งเหมือนนักเรียนเตรียมทหาร มันเป็นการเกร็งตัวเพื่อหนีจาก gravitational force ร่างกายแข็งทื่อ

เต๋าเขาสอนว่า
สิ่งที่แข็งๆมันเหมือนต้นไม้ที่แข็งกรอบเพราะมันตายแล้ว
แต่ต้นไม้ที่มีชีวิตมันอ่อนพริ้ว
ดังนั้น posture ที่ถูก ไม่ใช่เล่นพละศึกษาแล้วยืดหน้าอกจนหลังแอ่น! แต่ต้องเป็นปล่อยร่างกายให้ relax completely ให้ทิ้งน้ำหนักไปตาม gravitational force ซึ่งเป็นการทำต้วให้เข้ากับพลังของจักรวาลหรือพลังของพระผู้เป็นเจ้า

ถ้าเรายังไม่สลัดคำสอนโง่ๆพวกนี้ที่เรียนมาตั้งแต่เด็กๆ ป่านนี้เราก็จะกลายเป็นเชื่อว่ายิ่งอายุมากสมองต้องยิ่งเลอะเลือน แล้วป่านนี้เราก็คงจะอยู่ในสภาพที่ป่วยหนักใกล้จะตายซะแล้ว เพราะคนที่โดนสอนแบบนี้ แล้วเชื่อแบบนี้ ส่วนใหญ่พออายุมากๆแบบเราเดินแทบไม่ไหวกันซะแล้ว!

ดังนั้น เผ่าพันธ์มนุษย์จะเจริญได้ ต้องเปิดโอกาสให้เด็กคิดแหกคอก ออกไปจากคำสอนโง่ๆพวกนี้ให้ได้ ถ้าสอนให้ยึดติดกับแนวคิดเดิมๆโง่ๆ เด็กจะไม่กล้าเรียนรู้แนวคิดอะไรดีๆที่เป็นประโยชน์จากแหล่งความรู้ที่ดีๆ

เราโดนคำสอนโง่ๆในระบบการศึกษาไทยแบบนี้ทำลายสุขภาพเรามาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ถ้าไม่ได้อ่านหนังสือต่างประเทศมามากๆ ป่านนี้เราก็ยังเชื่อเรื่องอะไรผิดๆที่งมงาย และเราก็คงกลายเป็นคนแก่ที่เดินกระย่องกระแย่งไปซะแล้ว!
แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 01:12:48
แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 01:07:09

จากคุณ : fortuneteller

เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 00:57:14