|
เราว่าตัวแปรมันไม่ได้อยู่ที่จบรามฯ จุฬา หรือ มธ นะ แต่มันอยู่ที่
1. ความรู้ด้านภาษาของคนที่เรียนต่อ 2. ความเข้มงวดของมหาลัยต่างประเทศ ว่าจะยอมให้นักศีกษาปริญญาโทเขียนภาษาอังกฤษผิดได้มากน้อยแค่ไหน 3. นักศึกษาปรับตัวด้านภาษาได้รวดเร็วแค่ไหน
ซึ่งต้องแยกแยะประเด็นกันให้ดีๆ ไม่ใช่ตอบเหมาๆรวมๆ
เพื่อให้เห็นภาพอย่างชัดเจน เราจะยกกรณี 4 รายที่เราเจอของจริงมาให้ดูนะ
1. คนนี้เรียนจบโทนิติจากอังกฤษ แต่ภาษาอังกฤษอ่อนมากๆ หางานกฎหมายที่ international law firm ไม่ได้ เขาก็เลยมาแปะ link ใน pantip เพื่อให้คนไป website เขา ซึ่งเขาเขียนเป็นภาษาอังกฤษหมดโดยเขียนไว้เพื่อโฆษณาสอนภาษาอังกฤษ และเราเห็นความอ่อนภาษาอังกฤษของเขาแบบอ่อนสุดๆ คือเขียนผิดเกือบทุกประโยคว่างั้นเหอะ อ่อนแบบนี้ต่อให้เปลี่ยนอาชีพเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษก็ไปไม่รอด
2. อีกรายเป็นอาจารย์สอนกฎหมายมหาลัยปิดและเขียนตำรากฎหมาย (เขาว่างั้น) ตั้งมากมาย อาจารย์ท่านนี้ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเขียนภาษาอังกฤษผิดเยอะ เวลาให้โจทย์การบ้านนักเรียน อาจารย์เขียนมาเป็นภาษาอังกฤษแล้วนักศึกษาเอามาแปะถามใน pantip พอคนบอกว่า "ภาษาอังกฤษมันผิดเยอะ" นักศึกษาก็โกรธหาว่าไปดูถูกอาจารย์เขา โดยนักศึกษาอ้างว่า "อาจารย์เก่งจบเมืองนอกเขียนตำราไว้ตั้งมากมาย"
3. รายนี้คนไทยจบปริญญาตรีในไทย แล้วไปเรียนโทนิติในอังกฤษเหมือนรายที่ 1 (แต่ไม่รู้ว่ารายที่ 2 เรียนจบเมืองนอกประเทศอะไร) แล้วภาษาอังกฤษไม่เก่ง คือไม่เก่งพอๆกับ 2 คนแรกนั่นแหละ เธอเขียน research paper หรือเขียน thesis ภาษาอังกฤษไปเท่าไหร่อาจารย์ก็ไม่ยอมตรวจให้คะแนน อาจารย์ตีกลับมาหมด บอกว่าอ่านไม่รู้เรื่อง ให้ไปแก้มา จนในที่สุดนักศึกษารายนี้ต้องจ้างคนอื่นเขียนภาษาอังกฤษให้ จน research paper หรือ thesis ผ่่านหมด แล้วตอนนี้เรียนจบกฎหมายไปเรียบร้อยแล้ว
4. อีกรายหนึ่งเราเจอในห้องไกลบ้าน เราตอบกระทู้คล้ายๆที่ จขกท ถาม โดยยกตัวอย่าง ราย 1,2 ,3 แล้วก็มีสมาชิก pantip คนหนึ่งตอบว่า เธอก็เรียนจบปริญญาตรีในไทย แล้วต่อปริญญาโทกฎหมายในต่างแดน แต่ภาษาอังกฤษเธอไม่มีปัญหาเลย แล้วเธอก็เขียนภาษาอังกฤษให้เราดู ซึ่งเราก็ยอมรับว่าภาษาอังกฤษเธอดูสวยงามดี ดูราวกับไปเรียนเมืองนอกมาตั้งแต่มัธยมแน่ะ ซึ่งถ้าจบตรีในไทยแต่ไม่ใช่เอกอังกฤษ แล้วเขียนแบบนี้ได้ ก็นับว่า ไม่ธรรมดาจริงๆ
สรุป รายที่ 3 ที่ไม่เก่งอังกฤษ ไม่ต้องพูดถึง เพราะเธอจ้างคนอื่นเขียนภาษาอังกฤษให้ (ซึ่งเสียค่าจ้างเป็นแสน) ก็เลยเรียนจบได้
คราวนี้คุณคิดเอาเองว่า รายที่ 1 กับรายที่ 2 ที่ก็ไม่เก่งอังกฤษเหมือนกันจบกฎหมายจากเมืองนอกมาได้เพราะอะไร ซึ่งเราว่ามันก็มีความเป็นไปได้อยู่ 2 ทางนั่นก็คือ
ก. มหาลัยซึ่งรายที่ 1 กับรายที่ 2 เรียนจบมา ไม่เข้มงวดมากเหมือนมหาลัยที่รายที่ 3 เรียน ข. รายที่ 1 กับรายที่ 2 จ้างคนอื่นเขียนภาษาอังกฤษให้เหมือนรายที่ 3
ซึ่งถ้าจบมาแบบรายที่ 4 เข้าไปทำงานใน international law firm ในไทยได้สบายๆเลย หรือเผลอๆไปทำงานเป็นนักกฎหมายในต่างแดนได้สบายๆเลย
แต่ถ้าจบมาแบบรายที่ 1 รายที่ 2 และรายที่ 3 มาทำงานในไทยเป็นอาจารย์สอนมหาลัยไทยได้ หรือสอบเป็นผู้พิพากษาหรืออัยการในไทยได้ เป็นนักกฎหมายในสำนักงานกฎหมายแบบไทยๆก็ยังได้ แต่ทำงานใน international law firm ในไทยไม่ได้ ไปทำงานเป็นนักกฎหมายในต่างแดนยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย
คือจะบอกให้ว่าการจบปริญญาตรีในไทยแล้วไปต่อปริญญาโทกฎหมายในเมืองนอก มันเป็นไปได้ แต่มันค่อนข้างเสียเปรียบคนที่ไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ระดับมัธยม แต่ใครจะไปรู้ คุณอาจปรับตัวแล้วเก่งแบบรายที่ 4 ก็ได้ เพราะแต่ละคนมีความสามารถในการรับรู้ด้านภาษาไม่เท่ากัน...หรือรายที่ 4 อาจไม่ได้ปรับตัวเร็วขนาดนั้น แต่เผอิญเก่งอังกฤษมาแล้วตุั้งแต่เด็กๆก็เป็นไปได้
นี่คือข้อแตกต่างซึ่งละเอียดอ่อนมากๆ ที่ต้องแยกแยะประเด็น ให้ดีๆ
สรุปแล้วไปเรียนต่อปริญญาโทกฎหมายน่ะ เรียนไปเหอะไม่ต้องกลัวไม่จบหรอก จบไม่จบมันอยู่ที่ความรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าอ่อนอังกฤษจริงๆก็จ้างคนอื่นเขียน research paper หรือ thesis ก็ยังช่วยให้เรียนจบได้ เพียงแต่มันต้องเสียเงินเพิ่มอีกหน่อยเท่านั้นเอง
แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 55 18:34:55
แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 55 17:34:18
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
2 มี.ค. 55 17:28:35
|
|
|
|
|