จริงๆแล้ว จขกท ก็หลังไมค์มาให้เราแปลไทยเป็นอังกฤษหลายประโดย ซึ่งเราก็บอกให้เธอเอามาแปะให้หลายๆคนช่วยกันดู เพราะเราก็ขี้เกียจคิด เนื่องจากว่ามันแปลยาก แปลยากเพราะอะไรจะอธิบายให้ฟัง
1. ประโยคหลายๆประโยคมี meaning shift เยอะมากๆ meaning shift คือวิธีเขียนภาษาไทยฆ่านักแปล คือเขียนอย่างหนึ่งแต่หมายถึงอีกอย่างหนึ่ง เช่น "กดเงิน" แปลว่า "กด ATM เบิกเงิน" หรือ "สินค้าในตู้เรียกพนักงาน" แปลว่า "ถ้าลูกค้าต้องการสินค้าในตู้ให้เรียกพนักงาน"
2. ให้สังเกตดูดีๆว่าภาษาไทยมีล้กษณะพิเศษก็คือ "ประธานที่ทำกริยา บ่อยครั้งเป็นขอมดำดิน" อย่างเช่น "สินค้าในตู้เรียกพนักงาน" ประโยคนี้มันเอาคำว่า "ลูกค้าไปซ่อนไว้" ทำให้แปลตรงตัวกลายเป็นแปลผิด
คุณอาจบอกว่า "ของง่ายๆแบบนี้ใครก็เดาได้" ตอบ ไม่จริงหรอก ถ้าคุณเขียนกลไกการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ แล้วคุณเขียนโครงการเพื่อให้ผู้รับเหมาจัดหาสินค้าและบริการ รวมทั้งพัฒนา software ถ้าคุณเขียนแบบนี้ ผู้รับเหมาจะทำงานผิดพลาดหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้รับเหมาเป็นบริษัทข้ามชาติ เขาไปจ้างคนไทยแปลเอกสารโครงการจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ แล้วนักแปลแปลผิดหมด! เพราะอ่านไม่เข้าใจ meaning shift ในภาษาไทย ที่คนไทยใช้เยอะมากๆจนน่ากลัว จนเราไม่กล้าคิดเป็นภาษาไทยเวลาต้องใช้เหตุผลกับเรื่องยากๆ เพราะเราฟังกับอ่านภาษาไทยที่มี meaning shift ของคนไทยแล้วทำให้เราใช้ meaning shift ตามพวกเขา ทำให้เราคิดเรื่องอะไรยากๆ แล้วคิดไม่ออก เลยต้องเปลี่ยนเป็นคิดเป็นภาษาอังกฤษซะแทน
การเขียนภาษาไทยที่ทำให้คนอ่านแล้วงง เกิดจากสาเหตุหลายอย่างคือ
1. โครงสร้างภาษาไทยไม่ยืดหยุ่นพอที่จะช่วยให้เขียนประโยคยาวๆที่ซับซ้อนได้ ยกตัวอย่างเช่น modifiers (ส่วนขยาย) ในภาษาไทยวางได้แต่ทางขวาของส่วนที่มันขยาย ซึ่งเวลาเจอกริยาที่เป็น วลี ที่ separable (คือแยกส่วนได้) ตอนแยกส่วนกริยาพวกนี้ modifiers ในภาษาไทยจะทำให้ประโยคภาษาไทยอ่านแล้วสับสนไปหมด เพราะ modifiers ไปขยายผิดที่(ถ้าคนเขียนพลิกประโยคกลับไปกลับมาไม่เก่ง) ในขณะที่ของภาษาอังกฤษวางได้มากถึง 4 ตำแหน่งในประโยค เพราะคนไทยหลายๆคนแทนที่จะช่วยๆกันปรับปรุงโครงสร้างภาษาไทยให้แข็งแรงกลับไปมัวแต่จับผิดกันเรื่องภาษาวัยรุ่น หรือเรื่องออกเสียงอักขระไม่ชัดเจน
2. คนเขียนประโยคภาษาไทยที่ทำให้คนอ่านสับสน ส่วนใหญ่จะใช้ lame logic (มีระบบตรรกะที่ป่วย) เพราะไม่ได้ใช้สมองฝึกคิดฝึกใช้เหตุผลบ่อยๆ คือคิดอะไรขึ้นมาได้ก็เขียนออกมา โดยไม่เคยอ่านทวนแล้วคิดว่า "คนอ่านจะอ่านรู้เรื่องหรือไม่"
ให้สังเกตดูข้อความที่ จขกท แปะไว้
"งานโปรเจคนี้เข้าไปสาธิตวิธีใช้เครื่องกับพัสดุและผู้ใช้เรียบร้อยแล้ว หน่วยงานสรุปจะซื้อแต่รอเปิดซองและส่งของ"
^ มันคล้ายกับ "สินค้าในตู้เรียกพนักงาน"
คือ มันหลอกให้คนอ่านคิดว่า
"งานโปรเจคนี้" ทำกริยา "เข้าไปสาธิต..."
เหมือนๆกับที่
"สินค้าในตู้เรียกพนักงาน" มันหลอกให้คิดว่า
"สินค้าในตู้" ทำกริยา "เรียก"
หน่วยงานสรุปจะซื้อแต่รอเปิดซองและส่งของ
"ตรงนี้ตีความได้ว่า "หน่วยงาน" ทำกริยา "สรุป" หรือตีความได้ว่ามีหน่วยงานชื่อ "หน่วยงานสรุป"
ส่วน "เปิดซอง" และ "ส่งของ" ก็เอาประธานไปเป็นขอมดำดำหมด ซึ่งในภาษาอังกฤษอาจต้องใช้ความเจ้าเล่ห์เขียนเป็น passive voice หรือใช้ participles เอา
แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 22:29:33
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
4 มี.ค. 55 22:23:53
|
|
|
|