|
How to start conversations with native speakers and improve your ability to speak English fluently.
How to improve your English conversation skills
สวัสดีครับ ผมจะช่วยคุณวันนี้ นี่คือ คิส K.I.S.S จากผมสู่คุณ ผมกำลังให้คิส K.I.S.S เพื่อ กู๊ดลัค นั่นเพื่อทักษะในการสนทนาของคุณนะครับ
นักเรียนหลายๆคนอยากพัฒนาภาษาอังกฤษด้วยวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่ดีที่สุดคือ การพูดกับชาวเจ้าของภาษาครับ ถ้าคุณอยู่ในต่างประเทศอย่างอินเดีย ตุรกี ฝรั่งเศส เยอรมัน ซึ่งมีคนพูดภาษาอังกฤษไม่มาก ที่ผมจะให้คุณนี้ คุณต้องเอาไปประยุกต์ใช้นะครับ ถ้าประเทศคุณไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก คุณต้องมองที่นักท่องเที่ยว แต่ Please do not harass the tourists. อย่าไปทำให้นักท่องเที่ยวกลัวนะครับ
แต่นอกเหนือจากนั้น ผมอยากจะขอให้คุณทำอย่างนี้ครับ คุณต้องมีปฏิสัมพันธ์ (หรือมีการสื่อสารสองทาง) กับเจ้าของภาษา ถ้าคุณอยากพูดได้อย่างเป็นธรรมชาตินะครับ
คุณสามารถดูโปรแกรมรายการทีวี อะไรก็ได้ที่คุณชอบ แต่การฝึกฝนเป็นสิ่งจำเป็นครับ
สิ่งแรกที่ผมจะบอกคุณคือ ไปเข้าเรียนเพื่อเรียนการพูด คุณต้องหาอาจารย์เพื่อมาปรับแก้ภาษาอังกฤษของคุณนะครับ
เพราะ ปกติ ชาติเจ้าของภาษา คนที่คุณพูดด้วย ไม่ว่าจะชาติคานาดา อังกฤษ หรืออเมริกัน เค้าพูดกับคุณ แต่เค้าไม่ได้ปรับแก้ภาษาคุณให้มันถูกต้องนะครับ เพราะมันดูไม่สุภาพครับ เค้าไม่แคร์ เค้าเข้าใจและนั่นก็ดีพอแล้ว แต่มันทำให้คุณฟังดูไม่เหมือนเจ้าของภาษาครับ
ดังนั้นคุณต้อง fight เพื่อตัวคุณเองนะครับ
นี่คือคำแนะนำเล็กน้อย แล้วหลังจากนั้นซัก 6 เดือน ภาษาคุณจะถูกทางและมีพัฒนาการที่ดีขึ้นครับ
คุณพร้อมยังครับ เอาหละ มันจะน่าเบื่อนิดหน่อยนะ
เราจะมาเรียน เรื่อง K.I.S.S เพื่อทำให้คุณ sweeter และ nicer
K.I.S.S
ในภาษาอังกฤษ เรามีว่า K.I.S.S = Keep It Simple Stupid นั่นคือที่ผมอยากให้คุณทำครับคือ ทำให้มันง่ายเข้า ออกมาตรงๆตัว
แต่ในที่นี่ ที่ผมจะให้คือ
- 1. Key In and (Select) (Detective)
- 2. Keep It (Sincere)
3 ซูเปอร์ฮีโร่ คาแรคเตอร์ที่ผมชอบ คือ Batman/Question/Professor X แต่ ละคาแรคเตอร์นี้เหมือนกับเมตาฟอร์เปรียบเทียบคาแรคเตอร์กับแต่ละไอเดีย ที่ผมอยากให้คุณระลึกถึงเวลากล่าวถึง 1. Key In and (Select) (Detective) กับ 2. Keep It (Sincere) นะครับ
คุยกับชาติเจ้าของภาษา ไม่ว่าจะในชาติที่เป็นเจ้าของภาษาหรือ ในฐานะเจ้าของภาษาไปเป็นนักท่องเที่ยว อย่างไรครับ
1. batman = detective
เมื่อคุณเห็นใคนนึง ถือ แก้วสตาร์บัคส์และหนังสือ แล้วเค้าเดินมาตามถน ปกติ คนทั่วไปเวลาเห็นคนเดินมาจะพูดว่า "Excuse me, do you have the time, please?" อย่าทำอย่างนั้นครับ ดูที่แก้วสตาร์บัคส์และหนังสือ สังเกตครับ เป็นคนช่างสังเกต เห็นแก้วสตาร์บัคส์ - สิ่งแรก - ร้านสตาร์บัคส์อยู่ไหน คุณสามารถเดินไปและกล่าว สำเนียงจะไม่นาทีฟก็ไม่เป็นไร กล่าวว่า
"Excuse me, Is there any Starbucks around here?, I love their coffee."
ตรงหน้า คนนั้น ต้องตอบอะไรบางอย่าวที่ไม่ใช่แค่ yes or no แต่เค้าอาจตอบ
Yes, it's around the corner over there.
"That's smells good, what is that?"
คุณสามารถเปิดการสนทนา ดูที่ข้อ 1. Key In and (Select) (Detective) คือดูของที่เค้าถือมาแล้วเลือก สตาร์บัคส์ มาเปิดการสนทนา
ส่วนข้อที่ 2. ส่วน Keep It (Sincere) มาจาก สิ่งสำคัญคือ คุณต้องจริงใจ อย่าดูที่ของบางอย่าง(ที่จะเลิกมาเปิดบทสนทนา)ที่ทำให้คนที่คุณสนทนาด้วยดูเป็นตัวตลก เช่น เขาสวมรองเท้าสีแดงคู่ใหญ่ทำให้เค้าดูเหมือน(มิสเตอร์)แมคโดนัลด์ แล้วกล่าว "Hey! I like your shoes." (อย่าทำ) นั่นเป็นส่วนสำคัญของบทสนทนาครับ
2. Question
ซูเปอร์ฮีโร่คนนี้ ไม่มีใบหน้าครับ เหมือนกับคุณ ที่ ปกติคนที่คุณสนทนาด้วย กับคุณก็ไม่ได้รู้จักกันอยู่แล้ว เค้าไม่มีเหตุผลที่จะพูดคุยกับคุณ ใช่มั๊ย ไม่มีเหตุผล
แต่มันสำคัญที่ เมื่อถอดหน้ากากออก คุณก็สามารถเห็นใบหน้าของเขาครับ
แต่เค้าสามารถเก็บข้อมูลจากการถามคำถามครับ ดังนั้นคุณก็ต้องเป็น Reporter ครับ นั่นคือ เปิดการถามคำถาม เช่น Where is the Starbucks around here? คุณไม่สามารถตอบ Yes, No ต่อคำถามนั้น คุณสามารถพูดว่า Oh, the Starbucks is down the street. bla.. bla.. bla.. นั่นทำให้คุณต้องฝึกทักษะการฟังมาก่อนนะครับ จะได้เข้าใจภาษาอังกฤษ แต่มันทำให้เค้าสนทนากับคุณยาวมากกว่า 5 วินาทีครับ ด้วยการหันไป Um.. that's smells like มอคคา, คาปูชิโน่, tall, skinny, ลาเต้, whatever (ภาษาสตาร์บัคส์) เค้าอาจตอบว่า No, no.. it's this... ซึ่งคุณสามารถเปิดบทสนทนาไปได้ เพราะเราแชร์สิ่งที่ชอบเหมือนกัน มันตรงกับข้อ 2. Keep It (Sincere) เพราะ(คุยกัน)อย่างจริงใจ คุณชอบอันนี้ ชอบอะไรเหมือนกัน มีอะไรร่วมกันทวน - ก่อนเข้าไปเรา detect ก่อน (คล้ายๆสแกน หาเรื่องคุย)- มองหาอะไรที่มัน unique เกี่ยวกับ คน(ที่เราอยากเปิดการสนทนาด้วย) - เมื่อเข้าไปคุยก็ต้อง Sincere เมื่อคนรู้ว่าเรา being real เค้าก็จะ จริงใจกับคุณมากขึ้น open มากขึ้นด้วย เห็นมั๊ยครับว่ามันดีต่อทั้งเราและคู่สนทนานั่นคือ ข้อ 1. และ ข้อ 2. Detective และ Reporterและข้อ 3. Professor X คืออะไรครับ
3. Professor X (Read minds)ถ้าคุณจริงใจกับคู่สนทนาแล้ว คุณจะพอคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น(ต่อไป)อาจมี 2 - 3 ไอเดียเกิดขึ้น (ทั้งถูกและผิด) แต่นั่นไม่เป็นไรครับ เช่น คุณทั้งคู่รู้จักกาแฟ ชอบกาแฟ รู้ว่าอะไรคือกาแฟชนิดดี หรือไม่ดีเพราะฉะนั้น จากจุดนั้น คุณสามารถสร้างบทสนทนาที่ดีใน area เรื่องที่คุณคุยกัน ทำให้บทสนทนามันยาวขึ้นถ้านักเรียนมาคุยกับผมว่า ไม่อยากไปคุยยืนกับชาวต่างชาติแถวถนนล่ะ"James, look at my foreigner. My English is not so good, I don't want to talk on the street, embarrassing!"(แปลเองนะ)ภาษาผมอาจจะไม่ดีนะครับ เพราะผมขาดความมั่นใจจริงๆโอเค มาทำให้มันง่ายขึ้นกันครับ***************************************************(เราสรุปเอง)สรุป1. Key In and (Select) (Detective) 2. Keep It (Sincere) และ 3 ซูเปอร์ฮีโร่ คาแรคเตอร์1. Batman = detective 2. Question = Reporter 3. Professor X = Read minds****************************************************ต่อข้างล่าง
แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 04:29:30
จากคุณ |
:
lovelypriest
|
เขียนเมื่อ |
:
21 มี.ค. 55 04:20:38
|
|
|
|
|