 |
เมื่อเช้าต้องออกไปซื้อของ เลยไม่มีเวลาอธิบายหลักการใช้เหตุผลให้ชัดเจน
ลองมาทวนเรื่องการเปรียบเทียบระหว่างใบอนุญาตครูกับใบประกอบโรคศิลป์ของแพทย์ ให้ดูกันใหม่
คนที่สอบแพทย์ติดส่วนใหญ่เรียนเก่ง พอเข้าไปเรียนแพทย์ในมหาลัยก็เรียนรู้อะไรดีๆมามากและใบประกอบโรคศิลป์ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี แพทย์ที่รักษาโรคไม่เป็นไม่น่าจะมีเกลื่อนกลาดจนล้นประเทศมากขนาดครูที่สอนหนังสือไม่เป็น
ส่วนคนที่ได้ใบอนุญาตครูมา เรามาดูกันว่ามันต่างกันยังไง สมัยหนึ่งพวกเอ็นเข้ามหาลัยไม่ติดตกงานกันเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงมีนโยบายตั้งวิทยาลัยครูขึ้นมาเพื่อรองรับคนเรียนไม่เก่งพวกนี้ (ตอนนี้วิทยาลัยครูพวกนี้เปลี่ยนชื่อเป็นราชภัฎหมดแล้ว) แล้วก็ผลิตครูออกมาจนล้นประเทศ แต่ครูที่ไม่เก่งพวกนี้ โดนเด็กเรียนเก่งๆสายอื่นมาแย่งงานไปหมด ครูที่ไม่เก่งก็เลยเดินขบวนกันกดดันให้รัฐบาลปกป้องพวกเขา ไม่ให้โดนคนเก่งๆที่เรียนสายอื่นมาแย่งงานไป
^
นี่คือจุดกำเนิดของกฎระเบียบเรื่องใบอนุญาตครู
แต่คนที่เรียนสายอื่นมา แต่ไม่เก่ง ยกตัวอย่างเช่นเรียนเอกอังกฤษมา ถ้าจบมหาลัยดีๆ เกรดดีๆ ฟังพูดอ่านเขียนภาษาอังกฤษเก่งมากๆระดับเป็นล่ามในศาลหรือเป็นล่ามในที่ประชุม หรือแปลเอกสาร PR หรูๆ เขียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาโฆษณาได้เหมือน copywriter คนพวกนี้ไปทำงานบริษัทหรือเอกชนข้ามชาติ เงินเดือน 50,000 - 60,000 บาท หรือมากกว่านั้น หางานได้สบายๆ แต่คนที่จบจากมหาลัยรองๆ และเกรดไม่ดี เวลาใช้งานภาษาอังกฤษจริงๆเช่นเขียน พอเขียนออกมามันมี syntactic errors in the writing of second language learners (เขียนผิดธรรมชาติแบบคนเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2) คนพวกนี้จะหางานด้านภาษาเงินเดือนแพงๆ มันเป็นไปไม่ได้ ก็เลยส่วนใหญ่เลือกที่จะไปสอบ 9 มาตรฐานวิชาครูเพื่อเอาใบอนุญาตครูมา เพราะ "มันได้สิทธิพิเศษอีตรงที่ ไม่โดนคนเก่งภาษาอังกฤษมากๆ มาแย่งงานไปทำ"
^
นี่เรายกตัวอย่างครูสอนภาษาอังกฤษนะ แต่ครูสอนวิชาอื่นก็เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นคนจบคอมพิวเตอร์มาความสามารถสูงมากๆ ทำงานเงินเดือนมากๆ เผลอๆเดือนหนึ่งได้เงินเป็นแสนๆก็เป็นไปได้ ก็หางานง่ายอยู่แล้ว ไม่มีใครอยากไปเป็นครูมีใบอนุญาตครูหรอก ส่วนใหญ่ที่ไปเป็นครูก็เพราะ "จบมาจริงแต่แข่งขันในตลาดงานค่าตอบแทนสูงๆไม่ได้นั่นเอง เพราะถ้าเข้ามาเป็นครูมีใบอนุญาตครูก็จะปลอดภัยเพราะได้รับความคุ้มครองไม่ให้คนที่เก่งกว่ามาแย่งงาน เพราะเงินเดือนครูมันน้อยนิดคนเก่งๆไม่มาแย่งงานอยู่แล้ว"
^
เราจะหาครูเก่งๆได้ จำเป็นอย่างยิ่งต้อง
1 เพิ่มเงินเดือนครูให้ทัดเทียมกับองค์กรเอกชน เพื่อให้ได้แต่คนเก่งๆฉลาดๆเข้ามาเป็นครู
2 ยกเลิกใบอนุญาตครู และเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันโดยเสรี
ดังนั้น "กฎระเบียบเรื่องใบอนุญาตครูจึงเป็นการปกป้องคนไม่เก่ง แต่กฎระเบียบเรื่องใบประกอบโรคศิลป์ ไม่ว่าจะมีหรือไม่ คนที่เรียนแพทย์จบมาได้นับว่าเป็นคนเรียนเก่ง ก็น่าเชื่อถือทางด้านวิชาชีพและมีหลักประกันว่าต้องรักษาคนไข้ได้อยู่แล้ว แต่ในทางกลับกันคนมีใบอนุญาตครูมาจากพวกที่เรียนครูเพราะเอ็นเข้ามหาลัยดีๆไม่ติด และมาจากพวกเรียนสายอื่น แต่ไม่เก่งมาก (แข่งในตลาดงานไม่ไหว) ก็เลยหนีจากการแข่งขันในตลาดงาน มาพึ่งใบบุญใบอนุญาตครู"
^
ดังนั้น คนที่เอาใบอนุญาตครูไปเปรียบเทียบกับใบประกอบโรคศิลป์ของแพทย์ ต้องถือว่า "ตรรกะป่วยอย่างแรง!"
แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 00:06:29
| จากคุณ |
:
fortuneteller   
|
| เขียนเมื่อ |
:
22 มี.ค. 55 23:37:42
|
|
|
|
|
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
สั้น ๆ ก็คือคุณธรรมนั้นมันวัดเป็นตัวเลขไม่ได้ครับ คุณจะใช้กระดาษกี่แผ่นก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าจะบอกว่าส่งเสริมนั้นทำได้ แต่การันตีไม่ได้ว่าถ้ามีกระดาษแผ่นนั้นแล้วครูไม่ลวนลามเด็ก นั่นคือจะเอามายกอ้างเป็นข้อหลักบังหน้าไม่ได้ แต่ที่คุณวัดได้แน่ ๆ ก็คือความรู้ ซึ่งวัดเป็นตัวเลขได้
