 |
บริษัทแปลในประเทศที่เจริญแล้วมีทีมงานครบวงจร เช่นนักแปล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่นด้าน computer ที่แนะนำนักแปลเรื่อง software ต่างๆ editors ที่ตรวจแก้ภาษาปลายทางให้ดูดี และอื่นๆอีกมากมาย
แต่บริษัทแปลในประเทศไทยยังไม่ได้มาตรฐานมากเท่าในประเทศที่เจริญแล้ว เพราะส่วนใหญ่ถือกำเนิดจากการอาศัยทำเลใกล้ๆสถานทูตแปลเอกสารพวกแต่งงานหญิงไทยกับฝรั่งเป็นงานหลัก ซึ่งมีงานพวกนี้มากเพราะมีพวกมาเฟียจากต่างประเทศส่งผู้หญิงไทยไปขายต่างประเทศ แล้วก็มีผู้หญิงไทยนิยมการแต่งงานกับผู้ชายฝรั่งเพื่อไปหาโอกาสทำมาหากินต่างแดน แต่นานๆวันเข้าก็กลายเป็นมีลูกค้าที่เป็นบริษัทห้างร้านเอาเอกสารด้านเทคนิค กฎหมาย ธุรกิจ ฯลฯ มาให้แปล ซึงบริการการแปลจากร้านแปลเอกสารหน้าสถานทูต (ส่วนใหญ่ร้านแปลพวกนี้อยู่แถวๆ ถ.วิทยุ และ ถ.เพลินจิตในบริเวณใกล้เคียง ถ.วิทยุ) คุณภาพก็อยู่ในเกณฑ์ "พออ่านรู้เรื่อง" ไม่เลิศเลอ perfect มากนัก เนื่องจากนักแปลโดนกินห้วคิวไปแล้วตั้ง 50% (รับหน้าร้านหน้าละ 400 -500 บาท แล้วจ่ายนักแปลแค่ครึ่งเดียว) นักแปลก็เลยต้องเอา teen เขี่ยมาเพื่อทำจำนวนหน้าให้ได้มากๆ ในแต่ละวัน ซึ่งงานแปลแบบนี้เราเรียกว่า "งานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ"
แต่งานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือก็ยังดีกว่างานแปลที่ออกมาจากร้านถ่ายเอกสาร (ร้านถ่ายเอกสารก็รับแปล หน้าละประมาณ 200 บาท แล้วเจ้าของร้านแปลเอง) เพราะงานแปลร้านถ่ายเอกสารแปลได้แย่มากๆถึงกับอ่านไม่รู้เรื่อง นักแปลอีกประเภทที่แปลแล้วอ่านไม่รู้เรื่องก็คือพวกที่กำลังรอสมัครงานแล้วรับแปลสมัครเล่นที่ไปโฆษณารับแปลหน้าละ 150 - 200 บาท ใน pantipmarket
ร้านแปลก๋วยเตี๋ยวเรือมี market share สูงที่สุด เพราะบริษัทห้างร้านที่ไม่อยากไปจ้างร้านถ่ายเอกสารแปลที่แปลเละเกินไป และไม่อยากไปจ้างองค์กรที่แปลดีๆเกินไปแต่แพงเกินไป เช่นศูนย์การแปลจุฬา หรือหนังสือพิมพ์ Bangkok Post แปลหน้าละ 2,000 - 3,000 บาท ก็จะยอมรับคุณภาพร้านแปลก๋วยเตี่ยวเรือ เพราะไม่ต้องการเพิ่มงบ แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็คือคนที่ทำงานบริษัทห้างร้านพวกนัั้นมีความรู้ด้านภาษาแค่พออ่านรู้เรื่องจะหาข้อบกพร่องงานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือไม่ค่อยจะได้ แต่พวกเซียนภาษาอังกฤษใน pantip ที่เก่งมากๆ ถ้าอ่านงานแปลไทยเป็นอังกฤษจากร้านแปลก๋วยเตี๋ยวเรือก็น่าจะจับผิดการเขียนภาษาอังกฤษที่ผิดธรรมชาติ (syntactic errors in the writing of second language learners) ได้ในอัตราส่วนประมาณ หน้าละ 2-3 แห่ง หรือถ้าไปเจอนักแปลก๋วยเตี๋ยวเรือเก่งๆ ก็จับผิดได้ 3 หน้าต่อ 1 แห่ง
แต่บริษัทห้างร้านหรือองค์กรทีต้องการนักแปลมือดี ก็จะยอมเสียเงินจ้างนักแปลอิสระซึ่งได้มาโดยการบอกกันปากต่อปาก โดยส่วนใหญ่คนที่เรียนจบด้านภาษาจากมหาลัยที่มีชื่อเสียงซึ่งเข้าไปทำงานในบริษัทห้างร้านหรือองค์กรพวกนี้ ก็แนะนำฝ่ายจัดซื้อของตัวเองให้รู้จักกับเพื่อนฝูงตัวเองที่เรียนจบด้านภาษามาด้วยกัน หรือรู้จักนักแปลเก่งๆ (ซึ่งอาจไม่ได้เรียนด้านภาษามา) ซึ่งรู้จักกันในแวดวงนักแปลด้วยกัน ซึ่งนักแปลพวกนี้ ฝีมือจะดีกว่านักแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ แต่จะคิดแพงกว่า คือหน้าละ 800 - 1,500 แต่บางทีงานเฉพาะทางยากมากๆ มีคิดค่าแปลถึงหน้าละ 2,000 บาท ซึ่งความน่าเชื่อถือก็อาศัยการบอกปากต่อปากมา และน้กแปลอิสระที่เก่งๆแบบนี้ได้งานเพราะเครือข่ายเพื่อนฝูงที่ทำงานด้านภาษานั่นเอง
จริงๆแล้วงานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือนี้ เห็นค่าแปลถูกๆแต่ก็ทำรายได้ให้นักแปลไม่เลวนักนะ เมื่อก่อนเราเคยแปลก๋วยเตี๋ยวเรือแล้วปั่นวันละ 10 หน้า หน้าละ 200 บาท ก็ได้ วันละ 2,000 บาท ถ้าเดือนหนึ่งทำงานแค่ 22 วัน ก็ได้ 44,000 บาท ซึ่งก็ยังดีกว่าไปทำงานรับเงินเดือนบางงานซะอีก แถมงานแปลก๋วยเตี๋ยวเรื่อยังมีล้นตลาด มีให้ทำทุกวันด้วย
แต่หลังจากเราปรับปรุงการเขียนภาษาอังกฤษจนชนะนักแปลก๋วยเตี๋ยวเรือไปหลายช่วงตัวแล้ว ขนาดมองคำแปลที่พวกเขาเขียนเราจับผิดได้เยอะมากๆ เราก็เลยทะเยอทะยานอยากได้งานแปลที่ราคาแพงๆ แต่เราก็สมัครงานบริษัทเช่นสมัครเป็นเจ้าหน้าฝ่าย admin ที่ต้องสื่อสารกับต่างประเทศและต้องทำงานเป็นลามในที่ประชุมและแปลเอกสาร (อยากเปลี่ยนเป็นใช้ทักษะการแปลในแนวนี้) เราก็สมัครไม่ได้ เพราะเรามีวุฒิแค่มัธยมต้นเองเพราะเขาจะไม่รับเรา แต่เราจะลองทำงานให้ดู แต่เขาก็ไม่ยอมให้ทดลอง (จริงๆแล้วเคยสมัครงานแบบนี้ได้ครั้งเดียวเพราะเจ้าของบริษัทเอาฝรั่งมาอ่านภาษาอังกฤษที่เราเขียนแล้วยอมรับเราเข้าทำงาน) เราก็เลยต้องหาทางรับงานแปลเป็นงานอิสระ ซึ่งเผอิญเราโชคดีไปได้แฟนเรียนจบด้านภาษาจากมหาลัยดีๆมีเครือข่ายเพื่อนฝูงมากๆที่ทำงานด้านภาษา แฟนเราเลยช่วยรับงานแปลราคาหน้่าหนึ่ง 800 - 1500 บาท ในนามของเธอ แล้วโยนมาให้เราแปลเพื่อให้เรามีงานทำ
ซึ่งการรับงานแปลราคาแพงๆแบบนี้ บางทีมันก็เสี่ยงที่จะมีช่วงไม่มีงานทำ คือบางทีเราได้งานหน้าละ 1,500 บาท แปล 4 วัน (แปลแค่วันละ 5 หน้า ซึ่งจำนวนหน้าน้อยกว่าแปลก๋วยเตี๋ยวเรือครึ่งหนึ่ง เพราะต้องการเพิ่มคุณภาพให้สมราคา) ได้ค่าแปลมา 30,000 บาท แล้วเราอาจไม่มีงานทำอีกตั้ง 10 กว่าวัน เราก็เลยหารายได้เสริมโดยการแปลนิยายให้สำนักพิมพ์ หรือออกไปสอนภาษาอังกฤษบ้าง แต่บางทีได้งานถูกกว่านั้นเช่นได้แค่หน้าละ 800 บาทก็ต้องทำงานจำนวนวันมากหน่อยเพื่ิอตีตื้นขึ้นมา แต่โดยรวมแล้วเราก็ยังมีงานทำอยู่เรื่อยๆ ถึงไม่ร่ำรวยนัก แต่ก็พออยู่รอด และที่สำคัญก็คือมีเวลาว่างเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษเพิ่ิมเติมได้ค่อนข้างมากกว่าสมัยแปลงานก๋วยเตี๋ยวเรือที่ต้องทำงานชั่วโมงยาวๆไม่ค่อยมีเวลาว่าง
เราเคยคิดที่จะไปเขียนโฆษณาบริการแปลไว้ที่ websites ต่างประเทศ เพราะถ้าแปะตัวอย่างการแปลไทยเป็นอังกฤษดีๆ แล้วเขียนภาษาอังกฤษสวยๆ ถ้าผู้ว่าจ้างเป็นฝรั่งเจ้าของภาษาเห็นภาษาอังกฤษเขียนดีๆ ส่วนใหญ่เขาจะไม่ขอดูวุฒิการศึกษาแบบคนไทย เราจะได้ไม่ต้องไปรบกวนแฟนเราให้หางานให้เราทำบ่อยๆ แต่พอขยับจะไปเขียนโฆษณาทีไร แฟนเราก็ใจดีหางานแปลราคาแพงๆมาให้เราทำได้อยู่เรื่อยๆ...555+++...
ซึ่งก็นับว่าการเป็นนักแปลอิสระมันเป็นการใช้ชีวิตที่ตื่นเต้นพอสมควร
แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 19:04:21
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
25 มี.ค. 55 18:54:29
|
|
|
|
 |