|  | 
คุณวังเหนือ เข้ามาตอบแล้ว
 ผมขอสรุปโดยย่อ อ้างอิงจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีดำที่ ๑๙๗/๒๔๘๒  คดีแดงที่ ๒๗๘/๒๔๘๒
 ความแพ่งระหว่าง กระทรวงการคลัง โจทก์
 สมเด็จพระปกเกล้าฯ ที่๑ และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ที่๒ จำเลย
 วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๑๔๘๒
 
 คือ ศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จำเลย ต้องทรงจ่ายเงินให้โจทก์ตามฟ้อง (หกล้านกว่าบาท)
 แต่ทว่า ทรัพย์สินของจำเลย มีไม่ถึง
 จึงตัดสินให้ อายัดทรัพย์สินทั้งหมดของจำเลย ซึ่งรวมไปถึงวังสุโขทัย(ซึ่งรัฐบาลประมาณมูลค่าไว้สามล้านบาท) ด้วย
 
 และหลังจากนั้น ก็ได้มีการประมูลขายทอดตลาดพระราชทรัพย์ที่ถูกยึดมาหลายรายการ
 โดยการขายถูกประกาศและจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๘ ถึงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๘๕
 (อ้างจากประกาศขายทอดตลาดกองบังคับคดีทางแพ่ง
 ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๔ สารกิจปรีชาหัวหน้ากองบังคับคดีทางแพ่ง )
 รายการทรัพย์ที่ถูกขายในครั้งนั้น ขอยกตัวอย่างบางชิ้นจากที่ขายเฉพาะในวันที่ ๘ มกราคม อาทิเช่น
 ๑. ขันทองลายพระพุทธรูป หนักประมาณ ๖๕๕ กรัม ๑ ขัน,
 ๒. พานลาวทอง หนักประมาณ ๕๔๕ กรัม ๑ พาน,
 ๓. กะโถนทองคำลงยาปากกะจับ หนักประมาณ ๒๖๕ กรัม ๑ ใบ,
 ๔. ขันทองคำลงยามีพานทองคำลงยารอง หนักประมาณ ๔๘๕ กรัม ๑ ที่,
 ๕. กล่องหมากทองคำหลังมีตราจุลจอมเกล้า จ.ป.ร.ประดับเพ็ชร์ ๑ ดวง หนักประมาณ ๘๘ กรัม รวม ๒ สิ่ง,
 ๖. พานทองคำลงยามีโถปริก ๗, ปริกทองคำลงยา ๑ หนักประมาณ ๑,๑๗๕ กรัม ๑ ที่,
 ๗. พานทองคำลงยากลีบบัวลายเทพพนม หนักประมาณ ๑,๒๘๕ กรัม ๑ พาน,
 ๘. หีบบุหรี่ทองคำรูปสี่เหลี่ยมมีประดับพลอยสีต่างๆ ทั่วทั้งหีบ มีเท้าสี่เท้า หนักประมาณ ๑,๔๘๐ กรัม
 
 ฯลฯ
 
				 
				
					| จากคุณ | : 
Diwali   |  
					| เขียนเมื่อ | : 
26 มี.ค. 55 23:04:37 |  
					|  |  |  |  |