ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าโนเนม เป็น ปโท เดลิเวอรี่ก็เข้าทำนอง จ่ายครบ-จบแน่ คะ จากคุณ : mayumijung เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 09:46:39

ความคิดเห็นที่ 2 1.มีทั้งอาจารย์กำหนดเองและให้เรานำเสนอโดยอิสระ แต่ต้องอยู่ภายใต้หัวข้อที่ได้มา จำนวนหน้าตามความเหมาะสม นำเสนอเยอะแล้วมีแต่น้ำจะโดนอาจารย์สอยตอน present ถ้าจำนวนหน้าน้อยแต่นำเสนอได้ดีมีที่มาที่ไปชัดเจนมีบทสรุปข้อเสนอแนะก็ ผ่านได้ 2.paper กำหนดงานตามวิชาที่ลง มีทั้งงานกลุ่ม งานเดี่ยว การบ้าน 3.สอบปลายภาค แล้วแต่วิชา บางวิชามีทั้งเขียน+กากบาท มีทั้ง close และ open book 4.หัวข้อวิทยานิพนธ์ถ้าคิดไม่ออก แล้วเราถนัดหรือชอบวิชาไหนสามารถไปคุยกับ อาจารย์วิชานั้นได้ อาจารย์มักจะมีหัวข้อวิทยานิพนธ์ใหม่ๆในมือเป็นจำนวนมาก หรือเอา แนวคิดของเราไปคุยกับอาจารย์ก็ได้ว่าพอที่จะทำเป็นงานวิจัยได้ไหม ระดับ ป.โท ต้อง เน้นเข้าหาอาจารย์เอง ถ้าบางหัวข้อท่านไม่ถนัดก็อาจจะแนะนำอาจารย์คนอื่นให้เราได้ ตอนเรียน โท ทั้ง 4 หัวข้อที่ว่ามา โชคดีได้เข้าในสาขาที่มีระบบและรุ่นพี่ที่ดี เคลียร์ให้ หมด ทั้งตัวอย่างงาน รูปแบบการพิมพ์ ขั้นตอนการนำเสนอ ไกด์ไลน์การทำรายงานแต่ ละวิชา นิสัยใจคอของอาจารย์ในคณะความถนัดงานวิจัยของอาจารย์ที่ปรึกษาในแต่ละ คน มีการพูดคุยและแนะนำตอนรับน้อง พอเรียนจริงๆจึงไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีแนวทาง ในใจไว้หมดแล้ว จากคุณ : DEDETE เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 12:26:46

ความคิดเห็นที่ 3 ปริญญาโทที่แท้จริงไม่มีรายงาน ไม่มีรายงานกลุ่ม ไม่มีข้อสอบแบบเลือกช้อยส์ การเรียนปริญญาตรี...คือการเรียนองค์ความรู้ที่มีอยู่แล้ว การเรียนปริญญาโท...คือการเรียนรู้ขึั้นตอนการสร้างองค์ความรู้ใหม่ การเรียนปริญญาเอก..คือการพิสูจน์ให้วงวิชาการรับรู้ว่าผู้เรียนสามารถสร้่งองค์ความรู้ใหม่ได้ ดังนั้นการเรียนปริญญาโท..จึงไม่ใช่การเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนวิชาความรู้ แต่จะเป็นการนำความรู้ที่เคยเรียนในระดับปริญญาตรี..มาถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การศึกษาแนวความคิดใหม่ๆ จากนักคิดต่างประเทศ นำมาสรุปปประเด็นเป็นรายงาน เสนอต่อชั้นเรียนเพื่อถกเถียงด้วยกัน (ไม่ใช่เพื่อส่งอาจารย์) เมื่อผ่านการเรียนพื้นฐานของการสร้างองค์ความรู้เหล่านี้ ผู้เรียนจะต้องเข้าสอบการประมวลความรู้เพื่อให้แน่ใจว่าผ่านกระบวนการเรียนรู้นี้มาแล้ว หลังจากนั้นจึงเริ่มทำวิทยานิพนธ์ โดยนำทฤษฏีต่างๆ มาศึกษา สร้่างสมมุติฐานแนวทางการศึกษาใหม่ แล้วกำหนดหัวข้อที่จะพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งขึ้นนั้น (หรือจะเลือกสมมุติฐานของเดิมที่มีคนทำมาแล้วก็ได้ หากขี้เกียจนัก แต่ต้องเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ศึกษา) หลังจากนั้นจึงเริ่มทำวิยานิพนธ์ โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาคอย Guide ให้ห่างๆ เมื่อวิทยานิพนธ์ผ่าน..ก็คือสำเร็จการศึกษาปริญญาโท ถ้าคุณเรียนแบบเข้าเรียน เช็คชื่อ จดเลคเชอร์ สอบเนื้อหาวิชา ทำรายงานเดี่ยว ทำรายงานกลุ่ม.. สอบแบบช้อยส์ หรือเขียนตอบหนึ่งหน้าสองหน้า... ไม่มีสอบประมวล.. อาจารย์กำหนดหัวข้อวิทยานิพนธ์ให้ นั่นคือการศึกษาปริญญาโทแบบ"จ่ายครบจบแน่" ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในปัจจุบันครับ จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 13:36:06

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนผมเรียน.. วิชาเดียวที่ต้องจดเลคเชอร์คือวิชา "กระบวนการวิจัยทางสังคมศาสตร์" เพรามันมีขั้นตอย กระบนการ และสูตรคำณวณมากมาย ไม่ว่าจะเป้นกระบวนการจัดทำแบบสอบถามที่ต้อง Pre Test ต้องมีอำนาจแยกแยะในการวิจัย..ฯลฯ จึงต้องจด..เพราะมันจะเป็นไกด์ในการตีความผลวิจัย แต่วิชาอื่นไม่มีเลคเชอร์ ชั่วโมงแรก อาจารย์จะเดินยิ้มๆ เข้าในห้อง พร้อมกับนักการเข็นหนังสือวิชาการต่างประเทศตามเข้ามาหนึ่งคันรถ ชั่วโมงแรกจะเป็นการมอบหมายหนังสือแต่ละเล่มให้นักศึกษานำไปอ่าน สรุป เสนอเป็นรายงาน แต่ไม่ได้เสนออาจารย์ นักศึกษาจะต้องทำสำเนาตามจำนวนผู้เข้าเรียน และแจกจ่ายให้ทุกคนศึกษา เพื่อจะได้เข้าร่วมถกเถียงกันในห้อง แทบทุกวิชาเป็นแบบนี้.. มีบางวิชาที่ไม่ต้องทำรายงาน แต่อาจารย์จะเดินเข้ามาพร้อมหนังสือพิมพ์... แล้วคุยประเด็นข่าว...โโยหยิบยกเนื้อหาทางวิชาการมาจับ นักศึกษามีหน้าที่โต้แย้ง..ถกเถียง ก่อนที่อาจารย์จะช่วยสรุปปิดท้าย... วิทยานิพนธ์เสนอหัวข้อเป็นสิบครั้ง โดนตีตกหมด... (เพราะอาจารย์ที่ปรึกษาไม่ชอบการนำกรอบทฤษฏีเดิมมาศึกษาโดยการเปลี่ยนประชากร) จนในที่สุดก็ต้องสร้งทฤษฏีใหม่... ใช้เวลาเก้บข้อมูลในหมู่บ้านชาวไทยภูเขาภาพเหนือสองปี.. กว่าจะออกมาเป็นวิทยานิพนธ์ที่อาจารย์ยอมรับ... นี่คือการศึกษาปริญญาโทสมัยก่อน... ผมไม่รู้เหมือนกันว่าสมัยนี้เรียนกันอย่างไร แต่ผมรู้จักคนที่จบปริญญาโทจากมหาวิทยลัยชั้นนำมากมาย.. ที่ไม่รู้จักทฤษฏีพื้นฐานในสาขาวิชาตนเองเลย... จบปริญญาโทสารสนเทศ...โดยไม่รู้จักว่าProtocalคืออะไร จบปริญญาโทรัฐศาสตร์การปกครอง โดยไม่รู้จักการศึกสายสาย Main Stream บ่นไปอย่างนั้นแหละ...ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 13:51:09

ความคิดเห็นที่ 5 ของเรา ยังไม่จบ -*- เรียน วิชาพื้นฐานต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็น project แบบให้ไปหางานวิจัยจากต่างประเทศ และในประเทศ มาอ่านแล้วก็สรุปองค์ความรู้จากงานวิจัยนั้นๆ หรือให้ไปหาข้อมูลความรู้ภายใต้หัวข้อที่อาจารย์กำหนด มี lecture และหนังสือเช่นเดียวกันค่ะ แต่ไม่เหมือนป.ตรี ตรงที่คุณต้องมีความรู้พื้นฐานและรู้จักวิเคราะห์และสังเคราะห์ความรู้ที่คุณได้รับ มีงานทั้งกลุ่ม และเดี่ยว บางงานคล้ายกับตอนเรียนป.ตรี (บังเอิญเรียนสาขาเดิมค่ะ) แต่ระดับงานค่อนข้างยากกว่า เป็นวิชาการมากกว่า จากนั้นเมื่อเรียนครบ ก็สอบประมวลผลวัดความรู้ทั้งหมด สอบผ่านก็เตรียมทำวิทยานิพนธ์ และตอนนี้เราก็ติดที่ขั้นตอนทำวิทยานิพนธ์นี่แหละค่ะ ยากอ่ะ T.T จากคุณ : yurime เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 15:08:19

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับ ผมสนใจเรียนเอกภาษาไทย แต่ตัวเองไม่ได้จบตรีเอกนี้ ทำให้คิดไม่ออกว่ารายงานแต่ละวิชาจะทำยังไง ถ้าสอบได้จะทำวิทยานิพนธ์(อะไรทั้งๆที่ยังไม่ได้สอบ) ก็เลยอยากถามเป็นแนวทางไว้ประกอบการตัดสินใจเผือฟลุ๊คสอบติดครับ แล้วที่ผมได้ยินว่ามีบางที่ จ่ายครบจบแน่ นี่จริงไหมครับถ้าจริง เป็นของรัฐหรือเอกชน และสุดท้ายเป็นแบบภาคปกติหรือภาคพิเศษ กรุณาอย่าเอ่ยชื่อมหาวิทยาลัยนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : แก่บ้ากาม เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 16:11:25 A:27.130.102.116 X: TicketID:352743

ความคิดเห็นที่ 7 จ่ายครบจบแน่ บอกตามตรงผมคิดว่าอาจจะมี แต่ผมไม่เคยเห็น เพราะผมก็อยู่แถวม.เล็ก ๆ ห่างไกลเมืองหลวง แต่การเรียนการสอนก็ยากไม่แพ้กับม.ใหญ่ ๆ (เพราะเคยไปอยู่ม.เหล่านั้นมาเช่นกัน) เรื่องรายงานหรือการสอบ มันแล้วแต่อาจารย์ โดยส่วนใหญ่จุดมุ่งหมายของการให้ทำรายงานก็เพื่อให้นักศึกษาไปศึกษาความรู้เพิ่มเติม หัวข้อก็แล้วแต่ อาจารย์อาจจะกำหนดให้ หรือเปิดกว้างให้ทำหัวข้ออะไรก็ได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบที่อาจารย์กำหนด ส่วนการสอบมักจะเป็นข้อเขียน เพราะผู้เรียนต้องสามารถแสดงภูมิความรู้ของตนเอง ซึ่งจะแสดงออกได้เด่นชัดขึ้นจากการให้เขียนอะไร ๆ ออกมาจากสิ่งที่รู้ จากคุณ : Canon in Science Major เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 20:24:44

ความคิดเห็นที่ 8 เรียนแบบคุณ หมู4X น่าสนใจมากค่ะ บอกตามตรงว่าที่เราเรียนอยู่เรายังไม่เห็นว่ามัน จะต่างกับปริญญาตรีตรงไหน จากคุณ : yellobat เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 21:16:23

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ หมู4X จบจาก ม ไหน หลักสูตรไหนมาครับ ปีไหนครับ จากคุณ : หมาป่าดำ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 13:54:48

ความคิดเห็นที่ 10 รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ปี 2527 ครับ จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 18:58:44