ความคิดเห็นที่ 1 ประชาธิปไตยของพม่าตอนนี้มันก็แค่สร้างภาพ    แต่ในความเป็นจริงก็ยังคงเป็นเผด็จการทหารอยู่ดี    ซึ่งรัฐบาลพม่าจะอ้างคำว่าประชาธิปไตยมาปิดปากของชนกลุ่มน้อยต่างๆ      เพราะในความเป็นจริงสส.ไม่ได้มาจากชนกลุ่มต่างๆทั้งหมดในประเทศ       แต่มีกลุ่มพม่าเป็นหลักและมีมากที่สุด      นั่นเพราะถึงชนชาติพม่าจะเป็นกลุ่มที่มีประชากรมากที่สุดในพม่า   แต่ก็๋มีเพียง40%ของประชากรทั้งหมดเท่านั้น        หากมีการเลือกสส.กันตามจำนวนประชากรจริงๆแล้ว    ชนกลุ่มน้อยต่างๆจะไม่รีรอที่จะจับมือรวมกันให้ได้เสียงถึง60%     และกลุ่มของพม่าจะกลายเป็นเสียงข้างน้อยที่หมดอำนาจในการทำอะไรไปทันที แต่อย่างไรก็ตาม     การเปิดประเทศของพม่าก็เป็นดาบสองคม      เพราะการเปิดประเทศนั้นย่อมทำให้องค์กรต่างๆรวมไปถึงกลุ่มสิทธิเสรีภาพได้เข้าไปเห็นสภาพภายในของพม่า       ว่ามีความเลวร้ายแค่ไหน      ซึ่งหากเห็นว่ายังมีการกดขี่ - สู้รบ - ต่อต้านกันไม่หยุด     ก็อาจนำมาซึ่งการแทรกแซงเพื่อมนุษยธรรม      นั่นจะยังผลไปถึงการถามความต้องการของคนในพื้นที่    ว่าอยากจะอยู่รวมกันหรือไม่      และไปสู่การทำประชามติแยกประเทศ ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้    ถึงแม้จะนานแต่สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือกลุ่มต่อต้านต่างๆต้องไม่ยอมแพ้    ไม่ยอมเลิกล้มความพยายาม     ไม่ว่าอย่างไรต้องพยายามคงอยู่ต่อไปให้ได้      เพื่อนำเรื่องไปสู่ภายนอกและสังคมโลกรับรู้ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 23:54:18

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าลืมว่า รัฐธรรมนูญพม่าฉบับปัจจุบันให้สิทธิ์กองทัพสามารถใช้กำลังได้โดยอิสระเด็ดขาด หากเกิดสถานการณ์สั่นคลอนความมั่นคง และที่นั่งในสภาก็ให้ทหารนั่งได้ 20% ฉะนั้นงานต่อไปของดอว์ซูจีที่ต้องพยายามทำให้ได้เพียงอย่างเดียว ณ ตอนนี้คือรวบรวมเสียงในสภาเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ฉะนั้นเรื่องงานสานต่อจากบิดาคงยังอีกไกลโพ้น จากคุณ : hijack02 เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 23:55:51

ความคิดเห็นที่ 3 ในอนาคตไม่ว่ากี่ปี  เมื่อ อองซาน ซูจี  จะได้เป็นประธานาธิบดี เธอก็ไม่ยอมให้แยกประเทศหรอก เพราะเคยได้ยิน คำที่หลุดจากปากเธอว่าเราต้องร่วมกันพัฒนาประเทศด้วยกัน ขอย้ำด้วยกัน จากคุณ : Elliptic เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 01:17:03

ความคิดเห็นที่ 4 พม่าเป็นประชาธิปไตย อย่างสะดวกไม่ได้แน่นอน เพราะปัญหาเรื่องความหลากหลายทางชาติพันธุ์นี่แหละ ทั้งกะเหรี่ยง มอญ ชนกลุ่มน้อยอื่นๆ และแน่นอนว่าทุกกลุ่มมีความหวังคือการปลดปล่อยตนเองเป็นเอกราชจากพม่า จากคุณ : น้องจุ่น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 01:21:45

ความคิดเห็นที่ 5 คห.3     ถ้าซูจีปฏิเสธไม่ยอมให้แยกประเทศ   เท่ากับซูจีปฏิเสธความเป็นวีรบุรุษของพ่อตัวเอง    นายพลอองซานครับ       เพราะนายพลอองซานเป็นคนทำสนธิสัญญาปางโหลง       ถ้าซูจีปฏิเสธก็เท่ากับว่านายพลอองซานคือผู้ผิด   กระทำความผิดลงไป      นายพลอองซานจะไม่ใช่วีรบุรุษของพม่าอีก แต่ถ้าซูจียืนยันความเป็นวีรบุรุษของนายพลอองซาน   ซูจีก็ต้องยอมรับสนธิสัญญาปางโหลง จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 02:19:51

ความคิดเห็นที่ 6 ^ มีแววว่าซูจี ปฏิเสธ แน่ ดูจากท่าที จากคุณ : Elliptic เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 03:11:32

ความคิดเห็นที่ 7 คงตั้งประเทศไม่ได้ มีแต่นักรบ ไม่มีนักการเมืองที่โดดเด่นเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ประชาชนติดกับดักความชังพม่า ด้านการปกครองพม่าไม่เคยย่อยรัฐเป็นจังหวัดเหมือนของเรา ผู้นำฝ่ายชนกล่มน้อยแก่ตายทุกคน จึงไม่มีประเด็นอ้างอิง จากคุณ : Alone among the crowd เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 07:32:28

ความคิดเห็นที่ 8 ชาตินี้คงไม่ได้เห็นซูจีเป็นผู้นำประเทศหรอกครับ รัฐบาลทหารยังคงกุมอำนาจเบ็คเสร็จ ผมมองไม่ออกเลยว่าซูจีจะก้าวขึ้นมาโค่นล้มได้ยังไง แต่การที่ทหารเริ่มทำการเปิดประเทศนับเป็นนิมิตรหมายที่ดีอย่างยิ่งครับ ดีต่อตัวพม่าเอง ดีต่ออาเซียน และดีต่อไทย แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ทหารจะไม่กล้าทำแบบนี้แน่นอนถ้าไม่ได้นั่งจับเข่าคุยกับซูจีก่อน การที่ทหารปิดประเทศมากว่า 20 ปี แล้ววันดีคืนดีลุกขึ้นมาเปิดประเทศ ผมว่ามันชอบกลอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมือตลอด 20 ปีที่ผ่านมานี้ซูจีก็เป็นเหมือนหอกข้างแคร่ของรัฐบาลทหาร ฉะนั้นผมเชื่อว่าก่อนเปิดประเทศ รัฐบาลทหารต้องมีการคุยและหารือกับซูจีแล้ว และมีการขีดเส้นกันว่าซูจีจะทำอะไรได้บ้าง และทำอะไรไม่ได้บ้าง อาจมีการเสนอให้ซูจีเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศด้วย ซึ่งก็ดีต่อทั้งสองฝ่าย และดีต่อประชาชน เพราะเท่ากันว่าแทนที่ซูจีจะเสียเวลาไปกับการถูกขัง ก็เอาเวลาเหล่านั้นมาพัฒนาประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชนแทน แต่ทั้งนี้ซูจีคงไม่มีทางขึ้นมาเป็นผู้นำได้ เมื่อซูจีไม่ใช่ผู้นำ การพิจารณาสิทธิตามสนธิสัญญาปางหลงก็จะยังคงอยู่ในอำนาจของฝ่ายทหาร ซูจีจะไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน และผมเชื่อว่าซูจีเองก็ไม่อยากเอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ เพราะตัวเองมีชงักติดอยู่ จากคุณ : Iluvatar เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 08:41:05

ความคิดเห็นที่ 9 ^ เห็นด้วยอย่างแรง! จากคุณ : Elliptic เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 10:14:20

ความคิดเห็นที่ 10 ผมมีความเชื่อหนึ่งว่า พม่าก็เหมือนอังกฤษที่สามารถคุมบังเหียนบริเตนใหญ่ได้สมบูรณ์ พม่าก็จะคุมบังเหียนรัฐเหล่านี้ตามนั้นแล สิ้นชาติแต่ขอจงอย่าสิ้นวัฒนธรรมของเจ้า จากคุณ : Elizarah เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 10:54:50

ความคิดเห็นที่ 11 ตามนั้นแหละครับ ก่อนเลือกตั้ง รัฐบาลพม่ากับซูจี ย่อมต้องคุยก่อนแล้วแน่นอน ไม่งั้น รัฐบาลทหารพม่า คงไม่เปิดประเทศขนาดนักข่าวต่างชาติยังแปลกใจ ปัญหาคือ ต่างฝ่าย จะเดินตามเส้นของตัวเองไปตลอดได้หรือป่าว และทั้งซูจีและพม่า ย่อมไม่อยากทำให้พม่าแตกแน่นอน เพราะฉะนั้น จากนี้ก็คงต้องคิดต่อว่าจะคุยกับชนกลุ่มน้อยยังไง และซูจีจะวางตัวต่อยังไง ถ้ามีคนพูดถึงสนธิสัญญานี้ขึ้นมา จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 12:19:09

ความคิดเห็นที่ 12 จะเอาอะไรมากกับ ซูจี ซูจีเป็นแค่นักการเมืองคนหนึ่ง ถ้าได้มาบริหารประเทศ ก็ไม่มีวันแบ่งดินแดนรัฐฉานให้ไทยใหญ่ปกครองดอกครับ จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 12:22:49

ความคิดเห็นที่ 13 คงไม่มีชนชั้นปกครองคนไหนหรอกที่อยากจะให้แตกประเทศ และก็คงไม่มีผู้ที่ถูกปกครองไหนหรอกที่จะไม่อยากได้อิสระภาพ ถ้างั้นมันคงไม่มีความสงบเกิดขึ้นแน่ ถ้างั้นก็คงต้องพบกันครึ่งทางในรูปแบบของ สหพันธรัฐ มากกว่า และก็คงจะมีอีกหลายประเทศแถวนี้ที่คงจะเลียนแบบ จากคุณ : ชาวทัวร์ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 12:52:31

ความคิดเห็นที่ 14 ผมมองว่าปัจจุบันชาวไทใหญ่และพม่าน่าจะหาจุดที่อยู่ร่วมกันโดยสันติภาพ ภายใต้รัฐเดียวกัน แต่มีสิทธิเท่าเทียมกันน่าจะดีกว่าครับ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 13:22:29

ความคิดเห็นที่ 15 ประเทศเมียนม่าร์ มี 3 ระบอบ ระบอบใหญ่ ทหารคุม ระบอบกลาง สภารวมฝูง แยกกันกว่า 6 - 700 คน (ที่ NLD) ชนะ แต่ก็ยังมีทหารคุมอีกนั่นแหละ ระบอบล่าง แยกเป็นรัฐ จากคุณ : วรณัย เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 15:15:01

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่มีทางที่ไทใหญ่หรือรัฐอื่นๆจะยอมอยู่ภายใต้ รับเดียวกับพม่าแน่ๆ อย่างน้อยถึงไม่ประกาศเอกราช ก็ต้องเป็นรับปกครองตนเองครับ เพราะที่ผ่านมา พม่ามาดูดทรัพยากรรัฐอื่นไปหมด แต่ความเจริญกลับไม่เพิ่มขึ้น การแบ่งแยกชนชาติภายในประเทศ ชนชติต่างๆในพม่า ไม่เหมือนกับไทยนะครับ ของไทยถึงแม้จะพูดกลางไม่ได้ แต่ยังพอฟังออก จาก ในพม่า ภาษา พม่า ไต กะเหรี่ยงมันคนละภาษากันเลย เคยคุยกับแรงงานไทยใหญ่บอกว่า  ถ้าเป็นไปได้ อยากเอาลูกมาเรียนมหาวิทยาลัยในไทยมากกว่า เพราะ ถ้าชนกลุ่มน้อยไปเรียนมหาวิทยาลัยในพม่า มันจะลำบากมาก ทั้งการเอาเปรียบ การดูถูกชาติพันธ์ แรงงานไทยใหญ่ยังบอกว่า คนไทยใหญ่พูดภาษาไทยได้เร็วกว่าพูดพม่า อยู่พม่าเรียนหนังสือพม่าโอกาสก้าวหน้าน้อยกว่าเรียนหนังสือไทย เพราะเรียนพม่า ก็ตัน โอกาสทำงานราชการน้อยมาก ถ้าเรียนหนังสือไทย ใครมีแวว กองกำลังเค้าส่งมาเรียนต่อในไทยเลยครับ จนจบปริญญา จบปุ๊บกลับไปพัฒนา รัฐฉานต่อ แม้จะเงินเดือนไม่มาก แต่ก็ยังมีโอกาสช่วยเหลือรัฐฉานมากกว่าเป็นข้าราชการในพม่า จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 16:23:08

ความคิดเห็นที่ 17 เออ....จะแยกทำไม เจรจาให้รวมกัน ช่วยกันทำมาหากินสิ....แยกกันก็จนทั้งหมด จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 16:38:42

ความคิดเห็นที่ 18 กำลังนึกถึง ติมอร์ เลสเต้ แยกประเทศไป.. ไม่ได้ก่อให้เกิดอะไรดีขึ้นเลย มีแต่ถูกแทรกแซง ไร้เสถียรภาพ ชนกลุ่มต่างๆ ในพม่าก็เช่นกัน เท่าที่ได้สัมผัสมา แต่ละกลุ่มล้วนนึกถึงพวกตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้รู้สึกร่วมชาติร่วมแผ่นดินเดียวกัน เราเองก็คิดแทนพวกเค้าไม่ได้หรอก รู้แต่ว่าปัญหาชาติพันธุ์ของพม่าต่อไปจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ จากคุณ : ณ พิชา เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 19:27:47

ความคิดเห็นที่ 19 คห. 17 ถึงไม่แยกก็จนครับ เพราะหากพม่าพัฒนา จะเป็นอะไรที่กระจุก เฉพาะเขตพม่าเท่านั้น ส่วนตามแนวชายแดนที่มีด่านค้าขาย ก็พึ่งตัวเองทั้งนั้น จากที่สัมผัส แรงงานในเชียงใหม่ทั้งหมด เป็นไทยใหญ่ครับ แบ่งเป็นกลุ่มคือไทยใหญ่ในเขตอิทธิพลพม่า กับไทยใหญ่กองกำลัง ซึ่งไทยใหญ่ในเขตอิทธิพลพม่า เค้าเฉยๆกับขบวนการกู้ชาติ คือไม่สนับสนุนแต่ไม่ต่อต้าน ที่ไม่สนับสนุนเพราะ ไม่มีช่องทางสนับสนุน อีกอย่างไทยใหญ่กลุ่มนี้อยู่ลึกเข้าไปในประเทศพม่า การออกมาทำงานในไทยต้องเสียให้กองกำลังพม่าทั้งนั้น แต่ไทยใหญ่ ในเขตกองกำลัง เค้ามีช่องการสนับสนุนครับ ส่งเงินให้ เพราะไม่ต้องเสียค่าผ่านทางมากเหมือนกลุ่มแรก ตามความคิดผมนะ ถ้ารัฐฉานแยกออกมา ไทยจะโดนโจมตีจากนานาชาติแน่ๆ เพราะถ้าไทยใหญ่แยก อย่างน้อยเค้าจะโปรไทยมากกว่าพม่า อาจจะเป็นรัฐในอารักขา หรือเผลอๆอาจจะถึงขั้นรวมกับไทยก้ได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่าหากแม้ไทยใหญ่ไม่มีเอกราช ก็เป็นส่วนหนึ่งของไทยดีกว่า เพราะยังเป็นชนชาติเดียวกันกับไทย จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 19:27:52

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่คิดว่าซูจีจะทําอะไรทั้งนั้น ต่อให้คุณพ่อซูจีก็เหอะ สัญญาอะไรนั้นมีค่าแค่ไหนก็ไม่ทราบ ถ้าจะแบ่งประเทศกันจริงๆทําไหมตอนแรกรวมกัน จําเป็นแค่ไหนเชียว ถ้ารวมกันเรียกร้องอิสระได้มาแล้วต่างคนต่างไปเลยไม่ได้หรอ อยู่รวมกันต่อเพื่อไร ส่วนซูจีเค้ามีผลงานอันใด รู้แค่พ่อเค้าดัง แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 55 02:04:25 จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 23:43:27

ความคิดเห็นที่ 21 คห 20 ดังแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่เคยเรียกร้องให้นานาชาติคว่ำบาตรพม่า เพื่อนร่วมชาติจะอดตายเท่าไหร่ช่างหัวมัน จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 00:06:01

ความคิดเห็นที่ 22 คห.20 ถ้าจะแบ่งประเทศกันจริงๆทําไหมตอนแรกรวมกัน . . . ในตอนแรกสุดเมื่อพม่ายังเป็นอาณานิคมอังกฤษ     พม่าโดยนายพลอองซานก็เรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ     โดยไปร่วมมือกับชนกลุ่มน้อยต่างๆ   โดยเฉพาะเจ้าฟ้าไทใหญ่กลุ่มต่างๆ     ให้มาร่วมมือกันเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ    โดยนายพลอองซานตกลงเอาไว้ว่า     เมื่อได้เอกราชแล้วจะให้ชนกลุ่มน้อยต่างๆสามารถแยกตัวไปเป็นประเทศได้       เมื่อได้เอกราชจริงๆอองซานก็กำลังร่วมกับตัวแทนกลุ่มต่างๆมาร่างรัฐธรรมนูญ     ซึ่งจะใส่เรื่องแยกตัวออกเข้าไปด้วย         แต่ก็เกิดเหตุร้ายขึ้นซะก่อน สรุปคือเขารวมกันตอนแรก   เพื่อจะให้ได้สิทธิในการแยกตัวเป็นประเทศนั่นแหละ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 02:46:23

ความคิดเห็นที่ 23 ^ เชื่อว่าเป็นไปได้เค้าอาจจะเจรจากันขอเอกราช แต่ เมือได้เอกราชจริงๆแล้วทําไหมยังต้องมารวมตัวอีก เพื่ออยู่ใต้อํานาจพม่าแล้วออกกฏหมายให้แยกตัวได้ในภายหลัง คือดูมันรู้สึกแปลกๆ ไม่รู้เหตุการณ์ในยุคนั้นเลยมองไม่ออกนะครับ แต่ดูแล้วมันเข้าทางพม่ามากเลย ถ้าพ่อซูจีเป็นวีรบุรุษในเรื่องเรียกร้องเอกราช มองดูผลงานของเค้าคือทําให้ทุกชนกลุ่มน้อยมารวมใต้พม่ามากกว่า ถ้าซูจีจะสานต่อก็คือทําชนกลุ่มน้อยอยู่ใต้พม่าเหมือนเดิม... เรื่องจะยอมให้แยกตัวในภายหลังด้วยกฎหมายสัญญาอะไรนี่ เหอะๆ  ดูแล้วยังไม่น่าไว้วางใจ อยากรู้ทําไหมต้องรวมตัวกันขอเอกราช --อังกฤษเค้าไม่ยอมให้ขอทีละประเทศหรอ???? --ทําไหมถึงให้พม่าเป็นผู้ชี้ขาดขนาดนั้น???? --หรือจริงๆแล้วผู้นําชนกลุ่มน้อยอยากรวมกับพม่าตั้งแต่แรก???? --ต่อให้พ่อซูจียังไม่ตายเค้าจะยอมปล่อยจริงๆรึเปล่า???? แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 55 03:27:33 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 55 03:25:33 จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 03:21:13

ความคิดเห็นที่ 24 เคยอ่านในเว็บของกองกำลังไทยใหญ่ เกี่ยวกับสหายอองซาน ว่าถึงขั้นเป็นวีรบุรุษจอมปลอมของไทยใหญ่เลยทีเดียว บอกว่าความจริงกลุ่มหัวเมืองไทยใหญ่ทั้งหมด ไม่ได้เป็นเมืองขึ้นเฉกเช่นเดียวกับพม่า แต่ กลุ่มเจ้าฟ้าไทยใหญ่ ขอเข้าเป็นรัฐอารักขาของอังกฤษ ต่างหาก เพราะ ไม่อยากโดนลักษณะเดียวกับราชวงศ์พม่า จึงของเข้าเป็นรัฐอารักขา เมื่ออังกฤษขยายฐานค้าไม้มาถึงหัวเมืองไทยใหญ่ สหายอองซาน ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์สายจีน กลุ่มนักศึกษาไทยใหญ่ที่มาเรียนในพม่า บางกลุ่มก็ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ ตามแนวทางของสหายอองซาน การประชุมของกลุ่มเจ้าฟ้าไทยใหญ่ก็ถูกแทรกแซงหลอกหลวงโดยอองซานผ่านนักศึกษาไทยใหญ่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ ทำให้เกิดการแตกแยกในหมู่ชาวไทยใหญ่ในที่สุด ไทยใหญ๋ก็ขอประกาศเอกราชร่วมในนามพม่า แต่สแนบด้วยศัญญาปางโหลงไว้ แต่สหายอองซานก็ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ จึงถูกเนวินปกฺวัติ นัยว่าได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก เจ้าไทยใหญ่ทวงถามสัญาปางโหลงแต่ถูกปฏิเสธ สงครามประกาศอิสระภาพรัฐฉานจึงเกิด ส่วนอองซานผู้ลูก ก็เป็นเพียงสตรีโลกทัศน์แคบ เธอมองทั้งคนในพม่าเป็นชาวพม่า แต่ความจริงแล้วไม่ ชนกลุ่มน้อยต่างนอกจากสิทธิ์ทางการเมืองนอกจากถูกจำกัด แต่สิทธิ์ด้านความเป็นมนุษย์ก็ถูกละเมิดเช่นกัน แต่ซูจีกลับเพิกเฉยไม่รับรู้ใดๆ เพราะเธอไม่ทราบ หรือแกล้งไม่รู้ เพราะพม่าจะเป็นใหญ่เหนือชนกลุ่มอื่นในดินแดนนี้กันแน่ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 21:40:12

ความคิดเห็นที่ 25 ซับซ้อนจัง แต่ทำไมรู้สึกเจตนาเค้าชัดเจนมากอะ มากกว่าสามจังหวัดทางใต้ของเราอีก เวรกรรม แบบนี้มีแรงงานต่างด้าวต้องถามให้ชัดว่ามาจากไหนสินะ จากคุณ : dot_face เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 09:22:50

ความคิดเห็นที่ 26 3 จังหวัดใต้เรา มีทั้งคนที่ อยากอยู่กับไทย อยากอยู่กับมาเล อยากแยกดินแดนของตัวเอง และยังไงก็ได้ขอมีกินก็พอ แต่ไทยใหญ่นี่ คือ คนแทบทั้งหมด ยังไงๆก็ไม่ขอรวมกับพม่า แหละครับ ยังไม่นับชนกลุ่มน้อยอื่นๆ อีกนะที่อยู่เพราะผลประโยชน์ไปก่อน แต่ลึกๆก็อยากแยกออกมาเช่นกัน ดินแดบแถบนี้เมื่อก่อน ก็เป็นอิสระต่อกันบ้าง เป็นเมืองในขอบราชสีมามั่ง จนมาคราวชาติล่าอาณานิคมจากตะวันตกเข้ามา จึงต้องผนวกเข้ามาเป็น ไทย พม่า กัมพูชา ลาว ในปัจจุบัน คราวนี้ปัญหาก็คือ ตอนที่รวมตัวกันนั้น ประชากรที่ถูกขีดไว้ว่า เอ็งเป็นคนประเทศนี้แล้วนะ เขาจะยอมรับได้ในระดับไหน ถ้ายอมรับได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ายอมรับไม่ได้ก็เป็นแบบพม่านี่แหละ หรือมีแค่กลุ่มๆนึงยอมรับไม่ได้ แต่ดันมีอาวุธก็จะเป็นเหมือน 3 จังหวัดใต้เรา จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 09:49:51

ความคิดเห็นที่ 27 ... ครับ ... ครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 15:44:23

ความคิดเห็นที่ 28 นั่นเพราะถึงชนชาติพม่าจะเป็นกลุ่มที่มีประชากรมากที่สุดในพม่า   แต่ก็๋มีเพียง40%ของประชากรทั้งหมดเท่านั้น   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/bm.html http://en.wikipedia.org/wiki/Burma Ethnic groups: Burman 68%, Shan 9%, Karen 7%, Rakhine 4%, Chinese 3%, Indian 2%, Mon 2%, other 5% แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 55 19:19:16 จากคุณ : AKB-SKE เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 19:18:42

ความคิดเห็นที่ 29 ^ Wiki ไม่ขอพูดถึง    ใครก็แก้ได้ ส่วนเวบ CIA ส่วนใหญ่มาจากข้อมูลที่ประเทศนั้นปล่อยมาทั้งนั้นแหละครับ     ซึ่งหลายๆเรื่องก็ลงตามที่เจ้าของประเทศเขาต้องการให้เชื่ออย่างนั้น    ไม่ตรงกับความจริง ไม่เชื่อลองดูส่วนของประเทศไทยสิครับ     +++Buddhist 94.6%, Muslim 4.6%, Christian 0.7%, other 0.1%+++ รู้กันๆอยู่ว่าประเทศไทยมีประชากรราวๆ60กว่าล้าน     เป็นมุสลิมที่ภาคใต้6-7ล้านคนเข้าไปแล้ว     เท่ากับว่ามุสลิมในไทยต้องเกิน10%      เท่ากับคนพุทธไม่มีทางเกิน90%     แต่ก็ยังลงมันอยู่ว่าคนพุทธ 94.6% จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 19:50:14

ความคิดเห็นที่ 30 นอกเรื่องว่าถ้าอ้างอิงอะไรอย่างเอาวิกิเลย มันเสียตั้งแต่เครดิตเว็บแล้ว ส่วนเรื่องรวมชาติพม่าในสมัยนั้น ก็ซับซ้อนวุ่นวายมาก แต่มาลงตัวกันที่ว่ารวมตัวกันเรยกเอกราช และจะแยกกันเพราะปางโหลง แต่สุดท้ายอองซานผู้พ่อตายซะก่อน รัฐทหารเข้ามาคุมและฉีกสัญญาทิ้ง ก็เลยเกิดสู้รบวุ่นวายมาก ผมมองว่าถ้าปัญหานี้ไม่จบก่อนรวมอาเซียนมันจะเป็นโรคร้ายในกลุ่มประเทศเราแน่ๆ เรื่องสิทธิมนุษชนก็เป็นเรื่องที่เล่นไม่จบ ปีนี้ตอนนี้อาจจะสดใส แต่ผมมองโลกในแง่ร้ายนะครับ ว่ามันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของปัญหามากกว่า จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 21:35:19

ความคิดเห็นที่ 31 ฉันคิดว่ายังไงซะ แม้ซูจีจะได้นั่งในรัฐสภา มีบทบาทมากน้อยยังไงก็ตาม แต่โอกาสที่รัฐอิสระน้อยใหญ่จะได้ปกครองตนเองนั้นยากมากกกก ลองคิดดูดีๆ ถ้ารัฐน้อยใหญ่อย่างเช่นไทใหญ่ ได้ปกครองตนเองก็น่าจะได้ตั้งแต่ที่พม่าได้รับเอกราช ครบ 10 ตามสนธิสัญญาปางโหลง สมัยอองซานแล้ว อองซานคงไม่ดื้อดึงจนตนเองโดนลอบสังหาร จนอูนุขึ้นมา จนกระทั่งโดนยึดอำนาจจากเนวิน ในความคิดฉัน ฉันคิดว่าถ้าปล่อยให้รัฐต่าง ๆ ได้ปกครองตนเองนั้น หนึ่งในปัญหาแน่ๆคือ พม่าจะไม่มีแหล่งทรัพยากร ปัจจุบันพม่าใช้ทรัพยากรของรัฐพวกนี้เป็นส่วนใหญ่ในการขับเคลื่อนประเทศ จากคุณ : bonbonmadouce (bonbonmadouce) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 23:27:40

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ ^ ^ ^ ^ ^ ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ คห.31 เป็นชาวต่างชาติหรือเปล่าครับ จากคุณ : ระวังแตก เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 00:40:39

ความคิดเห็นที่ 33 ป่าวคะ พอดีได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเยอะ ^^ จากคุณ : bonbonmadouce เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 00:57:41

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ ขอบคุณทุกๆ ความเห็นครับ ผมได้ความรู้ขึ้นมากจากกระทู้นี้ จากคุณ : Coconut Dance : เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 02:18:07

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาอ่านแล้วได้รู้อะไรที่ยังไม่เคยรู้อีกมากมายเลยค่ะ ถกกันอีีกนะคะ อยากอ่านอีก ขอบคุณจขกท.กระทู้นี้และผู้ออกความคิดเห็นทุกคนค่ะ ^^ จากคุณ : ใต้ร่มคันเดียวกันวันฝนพรำ เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 13:48:03

ความคิดเห็นที่ 36 กำลังสงสัยพอดีว่า ซูจี  จะเป็นผู้นำประเทศได้จริงๆเร้อ ตลอดชีวิตของนางผมไม่เคยเห็นได้เล่นในบทบาทผู้บริหารเลย  เห็นแต่เล่นบทนักเคลื่อนไหว(+ สร้างดราม่า) รออ่านต่อครับ  ผมความรู้น้อยก็มาเก็บความรู้ที่นี่ล่ะ จากคุณ : ไม่งงครับ ไม่งง เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 15:33:43

ความคิดเห็นที่ 37 กระทู้คุณภาพ จากคุณ : เด็กท้ายรถ เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 20:25:52

ความคิดเห็นที่ 38 (ด้วยความรู้อันน้อยนิด) ทำไมไม่ปกครองแบบมาเลเซียหรอคะ ? จากคุณ : chom-l.t เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 21:14:39

ความคิดเห็นที่ 39 ฉันคิดว่าที่ไม่สามารถปกครองแบบมาเลได้ เพราะว่าที่มาต่างกันน่ะคะ รวมถึงประเพณี ศาสนา วัฒนธรรมเชื้อชาติ ปัจจัยทางภูมิศาสตร ต่าง ๆ ฯลฯ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จากคุณ : bonbonmadouce เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 21:24:28

ความคิดเห็นที่ 40 เท่าที่อ่านอัพเดทจากเวปกองกำลังนะครับ เหมือนว่าทางเจ้ายอดศึกจะสนับสนุนแนวคิดรัฐปกครองตนเอง มีนายกฯของรัฐฉานมาจากการเลือกตั้ง มีสภารัฐ ดูแลจัดการ ทรัพยากรภายในรัฐ ส่วนอำนาจการจัดการด้านอื่นเช่น ต่างประเทศ เป็นต้น ก็ให้ประธานาธิบดีกูแล คือเอาเป็นลักษณะนี้ก่อน ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ค่อยลงประชามติแยก จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 21:37:14

ความคิดเห็นที่ 41 เรื่องที่เจ้ายอดศึกคิดอาจจะทำได้ก็ได้นะคะ ในช่วงนี้ที่พม่ากำลังเปิดปรเทศอยู่ ด้วยช่วงนี้เองที่ต้องเรียกความเชื่อมั่นจากประเทศอื่น ๆ แต่รัฐบาลทหารพม่าเองก็น่าจะจับตาดูอยู่ห่างๆเช่นกัน คหส่วนตัว ^^ แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 55 21:54:44 จากคุณ : bonbonmadouce เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 21:48:29

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนเจรจา และหยุดยิง มีการฝ่าฝืนคำสั่งหยุดยิงในหน่วยปฏิบัติทางฝ่ายฟม่า ความจริงแล้วฝ่ายกองกำลังไม่มีอะไรจะเสีย แต่ที่เสียคือไทใหญ่ในเมืองเพราะในเขตเมืองทหารพม่าและกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่เข้ากับพม่าคุมอยู่ ผมไม่รู้ว่าสถานการณืความเป็นจริงเป็นอย่างไรแต่ ในเขตเมืองทางกองกำลังบอกว่ามีการเรียกเก็บค่าคุ้มครอง ซึ่งในกรณีนี้ คนงานไทใหญ่ที่ทำงานกับพ่อผมบอกว่า ต้องจ่ายให้เป็นค่าเดินทางกลับบ้านและเข้ามาไทย และกองกำลังที่เข้ากับรัฐบาลพม่ามีเสรีในการผลิตยาเสพย์ติด เพื่อใช้เป็นแหล่งทุนซื้ออาวุธเพราะพม่าไม่มีทุนช่วยชนกลุ่มน้อยเหล่านี้เลยให้เสรีการทำยาเสพย์ติดแทน ทำให้รัฐฉานเขตเมืองมีการระบาดของยาเสพย์ติดไม่แพ้เมืองไทย เพราะหากไม่ติดยา ก็จะเข้าถึงขบวนการยาก และเป็นการบ่อนทำลายกำลังพลกองกำลังไทใหญ่ด้วย ผมว่าเรื่องนี้ถ้าพม่าเปิดประเทศมากขึ้น เรื่องแดงแน่ทั้งปัญหายาเสพย์ติด ละเมิดสิทธิ์ เผลออาจถึงขั้นแบบเดียวกับธิเบตก้ได้ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 21:57:44

ความคิดเห็นที่ 43 คนไทยคงยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องชาติพันธ์และความไม่เท่าเทียมกันในพม่าหรอกครับ ถ้าเคยไปเห็นรัฐอื่นๆในพม่า เช่นรัฐฉาน รัฐยะไข่อาจจะเข้าใจมากขึ้นถึงปัญหาภายในประเทศพม่าดีขึ้น จริงๆแล้วคนไทยหลายคนได้ขึ้นไปเชียงตุง แต่ถ้าไม่ได้ไปย่างกุ้ง เนปิดอร์ มัณฑะเลย์ คงไม่เห็นความไม่เท่าเทียมกันจริงๆ จากคุณ : รักหวานในวันวาน เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 22:37:32

ความคิดเห็นที่ 44 wikiของต่างประเทศก็ใช้อ้างอิงได้ในระดับหนึ่ง ปกติการแก้ข้อมูลในนั้นต้องมีแหล่งอ้างอิงอยู่แล้ว การปฎิเสธมันเพราะบอกว่ามันแก้ไขได้ มันก็แปลกๆ เหมือนการกล่าวหาเหมารวมไปหน่อยครับ จากคุณ : รักหวานในวันวาน เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 22:43:29

ความคิดเห็นที่ 45 จริงๆข้อมูลในวิกิ ผมก็ไม่ค่อยเชื่อเหมือนกัน เพราะสัดส่วนชาวพม่า กับไทใหญ่ มันห่างกันเกินจริง เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ไทใหญ่คงเสร็จพม่าไปนานแล้ว อีกอย่างปัญหา3จังหวัดไม่เหมือนกับไทยใหญ่ 3จังหวัดเป็นการขุดประวัติศาสตร์มาอ้างแล้วเป่าหูกับความเชื่อทางศาสนา มาปลุกระดมเพื่อหวังผลทางการเมืองและทุนสนับสนุนจากนอกประเทศ เพราะ 3จังหวัด ไม่มีใครที่ได้เห็นความเป็นรัฐอิสระเหลืออยู่แล้วในตอนนี้ เพราะปัตานี เข้าเป็นส่วนหนึ่งของไทยในสมัยต้นกรุง ผิดกับรัฐฉานที่ตกเป็นของพม่าหลังจากประกาศเอกราชกับอังกฤษนั้นหมายถึงยังพอมีคนที่ได้เห็น ไทใหญ่ไม่ขึ้นกับพม่าอยู่ หรือไม่ก็ได้ฟังเรื่องราวจากคนเหล่านั้นมาโดยตรง ซึ่งข้อนี้ต่างจาก3จังหวัด จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 22:41:11

ความคิดเห็นที่ 46 #29 คุณ zodiac28 ขอโทษที่นอกประเด็นนิดนึงนะครับ เรื่องจำนวนมุสลิมในภาคใต้ ปัจจุบัน ประชากรไทย ประมาณ 64 ล้านคนนะครับ ภาคใต้มีประชากรแค่ ราวๆ 9 ล้านคนครับ ถ้ามุสลิม 6-7 ล้านนี่หมายถึงคนใต้เกือบ 80% เชียวนะครับที่เป็นมุสลิม ผมว่าไม่น่าจะใช่นะครับ โดยส่วนตัวคิดว่ามุสลิมจากภาคใต้ไม่น่าจะเกิน 3 ล้านนะครับ ข้อมูลจาก กรมการปกครอง (น่าจะเชื่อถือได้นะครับ) http://www.agriinfo.doae.go.th/year54/general/population/pop53.pdf จากคุณ : C a e l u s เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 23:44:37

ความคิดเห็นที่ 47 ^ อันนั้นขออภัยครับ    บังเอิญใช้คำผิด    ที่ว่าไม่ต่ำกว่า6-7ล้านนี่หมายถึงทั้งประเทศน่ะครับ     แต่ภาคใต้มุสลิมอย่างน้อยๆก็น่าจะราวๆ50%ได้ละนะ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 04:08:43

ความคิดเห็นที่ 48 คห42 ธิเบต เป็นยังไงหรอครับ จากคุณ : เอฟเฟ่ห้าวหัวเสือไม่เคยกลัวใคร เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:04:41

ความคิดเห็นที่ 49 ที่ว่าแบบเดียวกับธิเบตคือ การที่มันดังไปทั่วโลกไงครับ  คือจนถึงตอนนี้ทั่วโลกยังมองไปที่ประชาธิปไตยในพม่า และพอพม่าเปิดประเทศ เรื่องการกดขี่ชนกลุ่มน้อยจะแดงขึ้นมา การกดขี่ทุกระดับ ตั้งแต่รัฐ จนถึงประชาชนทั่วไป การดูดทรัพยากร มาให้กับชนชาติพม่า การจำกัดสิทธิด้านพฤตินัย ของชนชาติอื่น ยิ่งพม่าเป็นรัฐที่มีความหลากหลายทางชนชาติ แต่ที่นั่งในสภากลับไม่เป็นไปตามสัดส่วนนั้น จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:37:20

ความคิดเห็นที่ 50 #47 คุณ zodiac28 ครับ โอเคครับ 6-7 ล้านทั้งประเทศก็ทั้งประเทศ ซึ่งผมเห็นด้วยกับคุณนะครับ ว่า ตัวเลขไทยพุทธ 94.6% นั้นเยอะเกินจริง เข้าใจว่า กรมการปกครองมีตัวเลขจริงแค่เด็กอายุ 15 up ที่ระบุศาสนาในบัตร ส่วนต่ำกว่า 15 ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่มีบัตรอาจจะใช้การประเมินคร่าวๆ ถ้าจะคลาดเคลื่อนน่าจะมาจากส่วนนี้ครับ แต่ไม่แน่ใจว่า คุณเอาตัวเลขมาจากไหนครับ ว่า มุสลิมภาคใต้ 50% แน่ๆ ผมในฐานะที่เกิดและโตที่ สงขลา จังหวัดนีงที่มุสลิมเยอะ แม้นปัจจุบันจะไม่ได้อยู่ที่นั่นแต่ก็กลับไปเยี่ยมญาติบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ ซึ่งญาติผมมีทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิม ประชากรมุสลิมทั้งจังหวัดสงขลาเองยังไม่ถึง 50% เลยครับ (อันนี้มาจากการคลุกคลี และสัมผัสโดยส่วนตัวนะครับ) จริงๆอยากจะอ้างอิงตัวเลข wiki นะแต่ในเมื่อคุณไม่เชื่อ ลองดู Global Muslim Population by Pew http://features.pewforum.org/muslim-population/# จำนวนมุสลิมไทย 3.9 ล้านครับ คิดเป็น 5.8% ของประชากรไทย ส่วนอันนี้ รูปข้างล่าง ประเมินคร่าวๆนะครับ 1. จำนวนมัสยิด จาก annisaa.com (ที่มา : ฐานข้อมูลคณะกรรมการอิสลามและสถานสอนจริยศึกษา (ตาดีกา) )   อาจจะไม่ up to date มากนักแต่ไม่มีแหล่งข้อมูลอื่นที่ชัดเจนกว่านี้ครับ 2. ประมาณการจำนวน ประชากร 1,000 คนต่อ 1 มัสยิด (ผมให้ปัตตานี ประชากรมุสลิม 100% เลยครับซึ่งจิงๆแล้วน้อยกว่า 100% แน่ๆครับ) 3. ปัจจุบันมัสยิดทั่วประเทศประมาณ 3,800 มัสยิด เกือบ 80% ตั้งอยู่ในภาคใต้ แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 16:55:21 จากคุณ : C a e l u s เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 14:36:20

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ ยองเจียงใหม่ ครับ อย่าเอา ฉาน ไปเทียบกับ ทิเบต เลย ดังขนาดนั้นยังแยกไม่ได้เลย หรืออย่างไต้หวัน แยกไปแล้วตั้งนานยังหาประเทศอื่นๆยอมรับยาก ผมว่า พม่ากับ จีนเลย มวยคนละรุ่น อย่างจีนต่อให้ ทั้งโลกเพ่งมองก็ไม่กระเทือน อย่างค่าเงินหยวนนะ อเมริกายังทำไรจีนไม่ได้ รัฐฉาน น่าจะใช้เคสเดียวกับ ติมอร์ตะวันออก แต่ รัฐฉานโชคร้าย ไม่มีน้ำมันให้ตะวันตก โอกาสโดนแทรกแซงยากกว่า ไม่มีตะวันตกที่ไหนจะช่วยหรอกครับ ถ้าไม่ได้อะไรเลย นอกจากชนชาติฉาน จะโดนแบบยูโกสลาเวียเก่านะ ฉานจะแยกได้ ถ้าไทยส่งเสริม(ลับๆ)มากกว่านี้ และมีทุนมากกว่านี้ มีเอกภาพมากกว่านี้ แค่ในคนชาติฉานเองยังมีหลายกลุ่ม และที่สำคัญ ซูจี ไม่มีทางจะสนับสนุนให้แบ่งแยกดินแดนแน่ๆครับ หลายครั้งที่เธอใช้คำแบบ "ทุกชนชาติพัฒนาประเทศร่วมกัน" จากคุณ : C a e l u s เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 14:39:11

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ C a e l u s ผมอยากให้รัฐฉานเป็นข่าวมากกว่านี้ ให้มันรู้กันทั่วโลกแบบธิเบต ความจริงรัฐฉานก็มีน้ำมันครับ แม้จะไม่มาก แต่หากแยกประเทศ น้ำมันในรัฐฉานก็คงเลี้ยงตัวเองได้สบายๆ ความจริงเรื่องที่ไทยช่วยกองกำลังไทใหญ่ มันเป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วในตอนนี้ เพราะ เราต้องช่วยกองกำลังกูชาตไทใหญ่ เพราะเป็นกลุ่มเดียวที่ต่อต้านยาเสพย์ติดในดินแดนผลิต  ไม่อย่างงั้นจะทะลักมากกว่านี้ แต่หากช่วยอย่างโจ่งแจ้งเกินไป ทางการพม่าอาจไม่พอใจจน สั่งชะลอแก๊ซเราได้ง่ายๆ ส่วนซูจี ผมว่าเะอเป๋นนักการเมืองในอุดมคติ คือ มันอุดมคติ เกินไป เธอคิดว่าทุกชาติพันธ์ เป็นชาวพม่าเหมือนกันหมด แต่ในความเป็นจริงมันต่างกันโดยสิ้นเชิง การแบ่งแยกแยกชนชาติฝังลึกไปในประชาชน ไม่ว่าจะเป็นปัญหา โรฮิงยา การอ้างว่าทุกชาติพันธ์พัฒนาร่วมกัน แต่ซูจีแทบจะไม่เคยไปเหยียบรัฐของชนชาติอื่นอย่างจริงจังเลย จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 19:55:56

ความคิดเห็นที่ 53 คุณC a e l u s    เรื่อง 50% นั้นผมบอกไปแล้วไงครับ   ว่า"น่าจะ" อย่าลืมนะครับ      ว่าปัจจุบันบัตรประชาชนไทย    ไม่ได้ระบุศาสนาเอาไว้แล้ว      ซึ่งรัฐจะหาข้อมูลศาสนาได้จากไหนที่ครอบคลุมประชากรทั้งประเทศ     คำตอบคือต้องหาจากนักเรียนครับ      เพราะคนไทยทุกคนต้องเข้าโรงเรียน     ข้อมูลจากตรงโรงเรียนจึงครอบคลุมประชากรทั้งหมด      แต่นั่นก็เป็นเพียงข้อมูลที่ไปถึงอายุ15ปีรึจบม.3       หลังจากม.3แล้วไม่ใช่ทุกคนที่สามารถหาข้อมูลได้     ผมเองหลังจากเรียนจบมาก็ไม่เคยเห็นทางรัฐมีการมาหาข้อมูลการนับถือศาสนาเลยซักครั้ง       ซึ่งนั่นแหละคือจุดเปลี่ยน     เพราะการเปลี่ยนศาสนาหลักๆแล้วคือคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว และการเปลี่ยนเป็นศาสนาอิสลามนั้น    หลักๆคือการเปลี่ยนเมื่อไปแต่งงานกับมุสลิม     (ตามหลักของอิสลาม    คนที่จะมาแต่งงานกับมุสลิม    ต้องเข้าอิสลามด้วย)       ซึ่งการแต่งงานตามกฎหมายต้องอายุ17ปี    ซึ่งพ้นจากการศึกษาภาคบังคับมาแล้ว     รัฐจึงไม่สามารถหาข้อมูลครอบคลุมได้ทั้งหมด จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 03:35:14

ความคิดเห็นที่ 54 ลืมๆ    อย่างไรก็ตาม   มุถสลิมไม่ได้มีแค่เฉพาะภาคใต้      ภาคอื่นก็มี    โดยเฉพาะกรุงเทพกับอยุธยาก็เยอะ      สรุปว่ามุสลิมในไทยไม่น่าจะมีน้อยกว่า 4 ล้านคนแน่ครับ     ตามเวบที่คุณให้ดู    ผมก็ไม่รู้ว่าเขาสำรวจกันมายังไง   ปี 2010 มุสลิมในบรูไนถึงมีแค่ 211,000      ทั้งๆที่บรูไนมีประชากรกว่า 3 แสนคน    และเป็นประเทศมุสลิม     มุสลิมในบรูไนไม่น่าจะน้อยกว่า 2.5 แสนเลยครับ นอกจากนี้ก็จีน    ที่ตามข้อมูลมุสลิมในจีนมีร่วมๆ 1 ร้อยล้าน   แต่เวบนี้บอกมี 23 ล้านเท่านั้น จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 03:58:25

ความคิดเห็นที่ 55 ซูจี ต้องกลายเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น เธอต้องตาย เพื่อกลายเป็น วีรสตรี ชนกลุ่มต่างๆ ถึงรวมกันได้ จากคุณ : สายฝนในสายหมอก (สายฝนในสายหมอก) เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:53:04