ความคิดเห็นที่ 1 นักเขียนกับกองบรรณาธิการเป็นอาชีพในแวดวงเดียวกันที่ต่างกันสุดขั้วเลยค่ะ ความสามารถอย่างหนึ่งของกองบรรณาธิการคือ การจับผิด และมองให้ทะลุเนื้อหา ในขณะที่นักเขียนคือผู้สร้างความบันเทิง บางคนเป็นกองบรรณาธิการที่ดี สามารถมองจุดบกพร่องของงานเขียนชิ้นนั้น คอมเม้นท์จนได้งานเขียนที่สมบูรณ์ แต่อาจจะเขียนหนังสือไม่ได้เลย เรื่องของการเป็นนักเขียนที่รู้จักระดับหนึ่งไม่เกี่ยวกับฐานเงินเดือนของกองบรรณาธิการอย่างแน่นอนค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเวลาเราเขียน กับเราพิจารณาต้นฉบับนั้น ต่างกันมาก แต่การที่เราเป็นนักเขียนทีดี มีชื่อเสียง ก็เป็นปัจจัยเพิ่มในการตัดสินใจเลือกรับเราเข้าทำงาน แต่อาจจะไม่เกียวข้องกับเงินเดือนเลยค่ะ ส่วนถามว่ากองบรรณาธิการเงินเดือนเยอะไหม ขอตอบว่าแล้วแต่ที่ แต่แห่งนะคะ ส่วนใหญ่ทำทำนิตยสารเงินเดือนโอเคระดับหนึ่งเลยค่ะ เพราะนิตยสารมีโฆษณา แต่ถ้าเป็นกองบรรณาธิการนิยาย ต้องทำใจนิดนึงนะคะ อาจจะได้น้อยจนน่าตกใจ มีข้อแนะนำอีกอย่างก็คือ หากคุณเป็นกองบรรณาธิการ อาจจะเขียนหนังสือไม่ได้เลย เพราะ งานหนัก เหนื่อย และที่สำคัญคือ การที่เราต้องแก้ไขปรับปรุงงานให้มีคุณภาพ ทำให้งานเขียนชิ้นต่อไปของเรา อาจจะใช้เวลานาน และยังไม่พอใจเพราะเรารู้ถึงจุดที่กองบรรณธิการต้องแก้ไข แต่ถ้าเราผ่านไปได้ อะไรๆ ก็คงง่ายขึ้นเลยล่ะคะ จากคุณ : hippogift เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 10:34:43

ความคิดเห็นที่ 2 ฟังแล้วดูเหมือนไม่น่าจะเป็นงานที่ควรทำด้วยประการทั้งปวงเลยนะคะ 555 ใจจริงอยากทำงานสำนักพิมพ์เพราะอยากเขียนบทความนู่นนี่ แต่ถ้าไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคิดซะแล้ว จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 12:10:26

ความคิดเห็นที่ 3 ลักษณะงานของกองบรรณาธิการมีหลายแบบค่ะ บางที่ก็เป็นลักษณะดูแลต้นฉบับ ได้เขียนนิดหน่อย ถ้าเป็นงานนิตยสารก็ได้เขียนเต็มตัว แล้วเรามองว่า 2 อาชีพนี้ทำด้วยกันได้ค่ะ คือถ้างานกองบรรณาธิการมาก ก็ต้องจัดสรรเวลาเองว่าจะหาเวลาเขียนตอนไหน อย่างนักเขียนดังๆ บางท่านก่อนที่จะมีชื่อเสียงและเป็นนักเขียนเต็มตัว ก็ทำงานหนัก แต่เค้ามีวินัย กำหนดเลยว่ายังไงทุกวันก็ต้องเขียน งานอาจจะออกช้าหน่อย แต่ถ้าขยันยังไงก็ได้ออกแหละค่ะ ข้อดีของการทำงานกองบรรณาธิการ+นักเขียน คือจะได้ connection ในแวดวงนี้ แล้วก็มีข้อมูลในการนำมาเขียนหนังสือ ส่วนเรื่องเงินเดือนไม่ทราบค่ะ จากคุณ : ratta เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 12:32:47

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบทีละประเด็นนะคะ ประเด็นแรก  "กองบรรณาธิการ" กับ "บรรณาธิการ" ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว และขึ้นอยู่กับหนังสือหรือสนพ.แต่ละแห่งด้วย โดยทั่วไป "กองบรรณาธิการ" นิตยสารจะทำหน้าที่เขียนคอลัมน์ลงนิตยสาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคอลัมน์สัมภาษณ์บุคคล  เขียนข่าวสังคม  แปลข่าวจากต่างประเทศ  เขียนคอลัมน์ตามที่ลูกค้าขอมา  ฯลฯ เพราะฉะนั้น กองบรรณาธิการจะต้องเขียนหนังสือ"เป็น"  สัมภาษณ์คน "เป็น" (แต่จะเก่งหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)  และรู้จักสร้างความสัมพันธ์กับคนในสังคมและวงการ กองบรรณาธิการนิตยสารจึงเป็นเหมือนบันไดก้าวแรกและรากฐานที่มั่นคงของคนที่คิดจะเขียนหนังสือเป็นอาชีพ กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่คัดเลือกและตรวจต้นฉบับหนังสือเล่ม ไม่ค่อยได้ออกไปสัมภาษณ์ ยกเว้นเป็นสนพ.ต้องการให้ไปสัมภาษณ์มาทำเป็นหนังสือเล่ม แต่ส่วนใหญ่กองบรรณาธิการสนพ.ทำไม่ได้ เพราะไม่เคยมีทักษะเรื่องการสัมภาษณ์ ส่วน "บรรณาธิการ" หมายถึงผู้ที่ดูแลตรวจต้นฉบับและภาพรวมทั้งหมด ในกรณีที่เป็นนิตยสาร บรรณาธิการจริง ๆ (ที่ไม่ใช่ตั้งเอาไว้ออกงาน) มักก้าวขึ้นมาจากกองบรรณาธิการ เพราะจะตรวจต้นฉบับได้ ก็ต้องเขียนหนังสือเป็นเสียก่อน แนะนำกองบก.ได้ได้ว่าควรสัมภาษณ์เรื่องอะไร ประเด็นไหน รวมถึงดูภาพรวมของหนังสือทั้งหมด เมื่อคุณก้าวขึ้นมาเป็นบรรณาธิการ เวลาในการเขียนหนังสือจะลดลง เพราะต้องไปดูแลเรื่องการบริหารและบริหารคนมากกว่า บรรณาธิการหนังสือเล่ม  ก็คล้ายกัน แต่งานน้อยกว่าเพราะหนังสือเล่มไม่ซับซ้อน หรือต้องติดต่อกับคนมากเท่านิตยสาร เว้นแต่ว่าสนพ.จะมีเป้าให้ออกปีละ 50 เล่ม อันนั้นก็ตัวใครตัวมัน จากประสบการณ์ที่ผ่านมา  ถ้าอยากเป็นนักเขียนอาชีพอิสระ การเคยเป็นกองบรรณาธิการนิตยสาร คือทางทีี่ดีที่สุด ถ้าเป็นคนเปิดรับและเรียนรู้ทุกอย่างที่อยู่รอบตัว คุณจะได้ทักษะทุกอย่างที่นักเีขียนควรจะมี เงินเดือนกองบรรณาธิการ ทุกวัน ขึ้นอยู่กับแต่ละนิตยสาร อาจจะไม่มากนัก แต่ก็ไม่ได้น้อยจนอยู่ไม่ได้ ที่สำคัญกว่าคือ "ประสบการณ์" ที่คุณไม่สามารถหาได้จากอาชีพอื่น จากคุณ : tomatolatte เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 13:46:12

ความคิดเห็นที่ 5 ประเด็นต่อมา สองอาชีพนี่ทำด้วยกันได้ไหม (หมายถึงกองบรรณาธิการกับนักเขียน) ทำได้ ถ้าแบ่งเวลาและตั้งใจจะเป็นนักเขียนจริง ๆ   ขึ้นอยู่กับนิตยสารหรือสนพ.ที่ทำงานเยอะขนาดไหน ความจริงนักเขียนสมัยนี้เป็นได้ง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะ มีเวทีให้ลองผิดลองถูกมากมาย เพิ่มเติมเรื่องเงินเดิน ถ้ามีประสบการณ์มาก่อน มันก็ควรจะได้มากกว่าปกติอยู่แล้ว แต่ก็ขึ้นกับสนพ.เล็กหรือใหญ่ เขาสามารถจ่ายให้ได้หรือเปล่า แต่คำว่าประสบการณ์ในวงการนักเขียนนี่ ถ้าให้พูดกันตรงไปตรงมา คนสมัครงานกับคนรับสมัคนงานคิดไม่ตรงกันหรอก จากคุณ : tomatolatte เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 13:55:18

ความคิดเห็นที่ 6 อีกประเด็นหนึ่งที่พูดเรื่องรายได้นักเขียน   โดยเฉพาะเวลาที่คนชอบพูดว่านักเขียนไส้แห้ง ทำเป็นอาชีพไม่ได้ อันนี้ขอเถียงใจขาด ว่ามันเป็นอาชีพได้  ถ้าคุณมีฝีมือพอ อยากจะบอกว่าทุกวันนี้ คนที่เป็นนักเขียนอิสระรอบตัว งานล้นมือกันทั้งนั้น งานเขียนหนังสือมันไม่ได้มีแค่เขียนนิยาย หรือพ๊อกเก๊ตที่อยากจะเขียนเท่านั้น แต่มันยังมีงานเขียนแบบอื่น ๆ อีกมากมาย ปัญหาก็คือคนเขียนหนังสือทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เขียนหนังสือได้แบบเดียว มันจะอยู่ได้อย่างไร ยังไม่นับคนทำงานที่ไม่รับผิดชอบ บางคนก็อีโก้จัดจนเกินจะเยียวยา การนักเขียนอิสระทุกวันนี้ ถึงจะไม่ร่ำรวยอะไร แต่ก็ไม่ไส้แห้งแน่นอน แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 55 14:11:25 จากคุณ : tomatolatte เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 14:09:37

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณผู้รู้ทุกท่านที่ชี้แนะนะคะ ทั้งคุณ hippogift คุณ ratta และคุณ tomatolatte ถ้าอย่างนั้น ในกรณีของ จขกท. ถ้าอยากเป็นนักเขียนมืออาชีพที่มีงานหลายๆประเภท ก็ควรที่จะสมัครงานในกอง บก.นิตยสารเพื่อสร้าง connection จะได้มีโอกาสเขียนบท ความอื่นๆที่นอกเหนือจากการเขียนนิยายเล่ม อย่างนี้ดีมั้ยคะ จะได้มีรายได้ในหลายๆทาง เพราะจากประสปการณ์ กว่าจะได้ตังค์ค่าลิขสิทธิ์ก็นานพอดู จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 15:14:12

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเลือกได้ ก็ควรเลือกทำกองบรรณาธิการนิตยสาร เพราะไม่มีอาชีพที่ทำให้เราได้สัมผัสกับผู้คนได้มากและหลากหลายเท่านี้อีกแล้ว ยิ่งถ้าเป็นคนสัมภาษณ์ก็ยิ่งฟังเรื่องราวมากมาย สำหรับคนเขียนนิยาย ไม่มีแหล่งข้อมูลอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง นอกได้รู้จักคนในแล้ว คุณจะได้เรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติของคนที่ทำอาชีพนี้  แต่ละสนพ.มีิวิธีคิดและการทำงานแตกต่างกัน ถ้าคุณยอมรับและปรับตัวเข้ากับมันได้ ก็จะมีงานให้ทำตลอด ถ้าเป้าหมายคือการเป็นนักเขียนอิสระ  ก็ต้องฝึกเขียนหนังสือให้ได้หลากหลายรูปแบบโดยไม่จำเป็นต้องชอบมันทุกอย่าง เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะ "รับ" หรือ "ปฏิเสธ" งานไหน การทำงานในนิตยสารหรือสำนักพิมพ์ อาจช่วยให้เรามีรู้คนในวงการมากกว่าคนอื่น แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ฝีมือ วินัย และความรับผิดชอบ   ซึ่งเป็นคุณลักษณะของมืออาชีพ ตราบเท่าที่คุณเป็นมืออาชีพ  แม้บางครั้งคุณจะแรงไปบ้าง แต่เขาจะจ้างคุณอยู่ดี ส่วนเรื่องเขียนนิยายแล้วได้ค่าลิขสิทธิ์ช้า อันนี้เป็นเรื่องปกติ ถ้าอยากเป็นนักเขียนอิสระ ก็ต้องวางแผนการเงินให้เป็น เป็นนักเขียนอิสระ ก็เท่ากับคุณมีบริษัทของตัวเอง ต้องคิดว่ามีเงินสดหมุนเวียนได้นานเท่าไหร่ ต้องสำรองเงินสดเท่าไหร่จึงจะพอใช้ จนกว่าจะได้เงินค่าลิขสิทธิ์ หรือค่าจ้างเขียนงานอื่น ๆ จากคุณ : tomatolatte เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 15:58:25

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาฮาชื่อจขกท. จากคุณ : comicclubs เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 17:22:52

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากๆค่ะ ^^ เกรงใจจัง รู้สึกถามเยอะเหลือเกิน แบบว่ามีข้อสงสัยอีกอย่างค่ะ ปกติ ถ้ามีบทความภาษาอังกฤษนี่เค้าจะจ้างใครแปลคะ นักแปลจากข้างนอกหรือกองบรรณาธิการ...อยากลองแปลบทความเหมิอนกัน แล้วถ้ามีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ (พอกล้อมแกล้ม) หรือผ่านการทำงานต่างประเทศมานี่ พอจะมีโอกาสได้กลับไปใช้ในนิตยสารบางประเภทรึเปล่าคะ แบบว่า ถ้าทำงานกองบก.แล้วคิดว่าภาษาอังกฤษอาจจะมีหดบ้าง เพราะไม่ค่อยได้ใช้เลยเสียดาย จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 18:44:43

ความคิดเห็นที่ 11 บรรณาธิการของตัวเองเป็นทั้งบรรณาธิการทั้งนักเขียนค่ะ หมายถึงนิยายนะคะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 20:55:19

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ tomatolatte ตอบดีจัง :) ส่วนตัวคิดว่าอีกอาชีพที่น่าสนใจ (แต่เราไม่เคยทำ) คือนักข่าวค่ะ สำหรับเรื่องภาษาอังกฤษ ที่เราเคยพบมาก็มีทั้งให้กองบก.แปลเองกับจ้างแปล แต่ส่วนใหญ่เค้าก็จะให้กองบก.แปลเองมากกว่า แล้วทักษะภาษาอังกฤษก็สำคัญมากอยู่แล้วสำหรับงานสายนี้ ไม่ต้องกลัวเลยค่ะว่าจะไม่ได้ใช้ จากคุณ : ratta เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 21:41:44

ความคิดเห็นที่ 13 ถามได้ค่ะ ไม่มีปัญหา  คงตอบได้เท่าที่รู้เหมือนกัน เพราะวิธีทำำงานหนังสือทั้งสนพ.และนิตยสารแต่ละแห่งไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ขนาดทำงานหนังสือมานาน บางทีก็ยังต้องบอกว่า "มีแบบนี้ด้วยหรือ" บทความหรือข้อเขียนที่แปลหรือรวบรวมข้อมูลจากภาษาอังกฤษในนิตยสาร มีทั้งที่กองบรรณาธิการแปลกันเองและจ้างนักเขียนข้างนอกแปลให้ การจะให้แปลกันเองหรือจ้างนักเขียนข้างนอกแปล ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ถ้าหนังสือเล่มไหนอยากประหยัดก็ให้กองบก.แปลกันเอง บางเล่มก็ส่งคนแปลที่เคยเป็นกองบรรณาธิการมาก่อนแล้วลาออกไปเป็นนักเขียน เพราะรู้ฝีมือกันอยู่แล้ว คุยกันได้ บังคับได้ เร่งได้ จิกกัดเหน็บแหนมกันได้โดยไม่โกรธกัน นิตยสารบางเล่มที่ส่งให้นักเขียนมีชื่อแปล ก็อาจจะด้วยต้องการให้เป็นจุดขาย และไม่ต้องห่วงเรื่องความถูกต้องมากมาย เพราะไม่มีคนตรวจทานมากนัก ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ต้องใช้ในการทำนิตยสารอยู่แล้ว เพราะต้องมีโอกาสได้สัมภาษณ์ คนต่างชาติ และเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนจะได้ใช้ภาษาอังกฤษแค่ไหนในงาน ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าขยันหรือขี้เกียจ ถ้าอยากใช้ภาษาอังกฤษ ก็ต้องนำเสนอตัวเองว่าตัวเองทำงานนี้ได้ เต็มใจทำ และทำได้ดี   ถ้าอยากเขียนคอลัมน์ ก็ไปคิดคอลัมน์มานำเสนอ แต่อันนี้ก็ต้องดูตาม้าตาเรือด้วยว่านิตยสารที่คุณอยู่เป็นยังไง ถ้าบก.ชอบให้เสนอความเห็น ก็ดีไป แต่ถ้าไปเจอบก.ชอบให้ทำตามคำสั่ง หรือเพื่อนร่วมงานหมั่นไส้ อันนี้ก็ต้องดูว่ากระดูก คุณแข็งแค่ไหน แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 55 22:40:15 จากคุณ : tomatolatte เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 21:52:04

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ คุณ ratta ที่บอกว่าตอบดี ปกติเคยแต่โดนเพื่อน ๆ เหน็บว่า แรงไปไหมแก 555 นักข่าว ไม่เคยเป็น แต่เคยเห็นเพราะบางครั้งก็ต้องไปเพรสทัวร์กลุ่มเดียวกัน เท่าที่เคยเห็น นักข่าวที่อยู่ในภาคสนามจะไม่ได้เขียนข่าวเอง แต่จะส่งเป็นข้อมูลเข้าไป ในหนังสือพิมพ์แล้วมีคนเรียบเรียงอีกที   จะมีเขียนเองบ้างก็รุ่นใหญ่ที่เขียนคอลัมน์วิเคราะห์วิจารณ์ หรือพวกทำรายสัปดาห์ หรือฉบับสุดสัปดาห์ที่ทำสต๊อกได้ แต่ถ้าทำนิตยสาร ต้องคิดหัวข้อเอง สัมภาษณ์เอง ถอดเทปเอง และเรียบเรียงเอง ข้อเขียนในนิตยสารดีกว่าข่าวตรงที่เราสามารถฝึกเขียน ฝึกเขียนภาษาที่สร้างสรรค์กว่าข่าว ข่าวตามหลักมันต้องยึดข้อเท็จจริงเป็นหลัก สวิงสวายมากไม่ได้ แต่สมัยนี้คงไม่เป็นแบบนั้นแล้วมั้ง จากคุณ : tomatolatte เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 22:13:37

ความคิดเห็นที่ 15 เงืนเดือนจะประมาณเท่าไหร่คะ พอบอกใบ้ได้มั้ยเอ่ย จะได้ประเมินถูกว่าจะอยู่ได้รึเปล่า จะพอมีเงินเก็บมั้ย ถ้าหากจะเขียนนิยายไปด้วย เป็นกองบก.ไปด้วย คุณสมบัติคือ - มีผลงานตีพิมพ์หนึ่งเล่ม - ได้รับรางวัลเกี่ยวกับงานเขียนมาบ้าง - ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 22:39:50

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ ^ ครืออออ....แบบว่าอายุสามสิบแล้วค่ะ 555 กลัวว่าถ้าน้อยไป เดี๋ยวจะไม่พอสร้างหลักปักฐานน่ะค่ะ เลยแอบกังวลข้อนี้ด้วย จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 22:44:25

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องเงินเดือน ตอบไม่ได้จริง ๆ เพราะไม่ได้ทำงานประจำมาเป็นสิบปีแล้ว แล้วก็ไม่เคยถามว่าเดี๋ยวนี้ได้เงินเืดือนเท่าไหร่กัน   อีกอย่างนิตยสารและสนพ.แต่ละแห่งเงินเดือนไ่ม่เท่ากัน มันไม่มีมาตรฐานเหมือนงานธนาคาร  แต่ก็ไม่ได้ต่ำกว่าเงินเดือนข้าราชการแน่ ๆ ส่วนว่าจะพอมีเงินเก็บไหม มันขึ้นอยู่กับมาตรฐานการใช้ชีวิตของคุณด้วย เรื่องเงิน ก็ต้องไปสมัครงานแล้วถามก่อนแหละว่าได้เ่ท่าไหร่ คุณรับได้ไหม แต่ละคนมีความจำเป็นในชีวิตไม่เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 00:08:41 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 55 23:08:02 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 55 22:59:22 จากคุณ : tomatolatte เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 22:58:09

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณ tomatolatte  มากๆค่ะที่ให้คำแนะนำแบบละเอียดถี่ยิบ งานนี้ ไม่ลองก็ไม่รู้ว่าจะหมู่รึจะจ่า กระโจนเข้าใส่เลยดีกว่า จะได้รู้ๆกันไป ปล.อยากหลังไมค์ไปหาคุณ tomatolatte จัง อยากรู้อัตชีวประวัติ 5555 แต่กลัวว่าจะละลาบละล้วงเกินไป จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 09:45:52

ความคิดเห็นที่ 19 อย่าเข้าใจผิด เราไม่ใช่นักเขียนดังปลอมตัวมา555 เราก็แค่คนทำงานหนังสือเป็นอาชีพคนหนึ่ง ไม่มีอัตชีวประวัติอะไรหรอก หลังไมค์มาถามได้ แต่อย่างที่บอก ตอบได้เท่าที่รู้ เรื่องที่เราแนะนำ มันเป็นแค่ "ทางหนึ่ง" ในการก้าวสู่การเป็นนักเขียน ที่เราเห็นและพิสูจน์มาด้วยตนเองว่าทำได้จริง "เป้าหมาย" ของหลายคนอาจเหมือนกัน แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ "เส้นทาง" เดียวกัน เพราะ "จริต" แต่ละคนไม่เหมือนกัน ทางที่เราแนะนำอาจฟังดูเหมือนง่ายเพราะเราผ่านมันมาแล้ว แต่ระหว่างทางมันไม่เคยมีอะไรง่ายเลย เสียน้ำตาไปไม่รู้เท่าไหร่ แม้แต่ทุกวันนี้ก็เถอะ ยังมีเรื่องให้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น อย่าเชื่อเรามาก เลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวคุณเอง จากคุณ : tomatolatte เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 10:41:40

ความคิดเห็นที่ 20 หลังไมค์ไปหาคุณ tomatolatte  แล้วนะคะ ^^ คิดว่าตัวเองเป็นที่ชอบอ่านหนังสือ ชอบค้นคว้า รวบๆข้อมูลมาเขียนนู่นเขียนนี่ ถ้าไม่ฟุ้งเฟ้อจนเกินไป และมานะอดทน คิดว่าคงอยู่ได้ 5555 แต่ต้องวางแผนการใช้เงินดีๆ เดี๋ยวหมด จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 12:48:57

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณ คุณ tomatolatte มากๆค่ะ ตอนนี้ไม่กลัวความล้มเหลวแล้ว ถ้าหากไม่ลงมือทำ ก็คงไม่รู้ว่ามันใช่สำหรับเรารึเปล่า ถ้าหากได้กลับไทยเมื่อไหร่ก็จะไปสมัครทำงานเป็นกองบรรณาธิการค่ะ ถ้าไม่ใช่ตัวตนจริงๆ  อย่างมากก็ลาออก  แล้วกลับมาเป็นพนักงานบริษัทเหมือนเดิม 5555 จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 17:47:42

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาอ่านแล้วชอบการตอบของคุณ tomatolatte มากมายค่ะ จากคุณ : kiria chalee เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:23:44

ความคิดเห็นที่ 23 รายได้ของงานเขียนมันมาเป็นก้อนๆ ถ้าไม่รู้จักใช้ ยังไง ก็หมดค่ะ เอาเป็นว่าได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ แล้วมีความสุข   และความสุขนั้นมันหล่อเลี้ยงชีวิตได้ทั้งร่างกายและจิตใจ   ก็มีคุณค่ากว่ารายได้ที่รับเยอะแล้วค่ะ จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:54:59

ความคิดเห็นที่ 24 กรี๊ดดดดดด !! คุณวรรณวรรธน์อีกแล้ว ขอบคุณที่มาตอบนะคะ จะบอกว่า มาทำงานเมืองนอก แต่ไม่ลืมที่จะติด จันทราอุษาคเนย์ กะ อัสวัด มาด้วย 5555 จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:00:19

ความคิดเห็นที่ 25 กรี๊ดดดดดด !! คุณวรรณวรรธน์อีกแล้ว ขอบคุณที่มาตอบนะคะ จะบอกว่า มาทำงานเมืองนอก แต่ไม่ลืมที่จะติด จันทราอุษาคเนย์ กะ อัสวัด มาด้วย ^^ จากคุณ : โสนน้อยเรือนพัง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:00:40