PANTIP.COM : K11939386 โท อาชีวอนามัยและความปลอดภัย มหิดล บูรพา กับ ตรี นิติ(เพื่อสอบผู้ช่วย) เรียนอะไรดีกว่ากัน [การศึกษา]

ความคิดเห็นที่ 9

ถ้าคุณยังไม่มีอาชีพหรือเส้นทางทำมาหากินอื่นๆ รองรับ แต่คิดจะมาเรียนเริ่มใหม่กับนิติศาสตร์และตั้งความหวังไว้ตอนเริ่มจะแก่แล้ว บอกได้เลยว่าจงคิดให้หนัก และศึกษาให้รอบด้านเพราะเส้นทางนี้จะเหนื่อยหนักและแสนยาวไกลมาก

ที่เป็นแบบนี้เพราะเนื้อหาวิชานี้มันเยอะเอามากๆ ชีวิตคุณจะมีแต่อ่านๆๆๆ ท่องๆๆๆ ทวนๆๆๆ และสอบๆๆๆ วนเวียนไปอย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น คนส่วนมากที่เรียนพอผ่าน เบื่อแล้วกับวงจรการเรียนและสอบก็มักเบนเส้นทางไปทำงานอื่นที่ไม่เกี่ยวกับกฎหมาย หรือทำงานด้านกฎหมายในระดับล่างๆ พอยาใส้

พวกที่สู้ต่อทั้งที่มีเป้าหมายและไม่ประมาณตนก็จะมุ่งสู่เส้นทางที่เรียกได้ว่าเป็นความใฝ่ฝันของคนเรียนกฎหมายคือ การสอบเป็นผู้พิพากษาและอัยการ ซึ่งชีวิตจากตรงนี้ก็จะไม่ต่างจากการเรียนซ้ำเหมือนสมัยเรียนป.ตรีอีกครั้ง เพราะต้องสอบให้ได้เป็นเนติบัณฑิตซึ่งเหมือนกับการสอบประมวลความรู้ทั้งหมดในชั้นป.ตรี แต่จะยิ่งยากเข้าไปอีกเพราะเป็นการใช้ข้อสอบกลางที่ทั้งยาว ยาก และเยอะ คนที่เรียนพอจบป.ตรี แบบถูไถ(ซึ่งถือว่าเป็นคนส่วนใหญ่)อย่าหวังว่าจะสอบผ่านได้ง่ายๆ และถ้าสอบผ่านแล้ว(เก็บประสบการณ์ทำงานด้านกฎหมายแล้ว) ก็ต้องพร้อมสอบชี้ชะตาอีกรอบจากข้อสอบคัดเลือกเข้าเป็นผู้พิพากษาหรืออัยการที่ยากยิ่งกว่าการสอบเนติบัณฑิต หากมุ่งหวัง ชีวิตก็จะเข้าสู่วงจรที่วนเวียนอยู่ที่การอ่านๆๆๆ ท่องๆๆๆ ทวนๆๆๆ อีกยกใหญ่ๆ

กระบวนการหลังจบป.ตรี นิติศาสตร์นี้ บางคนสอบแล้วสอบอีกเป็นสิบๆ ปีก็ยังไม่ได้ เขาถึงมีคำพูดกันในวงการคนเรียนกฎหมายว่า "หลงเน(ติบัณฑิต)เสียเวลา หลงผู้พิพากษาเสียอนาคต" คิดว่าคำพูดนี้เป็นจริงทีเดียว เพราะหลายคนเสียเวลาเสียโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัว และพลาดอะไรหลายๆ ในชีวิตไปเลย คนที่เก่งพอที่จะเข้าสู่การเป็นผู้พิพากษาหรืออัยการว่ากันว่ามีแค่ประมาณ 0.5% ซึ่งหมายถึงว่าคนเรียนกฎหมาย 10,000 คน จะมีคนได้เป็นแค่ประมาณ 50 คนเท่านั้นเอง

ร่ายยาวขนาดนี้ไม่ได้จะตัดกำลังใจ จขกท แต่อยากเตือนให้เข้าใจสถานการณ์เท่านั้นเองว่ามันไม่ได้ง่ายหรือโก้อะไรอย่างที่คิดเลย เอาเป็นว่าถ้าคุณคิดว่าตั้งใจจริงให้ลองไปซื้อตำรากฎหมายมาอ่านสักเล่มก่อนก็ได้ เช่น กฏหมายอาญาภาคทั่วไป หรือกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยนิติกรรมสัญญา อะไรแบบนี้มานั่งอ่านดู ถ้าสามารถอ่านได้ติดต่อกันรวดเดียวอย่างน้อยๆ สามชั่วโมงต่อเนื่อกันสักสามสี่วัน อ่านแล้วยิ่งสนุกยิ่งมันยิ่งอยากรู้ ก็เป็นแนวโน้มที่ดีว่าคุณน่าจะมาถูกทางแล้ว แต่ถ้าผิดจากนี้บอกได้เลยว่า เรียนอย่างอื่นดีกว่า
แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 14:41:07

จากคุณ : โจโฉ (joechou)

เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:33:08