ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณมากมากนะคะ จากคุณ : miss geisha เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 09:47:09

ความคิดเห็นที่ 2 จขกท ลองแปลมาก่อนอะค่ะ แล้วเดี๋ยวจะมีคนมาช่วยดูแกรมม่า ขัดเกลาให้อะค่ะ ตัวอักษรมันเยอะมาก ลายตามากเลยค่ะ ไม่มีภาษาอังกฤษเลย ก็ไม่รู้จะขัดเกลายังไงดีอะค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 10:08:01 จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 10:07:28

ความคิดเห็นที่ 3 แปลยากนะ ต้องเห็นภาพน่ะ เพราะไม่รู้ว่าลักษณะตึกเป็นยังไง ลักษณะกุญแจเป็นยังไง แปลไป ก็ได้มั่วๆ แค่แต่ละคนอ่่านดูแล้วจินตนาการมันก็ไม่เหมือนกันแล้วนะ อย่างอ่านหนังสือเล่มเดียวกัน แต่ละคนก็ จินตนาการ พระเอกนางเอง ได้ไม่เหมือนกัน จากคุณ : yinnerella เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:48:30

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้านักแปลเก่งๆเดินไปดูประตูคุณแล้วลองใช้ดู เราว่าเขาเขียนภาษาอังกฤษถูกหมดนะ แต่ถ้าให้แปลจากภาษาไทยของคุณรับรองว่าโอกาสแปลมีผิดบานเบอะ เหตุผล ภาษาไทยมันมีโครงสร้างง่ายๆ เวลาเขียนเรื่องยากๆกลายเป็นเขียนยากถ้าคนเขียนไม่ระวังไม่ให้ข้อความมันตีความได้หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น "-ประตูที่ 1 เป็นประตูใหญ่ซึ่งจะมีกล่องปุ่มกดเปิด...." ^ ปัญหามันก็คือ คำว่า "เปิด" ตีความได้ว่า "เป็นปุ่มเพื่อกดให้ประตูเปิด" หรือ "กล่องมันเปิดอ้าอยู่" จริงๆแล้วยังมีอีกหลายจุดที่ถ้านักแปลไม่เห็นรูปภาพจะแปลผิดหมด! คุณทำธุรกิจ apartment รายได้ตั้งเยอะ ทางที่ดีจ้างนักแปลไปเรียนวิธีใช้ประตูถึงสถานที่เลย แล้วให้เขาเขียนภาษาอังกฤษออกมาสวยๆ แล้วจ่ายค่ารถกับค่าแปลให้เขา จะได้ดูเป็นมืออาชีพมากกว่ามาขอใช้บริการแปลฟรี จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:58:17

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นเอกสารชุดนี้ของ จขกท แล้วคิดถึง "เอกสารจดสิทธิบัตรของไทย" ตรง "ข้อถือสิทธิ" เป็นคำอธิบายกลไกของสิ่งประดิษฐ์ที่นำมาจดสิทธิบัตร คนเขียนเอกสาร 100 ราย เขียนภาษาไทยเขียนได้เหมือนของ จขกท เลย เราเคยอ่านเอกสารภาษาไทยแบบนี้มาเป็น 100 ชุด แล้วต้องพยายามแปลเป็นอังกฤษแบบดำน้ำไปทั้งๆที่รู้ว่า "ต้องแปลผิดบานเบอะ" แต่เราคืนงานให้ลูกค้าไม่ได้ เพราะมันเป็น fight บังคับ คือตอนนั้นเราทำงานรับเงินเดือนเป็นนักแปลอยู่ในบริษัทแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ(บริษัทแปลงานด่วนๆลวกๆคิดค่าแปลราคาถูก) แห่งหนึ่ง ค่าแปลรับมาถูกมากๆ การที่จะโทรไปหาเจ้าของงานแล้วใช้เวลาซักซ้อมกันเพื่อทำความเข้าใจภาษาไทย (ขอให้ลูกค้าแปลไทยเป็นไทยให้) ในแต่ละหน้าจะต้องเสียเวลาพูดโทรศัพท์เป็นชั่วโมง เอกสารมีเป็นร้อยๆหน้า ค่าแปลได้นิดเดียว มันไม่คุ้มกับค่าโทรศัพท์กับค่าเสียเวลา เราจะไปขอร้องให้บริษัทแปลคืนงานให้ลูกค้าเพื่อเห็นแก่ลูกค้าบริษัทแปลก็ไม่ยอมหรอก ส่วนบริษัทแปลจะขอขึ้นค่าแปลแล้วลงทุนส่งนักแปลไปที่โรงงานตั้ง 100 แห่ง หรือโทรศัพท์ถามคน 100 คน ลูกค้าก็ไม่ยอมจ่ายค่าแปลเพิ่มหรอก  เราก็เลยต้องแปลไปตามเนื้อผ้า...555+++... ^ จริงๆแล้วเราก็อยากจะอ่านคำแปลภาษาอังกฤษของนักแปลอื่นที่ต้องแปล "ข้อถือสิทธิ" โดยที่นักแปลไม่ไปที่โรงงานผลิต อยากจะดูนักว่าแต่ละคนจะแปลออกมายังไงกันบ้าง คงมันดีพิลึก...555+++... จะไปว่าคนเขียนภาษาไทยว่า "เขียนไม่ดี" ก็ดูกระไรอยู่ คือจริงๆแล้วโครงสร้างภาษาไทยมันไม่แข็งแรงเท่าภาษาอังกฤษ มันเขียนอธิบายอะไรที่ซับซ้อนไม่ค่อยจะได้ง่ายๆนักหรอก เพราะมีอะไรหลายๆอย่างในโครงสร้างภาษาไทยที่ทำให้คนอ่านตีความได้ตั้งหลายอย่าง เว้นเสียแต่ว่าคนเขียนจะเขียนไปแล้วคิดไปว่า "คนอ่านจะตีความได้กี่อย่าง" สรุปแล้วเราว่าถ้าใคร bilingual ในภาษาไทยกับอังกฤษ คือเก่งเท่าๆกัน 2 ภาษา เขียนอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนเช่นเงื่อนไขของกฎหมาย หรือกลไกการทำงานของระบบที่ไฮเทคมากๆ เขียนเป็นภาษาอังกฤษง่ายกว่าตั้งหลายเท่า! แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 23:17:21 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:14:42