I am going to teach you the WORST ways to learn English at home!
Watch this class to learn exactly what you should not do when trying to learn a language by yourself.
Learn important study skills and techniques that will help you remember what you learn.
Then test your understanding with the quiz at http://www.engvid.com/how-not-to-learn-english-at-home/ studying English at Home
How NOT to Learn English (ตัดคำว่า NOT ทั้งหมดออกนะ เพราะมันเป็นทริค คือในหัวข้อเค้าพูดตรงข้ามกันหมดเลย ลองอ่านดูไปเรื่อยๆละกัน)
สวัสดีครับ เจมส์ครับ
How NOT to Learn English อันนี้เป็นตอนที่ 3 พูดถึงเรื่องพื้นฐานการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองที่บ้านนะครับ
มีด้วยกัน 5 ข้อ 1. Do not study in an area free of distractions 2. When listening ALWAYS watch with subtitles 3. Don't practice the techniques you have discovered 4. Don't find out the best way for you to learn 5. Don't make a specific time for studying
1. Do not study in an area free of distractions
นักเรียนมาด้วยไอโฟน ไอแพด หรือวิดีโอเกมส์(เล็กๆ) (หรือเล่นเกม)ซึ่งมันรบกวนน่ะครับ ถ้าเป็นในคลาสเรียน แต่ถ้าที่บ้านมันง่ายกว่ามาก เพราะเป็นที่บ้านคุณ
ไม่ใช่มือนึงถือ เครื่องดื่ม อีกมือถือมันฝรั่งทอด วิทยุหรือทีวีเปิดอยู่ข้างหลัง เด็กเล่นกันอยู่ข้างนอก คุณก็หันไปดู คุณไม่ได้โฟกัสเลยครับ คุณต้องโฟกัสและทุ่มเท 100 เปอเซนต์ในเรื่องที่คุณกำลังทำสิครับ
สมาธิ ความตั้งอกตั้งใจทำให้เกิดความจำนะครับ ถ้าคุณไม่มีสมาธิ คุณก็จะลืม
ถ้าคุณจำอะไรไม่ได้คุณจะโทษ(โน่นโทษนี่ โทษไปเรื่อย โทษสื่อ วัสดุ เช่นหนังสือ โทษโรงเรียน) แทนที่จะเป็น(คุณ)การขาดการโฟกัสนะครับ
คุณควรจะหาที่ที่ขาดการรบกวน(และสิ่งรบกวน) อาจเป็นมุมเล็กๆ ที่วางแลปทอปได้ ที่ไม่มีโทรทัศน์หรือวิทยุรบกวนคุณ ที่ที่สบายๆที่คุณสามารถนั่งลงได้ ที่ที่คุณรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และไม่มีอะไรรบกวน คุณก็จะโฟกัส คุณโฟกัส คุณก็จะเรียนได้มากขึ้น นั่นคือ คุณเรียนได้ไวขึ้น นั่นคือมันก็ง่ายขึ้น คือหาสถานที่ที่มันไม่มีอะไรรบกวนคุณน่ะครับ ถ้าดูฟุตบอลไปด้วยตอนเรียนภาษาอังกฤษ ก็... โชคดีนะครับ
2. When listening ALWAYS watch with subtitles
ต่อมาข้อ 2. When listening ALWAYS watch with subtitles เวลาฟังห้ามดูซับไตเติ้ลไปด้วยเสมอ ผมสอนคลาสการฟัง listening และไม่มีซับไตเติ้ล บางทีตัวละครในหนังพูดเร็วมาก หรือพูดศัพท์ยาก นักรียนก็จะสับสนมาก ผมบอกว่าให้พยายามฟังและเรียนรู้การโฟกัส ดังนี้ 1. เพียงดูหนังหรืออะไรก็ได้ โดยไม่มีซับไตเติ้ล เพียง 2 - 3 นาที 2. แล้วผมแนะนำให้คุณเขียนลงว่าคุณได้ยินว่าอะไร 3. แล้วกลับไปกดปุ่มเพลย์อีกครั้ง แล้วฟังอีกรอบนึง 4. เชคว่าคุณได้อะไรมา คุณได้มา 4 คำ จาก 10 คำ เป็น 40 เปอร์เซนต์จากทั้งหมด คุณได้ 6 คำ จาก 10 คำ คุณได้ 60 เปอเซนต์ มันเป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมเพื่อเช็คตรวจสอบ 5. รวมทั้ง เพราะ บนกระดาษ มันโกหกไม่ได้ ดังนั้นคุณก็จะโฟกัสมากขึ้น และพยายามให้มันถูกต้องมากขึ้น
นี่คือการเรียนแบบมีพัฒนาการ ใช่มั๊ยครับ? นั่นมันดีต่อคุณนะครับ คุณสามารถทำได้เองที่บ้านครับ
3. Don't practice the techniques you have discovered
ข้อสามครับ (ให้ฝึกฝนเทคนิคที่คุณได้ค้นพบ)
ถ้าคุณดูวิดีโอการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ครูเค้าได้สอนเทคนิคคุณ ทำไมคุณไม่ฝึกล่ะครับ เหมือนตอนคุณเด็กๆ แล้วคุณหัดเดิน คุณแม่เค้าหย่อนคุณลงพื้นให้คุณหัดเดินเอง อย่างนั้นเลยน่ะครับ คุณอาจจะล้มซัก 2 - 3 ครั้งก่อน แล้วคุณก็เดินเป็น ต่อไปคุณก็วิ่งได้
ถ้าคุณเรียนเทคนิคอะไรมา ฝึกฝนครับ
ผมบอกนักเรียนที่เรียนเรื่องคำศัพท์เสมอครับว่า ถ้าคุณเรียนศัพท์อะไรมา ให้ลองใช้ศัพท์คำนั้น 3 ครั้ง ในวันเดียวกัน และเขียนประโยคลงครับ ดูครับ ผมเพิ่งให้เทคนิคคุณไป ทำเลยครับ เขียนมันลง 3 ครั้ง วันต่อมาให้เขียนเป็นประโยค จากนั้น อะไรครับ คุณจะจำศัพท์ได้แม่นเลยครับ
ผมขอสลับข้อ 5 มาเป็นข้อ 4 นะครับ
5.(หรือข้อ 4.) Don't make a specific time for studying
มนุษย์เราถูกสร้างมาให้ทำอะไรจนติดเป็นนิสัย นั่นหมายถึงเราทำจนเป็นประจำกระทั่งเราชินกับมัน และการทำเป็นประจำนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในการเรียนภาษาอังกฤษนี้ เป็นข้อดีครับ
เช่น ถ้าคุณเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองตอนสามโมงเย็นเป็นประจำ
1. และคุณบอกใครๆเช่นนั้น เค้าจะสนับสนุนคุณโดย ช่วยคุณเตือนความจำ "คุณครับ สามโมงแล้วนะครับ" เค้าก็จะสนับสนุนคุณครับ 2. ส่วนทางด้านจิตใจ - เวลาสามโมงเย็น สมองคุณจะเตือนความจำคุณครับ คุณมีอะไรต้องทำซักอย่างนะ คุณมีอะไรต้องทำซักอย่างนะ ทำให้มันเรียนภาษาอังกฤษง่ายขึ้นน่ะครับ
พอมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณจริงๆ มันก็จะเติบโตขึ้นข้างใน(ความคิดและการกระทำของ)คุณ
ผม รู้ว่าเวลาที่คุณอยู่บ้าน ว่างจากงานประจำ บางคนอาจจะชอบไวน์ซักแก้ว บางคนอาจจะชอบนั่งลง ถอดรองเท้าออก และทำ(ตัวเองให้รู้สึก)ผ่อนคลาย ให้มีความสุข และตอนนี้ การเรียนภาษาอังกฤษก็สามารถเป็นความสุข ความเพลิดเพลินพอใจอย่างหนึ่งเช่นกัน
ตอน นี้ชั้นเสร็จงานแล้ว ชั้นล้างจานเสร็จแล้ว ตอนนี้ ชั้นได้รับเวลา 20 นาทีรับชมวิดีโอภาษาอังกฤษ ชั้นจะเรียนรู้สิ่งใหม่ นั่นมันดีมากเลยนะ
ชั้น จะให้เวลาเฉพาะเจาะจงแก่ตัวเอง บอกคนอื่นว่า อย่ารบกวนผม ผมให้เวลาตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่ สามโมงเย็น หลังจากสามโมงครึ่งค่อยโทรหาผม แต่ระหว่างนั้นผมไม่ว่างครับ
มันดูว่าคุณมีพลังใช่มั๊ย รู้สึกดีเนอะ ใช่ ผมเรียนภาษาอังกฤษครับ ผมเรียนทุกวันตอนสามโมงครับ เป็นตารางเวลาและทุกๆคนจะเคารพเวลานั้นเพราะการกระทำของคุณเช่นนั้นครับ
ซึ่งมันทำให้คุณเรียนได้ไวขึ้นและทำให้คุณมั่นใจมากขึ้นด้วยครับ
4. (หรือข้อ 5.) Don't find out the best way for you to learn
ทั้งหมดนี้มันดีมาก แต่คุณอยู่บ้าน ที่โรงเรียน คุณครูจะช่วยให้คุณเรียนออกมาได้ดีที่สุด แต่สำหรับคุณ คุณต้องรับผิดชอบตัวเองตอนคุณอยู่ที่บ้าน คุณต้องหาวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณ
- บางคนเรียนได้ดีที่สุดจากการดู - บางคนเรียนได้ดีที่สุดจากการฟัง - บางคนเรียนได้ดีที่สุดจากการใช้ร่างกาย
การเรียนภาษามันไม่ใช่อะไรที่ยากซับซ้อน มันเป็นแค่ "เสียง" เสียงที่มีความหมาย แต่สิ่งที่คุณต้องทำจริงๆ คือ เข้าใจความหมายของเสียง ว่ามีความหมายอะไรในการสื่อสารกับคนอื่นๆ
เมื่อผมโบกมือ คุณรู้ว่าผมทำสิ่งนี้ ว่าหมายถึง ลาก่อน หรือ เฮลโหล ขึ้นอยู่กับปริบท เช่นกันกับเมื่อคุณเรียนภาษาใช่มั๊ยครับ
และสำหรับคุณเพื่อที่จะเข้าใจคุณต้องค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเพื่อให้เข้าใจ
จะตอนเช้าตรู่ หรือตอนดึกดื่น กับเพื่อน หรือตัวคุณเอง ที่เงียบๆที่เฉพาะ(แบบข้อ 1.) น่ะหรอ ไม่อะ หาไปเรื่อยๆ อิสระน่ะ ดังนั้นกฏทั้งหมดเหล่านี้ที่ผมบอกคุณ มันคลาสสิคสำหรับการเรียนที่บ้าน
ข้อ แรกที่อยากให้คิดคือ(ข้อ 5.) หาวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณเพื่อการเรียนรู้ เมื่อคุณเรียนรู้ข้อนี้ร่วมกับข้อ 4. สร้างเวลาที่ชัดเจน ผสานกับข้อ 1 - 2 - 3 เข้าด้วยกัน การเรียนของคุณจะติดจรวด ไปได้ไกลและเร็วครับ
ผม หวังว่าคุณจะสนุกสนานกับบทเรียนเรื่องวิธีการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่ บ้าน บทนี้นะครับ ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอแและทำแบบฝึกหัดมากๆนะครับ ขอให้มีวันที่ดี แล้วพบกันเร็วๆนี้ครับ
http://www.engvid.com/how-not-to-learn-english-at-home/
ที่มา http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K11881108/K11881108.html ดูย้อยหลังคลิกที่อมยิ้มจ้า
จากคุณ |
:
lovelypriest
|
เขียนเมื่อ |
:
18 เม.ย. 55 04:32:33
|
|
|
|