 |
เรื่องตลกเกี่ยวกับครูที่สอนในระบบการศึกษาแบบไทยๆ
หลายๆคนพูดว่า "ต้องเรียนศึกษาศาสตร์หรือครุศาสตร์มาถึงเป็นครูได้" หรือ "ต้องสอบผ่าน 9 มาตรฐานวิชาครูมาถึงเป็นครูได้"
แต่อนิจจา ไม่มีใครเคยคิดแก้ปัญหาเรื่องที่ "ครูไม่มีความรู้ในวิชาที่ตัวเองสอน" ยกตัวอย่างเช่นครูสอนภาษาอังกฤษฟังอังกฤษก็ยังไม่รู้เรื่อง พูดก็พูดไม่ได้ อ่านภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แล้วจะสอนเขียนนี่ยิ่งหมดหวังเลย แต่ครูก็ดันให้การบ้านยากๆให้นักเรียนมาทำอะนะ ประหลาดดีแท้ๆ
ศาสตร์แห่งการสอนภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น teaching English as a second language หรือ teaching English to speakers of other languages เป็นเอกเทศในตัวของมันเอง ความเชี่ยวชาญในด้านนี้ไม่ได้เกิดจากการเรียนในคณะศึกษาศาสตร์หรือครุศาสตร์ แล้วก็ไม่ได้เกิดจากการสอบ 9 มาตรฐานวิชาครูเพื่อรับใบอนุญาตครู แต่มันเกิดจากการศึกษาค้นคว้า และใช้สมองพลิกแพลงคิดค้นอะไรใหม่ๆด้วย creative imaginations กับ precise logic ต่างหาก
ในชีวิตเรา เราเจอฝรั่งที่เก่งด้านการสอนภาษาอังกฤษระดับ born teachers ตั้งมากมายหลายคน ราวกับว่าสวรรค์ประทานพรสวรรค์มาแต่กำเนิด พวกเขาไม่เคยเรียนศึกษาศาสตร์หรือครุศาสตร์และไม่เคยสอบ 9 มาตรฐานวิชาครูเพื่อรับใบอนุญาตครู แถมยังไม่มีปริญญาอีกต่างหาก แล้วพวกเขารู้วิธีสอนภาษาอังกฤษได้ยังไงกัน? ถ้าจะบอกว่าไปหา textbooks ด้าน teaching English as a second language หรือ teaching English to speakers of other languages มาศึกษา (ซึ่งจริงๆแล้วเราก็เคยทำแบบนั้น) มันก็ดูๆจะเว่อร์ไปหน่อย แต่จริงๆแล้วสิ่งที่ practical มากที่สุดที่พวกเขาทำกัน นั่นก็คือ
"survey ตลาดสื่อการสอนภาษาอังกฤษ"
^ สมัยก่อน survey ในร้านหนังสือ สมัยนี้ survey ด้วย google เมื่อคุณได้สื่อดีๆมาหลายๆ sets ใหญ่ๆ ซึ่งมีทั้ง audios, videos, textbooks, student's books, activity workbooks), teacher's manuals บล๊าบๆๆๆ...แล้วคุณทำอะไรล่ะ?
คำตอบง่ายๆแบบกำปั้นทุบดินก็คือ ศึกษา teacher's manuals ให้ดีๆก่อนเป็นลำดับความสำคัญต้นๆ
การเก็บสะสมสื่อการสอนภาษาอังกฤษดีๆ (ควรใช้สื่อจากต่างประเทศให้หมด) เอาไว้หลายๆชุด และการศึกษา teacher's manuals มากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ได้แนวคิดดีๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเอาแนวคิดเหล่านั้นมาผสานกับ creative imaginations กับ precise logic ของครู (ซึ่งตัวครูต้องหัดพัฒนาด้วยตนเองโดยการ exercise สมองวันละหลายๆรอบ) ครูจะไปได้ไกลมากๆ เพราะสมองจะคิดพลิกแพลงไปได้เองว่าจะเอาสื่อพวกนั้นไป "เล่นแร่แปรธาตุ (ตัดต่อ)" เพื่อนำไปใช้สอนนักเรียนในระดับที่แตกต่างกันเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันให้มีประสิทธิภาพ ได้อย่างไร
เราเชื่อว่าสิ่งที่เราเขียนในกระทู้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง (เรื่องการ survey ตลาดสื่อการสอนภาษาอังกฤษ) ใน คคห นี้ น่าจะช่วย จขกท ได้ ในเรื่องการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการสอนภาษาอังกฤษ
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 13:00:04
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
20 เม.ย. 55 12:53:45
|
|
|
|
 |