And make sure to take the quiz: http://www.engvid.com/basic-english-grammar-to-be/
Basic English Grammar - TO BE verb สวัสดีค่ะ ดิชั้นชื่อรอนนี่ และคุณครูจะสอนคุณเกี่ยวกับคำกริยาพื้นฐานที่สำคัญมากๆในภาษาอังกฤษ นี่จะเป็นคำกริยาที่ดีมากๆในภาษาอังกฤษ หรือถ้าคุณได้เรียนภาษาอังกฤษมาก่อนและเราก็จะมารีวิวบทเรียนภาษาอังกฤษ(บท เรียนนี้)กันค่ะ
คุณครูทราบนะคะ คุณอาจคิดว่าบางที คุณครูประหลาดใจมาก ว่าจำนวน คนที่พูดภาษาอังกฤษแบบแอดวานซ์ก็ยังใช้(รูปคำกริยา TO BE) นี้ผิด ดังนั้นคุณครูจะช่วยให้คุณได้เรียนรู้ หรือ(ช่วยให้คุณได้)รีวิวบทเรียนนี้กันนะคะ
สิ่งที่คุณครูกำลังจะทำ คือ คุณครูจะมาสอนคุณ เรื่อง ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ และ รูป(ประโยค)คำถาม(ของรูปคำกริยา TO BE) นะคะ
1. ประโยคบอกเล่า
เราจะมาดูที่ประโยคบอกเล่ากันก่อนค่ะ
- I am หรือเราสามารถเขียนหรือพูดว่า I'm มันเหมือนกันนะคะ
- He ผู้ชาย หรือเด็กผู้ชาย, She เด็กผู้หญิง หรือ ผู้หญิง, และ It (สัตว์ หรือ สิ่งของ) เราใช้ is
- It เป็นคำนามเอกพจน์ ดังนั้น มีอันเดียว คือ(สัตว์ หรือ สิ่งของ)อะไรที่ไม่ใช่คน สำหรับตัวอย่าง (ก็คือ) ปากกาของคุณครูค่ะ My marker. เราสามารถใช้ It It is red. มันเป็น(ปากกา)สีแดง
โอเคนะคะ
- เมื่อเราพูด He is, She is หรือ It is เราสามารถย่อ ได้ว่า (ออกเสียงตามคุณครูนะคะ) He's, She's, It's อีกครั้งนะคะ นี่คือรูปย่อค่ะ
- เมื่อเราใช้ You, We, They เราใช้ are,
You ก็คือเธอนะคะ,
We คือรวมทั้ง"ตัวเรา"และคนอื่นด้วย We เป็นพหูพจน์เสมอนะคะ,
They ก็เป็นพหูพจน์เช่นกันนะคะ สำหรับคน (จริงๆใช้กับกลุ่มของสัตว์ สิ่งของด้วยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มคนอย่างเดียว แต่ยังไงก็เป็นพหูพจน์เสมอ)นั่นหมายถึงมากกว่า 1 คน ที่"ไม่นับรวมตัวเราเข้าไปด้วย"
ครูสามารถพูดว่า They like pizza.
- อีกความหมายหนึ่งของ They คุณครูเพิ่งบอกนักเรียนไปว่า It เป็นนามเอกพจน์นะคะ เราใช้ They ด้วยสำหรับนามพหูพจน์(ของ สัตว์หรือสิ่งของค่ะ) ดังนั้นถ้าคำนามที่เป็นพหูพจน์(ปกติแล้ว)มักจะลงท้ายด้วยsนะคะ
เช่น คุณครูบอกว่า
It is red. สำหรับมาร์คเกอร์(ปากกาเขียนกระดาน) 1 แท่ง
วิเศษมาก! ตอนนี้คุณครูมี ปากกามาร์คเกอร์ 2 แท่ง คุณครูต้องพูดว่า
They are black and red.
- ดังนั้น
1 แท่ง เราใช้ It
2 แท่งหรือมากกว่า เราใช้ They
- เราก็ทำให้คำเหล่านี้สั้นเข้าได้ เราพูดว่า(ออกเสียงตามค่ะ) You're, We're, และ They're
2. ประโยคปฏิเสธ
เราจะไปดู(กันต่อ)ที่รูปปฏิเสธค่ะ
เราจะเติม คำที่ทำให้เป็นรูปปฏิเสธ ซึ่งเราจะเติมคำนี้หลังประธานทุกคำ เหมือนกัน (ทำแบบเดียวกัน)
เพื่อทำให้เป็นรูปปฏิเสธ เราเติมคำว่า NOT ค่ะ
1. I am not = I'm not
ดัง นั้นสำหรับคำนี้ เราจะเขียนว่า I'm not หรือคุณสามารถพูดว่า I am not ก็ไม่เป็นไร ปกติแล้ว เมื่อเราพูดภาษาอังกฤษ เราจะพูดว่า I'm not
2. He, She, It: is not = isn't
สำหรับ He, She, It เราจะทำอย่างนั้น คุณครูก็จะเขียนว่า He is not. หรือคุณสามารถพูดว่า She isn't.
is not = isn't ทั้ง is not = และ isn't มีความหมายเหมือนกันเลยค่ะ
It isn't. = It is not.
3. You, We, They: are not = aren't
และกลุ่มสุดท้ายกลุ่มที่สาม (You, We, They)
- You are not หรือเราสามารถพูดว่า
- We are not = We aren't หรือคุณครูสามารถพูดว่า
- They are not (หรือ) = They aren't
มันยากสำหรับนักเรียนนะคะที่จะพูด aren't หรือ isn't (ลองพูดซิคะ .......................................)
อย่ากังวลค่ะ ถ้าคุณอยากพยายามเริ่ม ให้เริ่มจากรูปเต็มก่อนค่ะ (ฝึกตามครู.............................................)
แล้ว เมื่อคุณรู้สึกมั่นใจ คุณสามารถเปลี่ยนเป็น(ฝึกแบบ)รูปย่อนะคะ (คุณครูมั่นใจว่านักเรียนทำได้ค่ะ) มันจะง่ายขึ้นถ้าฝึกฝนบ่อยๆตลอดเวลานะคะ
สิ่งสุดท้ายที่เราจะเรียนกันคือรูปคำถามของคำกริยา TO BE นะคะ
- ข้อแรกคือ เราใช้ไม่บ่อยในการพูดนะคะ แต่เราจะใช้ในการพูดกับตัวเอง ถูกแล้วค่ะ หรือเหมือนเสียงที่อยู่ข้างในของคุณน่ะค่ะ
หลายๆคนถามคุณครูว่า "ครูรอนนี่ เราจะคิดเป็น 2 ภาษาได้ยังไงคะ"
วิธีแรกวิธีหนึ่งคือ เมื่อคุณเริ่มคิดเป็นภาษาอังกฤษน่ะค่ะ ดังนั้นคุณใช้เสียงจากข้างใน(หัว)ของคุณเวลาคุณคิด ภาษาจะเปลี่ยนไปเป็นภาษาอังกฤษ ตอนที่คุณคิด ดังนั้นเสียงข้างในของคุณ(ถ้าคิดเป็นภาษาอังกฤษ) ภาษา(ที่พูดออกมา)ก็จะเปลี่ยน(ตาม) อยู่ที่วิธีที่คุณคิด นี่คือแนวทางที่ดี
ถ้า คุณกลายมา(คิดเป็น) 2 ภาษาอย่างช้าๆ มันใช้เวลาค่ะ เพราะฉะนั้นโปรดอย่า "โอ้ มายก๊อด ทำไม่ได้ " อย่ากังวลไปค่ะ มันใช้เวลาซักหน่อย
ดังนั้นเมื่อคุณคิดได้เช่นนี้ คุณเริ่มคิดกับตัวเอง
3. ประโยคคำถาม
1. Am I?
- Am I speaking English well? Yes, you are.
เมื่อเราใช้ประโยคคำถามมันง่ายมากเลยนะคะ เราสวิชท์(สลับตำแหน่ง)คำกริยา กับ ประธาน เสมอค่ะ
ลองดูข้อนี้ค่ะ
2. He is not. She isn't. It isn't
(เปลี่ยนให้เป็นประโยคคำถาม ตอบ .....................................)
(ฟอร์ม) = คำกริยา + (และ) ประธาน + ?
= (จาก) He is เปลี่ยนเป็น ==> Is he? / Isn't he?
= (จาก) She is เปลี่ยนเป็น ==> Is she? / Isn't she?
= (จาก) It is เปลี่ยนเป็น ==> Is it? / Isn't it?
ไม่ค่อยบ่อยนะคะ ที่เราจะเริ่มประโยคคำถาม(ด้วยรูปปฏิเสธ) ว่า Isn't it? เราใช้อย่างนั้นเป็นบางครั้ง แต่ตามปกติเราไม่ค่อยใช้ค่ะ
สิ่งที่คุณครูอยากให้คุณสนใจคือ รูป (คำถามปกติดังตัวอย่าง) นะคะ
3. You are not, We aren't, They are not
คุณทราบคำตอบมั๊ยคะ
(ลองตอบดูค่ะ เปลี่ยนเป็นประโยคคำถาม ตอบ ..................................................... )
= (จาก) You are not เปลี่ยนเป็น ==> Are you? / Aren't you?
= (จาก) We aren't เปลี่ยนเป็น ==> Are we? / Aren't we?
= (จาก) They are not เปลี่ยนเป็น ==> Are they? /Aren't they?
ใส่เครื่องหมายนี้เสมอ " ? "
สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆเช่นกัน เมื่อคุณถามคำถาม คุณต้องใส่เครื่องหมายสวยๆนี้เสมอ " ? " เราเรียกว่า "เครื่องหมายคำถาม"นะคะ
ถ้าคุณไม่ใส่เครื่องหมายคำถามนะคะ "มันผิด"ค่ะ จำไว้เสมอนะคะว่า "ต้องใส่เครื่องหมายคำถามท้ายประโยคคำถามทุกครั้ง"ค่ะ
โทนน้ำเสียงของคุณนั้น ต้องขึ้นเสียงสูง (ท้ายประโยค)
(และ)เมื่อคุณพูด วิธีที่ทำให้ผู้ฟังทราบว่าคุณกำลังถามคำถาม คือ โทนน้ำเสียงของคุณนั้น ขึ้นเสียงสูง (ท้ายประโยค)
สำหรับตัวอย่างนะคะ (ฟังในเทปเลยค่ะ)
คุณครูพูดว่า Is she Okay?
เสียงคุณครูจะขึ้นเสียงสูงตอนท้ายประโยค ผู้ฟังก็จะทราบว่าคุณครูถามคำถามนะคะ
คุณครูหวังว่า คุณนักเรียนจะเข้าใจทั้งหมดนี่นะคะ I "am" leaving. คุณครูไปแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ
แบบฝึกหัดท้ายบทค่ะ ในลิงค์จะอยู่ใต้รูปวิดีโอค่ะ
http://www.engvid.com/basic-english-grammar-to-be/