ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่ามีส่วนครับ โดยเฉพาะอาจารย์บางท่านถึงกับเอาแบบฝึกหัดที่ตนเองไปสอนในที่กวดวิชามาเป็นข้อสอบในห้องเลยครับ จากคุณ : Chivatsu เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:21:38

ความคิดเห็นที่ 2 ที่สอนไม่ได้ออกสอบ ที่ออกสอบไม่ได้สอน แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 13:51:56 จากคุณ : TommyStyle เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 13:51:16

ความคิดเห็นที่ 3 แถมครูที่สอนในระบบต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ทำเอกสารส่ง  โอ้แม่เจ้า  แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาเตรียมการสอน จากคุณ : ป้าป้าป้า เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 14:23:03

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าไปโทษที่ระบบเลย ผมว่าโทษที่ตัวเด็กเถอะ เพราะทางเลือกเดียวของเด็กไทยส่วนใหญ่เมื่อเรียนไม่รู้เรื่องคือเรียนพิเศษ เดี่ยวนี้หนังสือคู่มือนักเรียนเปลี่ยนใหม่กลายเป็นหนังสือคู่มือติวเตอร์จะดีกว่า มีคนสอนมันสบายกว่าอ่านเอง หรือว่าไม่จริง จากคุณ : เซียนแห่งmath เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 14:29:52

ความคิดเห็นที่ 5 จะโทษเด็กได้ไงครับ ระบบมันเป็นแบบไหน เด็กมันก็โตมาแบบนั้นไม่ใช่หรอ หรือเด็กคิดเองได้? พ่อ แม่? จากคุณ : ลำบากชีวิต เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 14:53:48

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าเด็กไม่เรียนพิเศษ  เด็กตอบข้อสอบไม่ได้ เพราะที่ออกข้อสอบมา ไม่มีในหนังสือที่สอน เวลาเขียนบทเรียนสอนในห้อง ก็สอนให้เด็กตอบแบบนั้นแบบนี้ ถึงเวลาออกข้อสอบ ไปเอาข้อสอบโรงเรียนอื่น  หรือใน รร.กวดวิชามาออก เด็กสอบไม่ได้ ตอบไม่ถูก ตัวเลือกที่เอามาให้เด็กเลือกกำกวม    พอเด็กตอบผิด ...ก็สอบตก พ่อแม่ที่ไหน อยากให้ลูกตัวเองสอบตกบ้าง  ก็ต้องบังคับให้ลูกตัวเองไปเรียนพิเศษกัน โทษเด็กว่าอยากได้คะแนนดีๆหรือ โดยไม่คิดว่าการสอบทำคะแนนดีๆมีความหมาย     แล้ว อีโอเนต เอเน็ต เอ็นที ที่ออกมาบอกว่าเด็กสอบคะแนนไม่ดี สำนักวัดมาตรฐานฯลฯ จะสร้างระบบให้เอาคะแนนพวกนี้ไปผนวกกับการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนต่อทำไม... มีระบบการศึกษาทางเลือกให้มากกว่านี้ มากกว่าระบบ สายสามัญ และปริญญา   สนับสนุนสายอาชีพ ให้มากกว่านี้ได้ ให้เด้กมีทางเลือก มากกว่า มุ่งเข้ามหาลัย แล้วออกมาตกงาน  หรือเอาแต่เรียนต่อสูงๆ  แต่ท้ายสุดก็ยังหาอาชีพให้่ตัวเองไม่เจอ ดีกว่า จะนั่งสรรสร้างระบบการสอบอันพิสดารสุดล้ำลึกอย่างทุกวันนี้ เพราะมันก็มุ่งส่งเสริม รร.กวดวิชาทั้งนั้น จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 15:27:58

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่เลยค่ะ ระบบตอนนี้บีบให้เด็กเรียนพิเศษ มากขึ้น และมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยส่วนตัวคิดว่าตอนสมัยตัวเองเรียนพิเศษก็เยอะแล้ว พอมาเจอเด็กเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องมองไปไหนไกลหรอกค่ะ แค่น้องตัวเองยังเรียนทุกวัน เป็นบ้าเป็นหลัง เหมือนเก่งได้จากการเรียนพิเศษ ไม่ได้เก่งจากเรียนในห้อง ถ้าเด็กคนไหน โชคดี รู้ว่าตัวเองอยากเรียนคณะอะไรก็อาจจะเรียนพิเศษน้อยหน่อย มุ่งไปติวแค่วิชาที่จำเป็นจริง ๆ แต่เด็กส่วนใหญ่ ไม่รู้! ดังนั้นก็เรียนหมด เรียนกันเอาไว้ ยิ่งสายวิทย์ยิ่งปวดหัว คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เรียนมันให้หมด ทั้ง ๆ ที่สุดท้ายแล้วจะได้ใช้กันสักเท่าไหร่!!? ใครไม่เรียนพิเศษก็ไม่รู้เรื่อง ทำข้อสอบไม่ได้ .. มาตราฐานแต่ละโรงเรียนไม่เหมือนกัน แต่ที่เรียนพิเศษมาตราฐานใกล้เคียงกันเลยค่ะ (คือเรียนแล้วมีความรู้เอาไปสอบข้อสอบส่วนกลางได้) บางโรงเรียนสอนยาก บางโรงเรียนสอนง่าย เนื้อหาโดยรวมเหมือนกัน แต่พอแยกปลีกย่อยจะต่างกัน ทำให้เด็กต้องขวนขวายไปเรียนพิเศษ เพื่อที่จะได้ทำข้อสอบส่วนกลางได้ (หรือแม้แต่ข้อสอบในโรงเรียนก็ตาม เวลาสอนง่าย ไม่พลิกแพลง แต่ข้อสอบออกมาพลิกอย่างแรง) ไหนบอกว่าจะไม่สนับสนุนการเรียนกวดวิชา แต่ดูจากระบบแล้วนับวันยิ่งสนับสนุนมากขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ เหนื่อยจริง ๆ ค่ะ ยิ่งอนาคตเด็กจะยิ่งเหนื่อย การแข่งขันยิ่งสูง เรียนพิเศษกันมากขึ้นเรื่อย ๆ น่าเห็นใจจริง ๆ จากคุณ : MIMHUMIMIN เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 16:11:37

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องครูแต่ละคนสอนวิชาเดียวกัน แต่เด็กเก่งไม่เท่ากันนี่หละ น่าสนใจมากๆ เพราะจริงๆแล้วมันมีตัวแปรเยอะที่ใช้เป็นตัวตัดสิน ยกตัวอย่างเช่นสอนภาษาอังกฤษ ถ้าครูจบศึกษาศาสตร์หรือสอบผ่าน 9 มาตรฐานวิชาครู แต่ยังฟัง พูด อ่าน เขียนอังกฤษไม่คล่อง มาสอนแข่งกับครูที่เคยทำงานด้านภาษาอังกฤษมาตลอดชีวิต (และเป็นนักค้นคว้าเรื่อง English studies) จนชำนาญ ฟัง พูด อ่าน เขียนอังกฤษใกล้เคียงฝรั่งเจ้าของภาษานี่ ไม่ต้องพูดถึงหรอก ....สอนได้ผล เร็วช้า ต่างกันมากๆ เลยยกตัวอย่างเช่นสอน reading comprehension ระดับยากๆ ครูที่ไม่เก่งมัวแต่ไปเปิดหาศัพท์อยู่เพราะอ่านภาษาอังกฤษช้า แต่ครูเก่งๆสอนทะลุโลกไปถึงไหนแล้ว ยิ่งถ้าครูไฮเทคเก่ง computer software ยังสอนนักเรียนเอา computer software มาช่วยเรียนรู้และจดจำสิ่งที่เรียนมาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย และถ้าครูพูดอังกฤษได้เป็นธรรมชาติมากๆ การสอน grammar ไปพร้อมๆกับสอน conversation ไปเลย จะทำได้ง่ายๆ เพราะครูจะกล้าพูดอังกฤษกับเด็ก และกระตุ้นให้นักเรียนโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษแบบ interactively ซึ่งเป็นสอน grammar ที่รวดเร็วกว่าการให้ทำแบบฝึกหัด grammar ในตำราเรียนตั้งหลายเท่า ยิ่งสอน listening comprehension ด้วย ครูที่พูดอังกฤษชัดๆ และรู้วิชา phonetics จะสอนให้นักเรียนฟังฝรั่งพูดรู้เรื่องเร็วกว่าครูที่จบศึกษาศาสตร์หรือสอบผ่าน 9 มาตรฐานวิชาครูแต่ฟังภาษาอังกฤษยังไม่กระดิกหูเลย งานนี้แพ้ชนะกันแบบขาดลอยเลยหละ! ^ ถึงเราไม่ได้เรียนจบศึกษาศาสตร์มาและไม่มีใบอนุญาตครู แต่เราทำงานค้นคว้าเรื่องการสอนภาษาอังกฤษมาหลายปี จนเรากระโดดก้าวไปไกลถึง computer assisted language learning คือใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทุ่นแรงในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษไปเรียบร้อย สบายใจเฉิบ แล้วหละ ถ้าครูสอนภาษาอังกฤษที่รอบจัดมากๆ ไปเปิดโรงเรียนกวดวิชา และใช้เทคโนโลยีระดับสูงๆมาช่วยอีกด้วย  รับรองว่านักเรียนคนไหนเรียนแต่กับครูในระบบ ก็เสียเปรียบบานเบอะเลยหละ! ^ นี่เป็นข้อคิดว่า ระบบการศึกษาไทย 1 คัดเลือกครูผิดวิธี คือจริงๆแล้วควรมีวิธีทดสอบว่าครูเก่งวิชาที่สอนจริงก่อนรับเข้าทำงาน แทนที่จะงมงายหลงเชื่อว่า "ถ้าจบศึกษาศาสตร์หรือครุศาสตร์หรือสอบผ่าน 9 มาตรฐานวิชาครูมีใบอนุญาตครูก็จะต้องสอนได้เสมอไป แล้วก็พลอยมีอคติไปด้วยว่าคนไม่จบศึกษาศาสตร์หรือครุศาสตร์หรือไม่สอบผ่าน 9 มาตรฐานวิชาครู ไม่ใบอนุญาตครูก็จะต้องสอนไม่ได้เสมอไป" มันเป็นแนวคิดที่งมงายล้าสมัย 2 จ่ายเงินเดือนครูผิดหลักความจริง คือจ่ายตามวุฒิ ไม่ได้จ่ายตามความสามารถ ทำให้ครูแห่กันไปเรียนปริญญาโทปริญญาเอกกับมหาลัยจ่ายเงินครบจบแน่ๆ เพื่อเอาวุฒิมาขึ้นเงินเดือน แต่ไม่ได้ใช้เวลาศึกษาค้นคว้าในวิชาที่ตัวเองจะต้องสอนเอาเสียเลย ซึ่งนับว่าเป็นผลร้ายกับเด็ก ระบบการศึกษาไทยถึงมีปัญหาอยู่ตลอด เพราะกฎระเบียบต่างๆสร้างขึ้นจากความงมงายรู้เท่าไม่ถึงการ และมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นการผูกขาดอาชีพครูโดยใช้กฎระเบียบเรื่องใบอนุญาตครู แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 17:07:59 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 16:46:18 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 16:38:00

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเป็นคนนึงในไม่กี่คนในโรงเรียนที่ไม่ได้เรียนพิเศษช่วง ม.6 นะ ผมเรียนอยู่สายวิทย์ วันนึงเรียนเยอะมากกกกกกก แค่วิทย์อย่างเดียวก็เนื้อหาเยอะแยะไปหมด แล้วเวลาสอนไม่เคยพอ อาจารย์ไม่เคยมีเวลามาค่อยๆ สอนแต่ละเรื่อง พอท้ายเทอมใกล้สอบทีไร อาจารย์มาเร่งๆ สอนตลอด ระหว่างนั้นมีงานเต็มไปหมด ถ้าเทียบกับเวลาที่เขาใช้สอนในคอสเรียนพิเศษแล้ว เวลาที่เขาให้ในโรงเรียนมันน้อยมาก พอผ่านมาแล้วก็ยังสงสัยไม่หายว่าทำไมเขาให้เรียนเนื้อหาเยอะขนาดนั้น เยอะจนอาจารย์เขาสอนไม่ทัน อาจารย์มัธยมก็ใช่จะสอนเก่งกันทุกคน เด็กเก่งก็ดีไป อ่านเองได้ อาจารย์สอนนิดเดียวต่อยอดเองได้ แต่ถ้าไม่เก่งมาก เรียนในห้องอย่างเดียวไม่พอจริงๆ อ่านเองก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย สุดท้ายเด็กก็ต้องไปพึ่งกวดวิชาแบบช่วยไม่ได้ ก็อาจารย์สอนไม่เคลียร์ อ่านเองก็ลำบาก + + + ตอนประถมผมเรียนโรงเรียนวัดธรรมดา ไม่มีหรอกเรียนพิเศษ แต่ช่วงปลายๆ ประถมผมย้ายไปเรียนโรงเรียนเอกชนโรงเรียนนึง ถึงได้รู้จักการเรียนพิเศษ หัวผมค่อนข้างโอเค พ่อแม่เลยไม่ให้เรียน เห็นว่าไม่จำเป็น แต่ตอนเรียนในห้องผมรู้สึกได้เลยว่าครูเขาจะพูดคุยกับเด็กที่เรียนพิเศษกับเขามากกว่า เวลาออกข้อสอบเขาก็จะเอาโจทย์จากหนังสือนอกที่ไม่ได้สอนในห้องหรอก โชคดีว่ามีเพื่อนเรียนพิเศษกับครูเขาเยอะ ก็จะรู้กันว่าใช้หนังสือเล่มไหน ไปซื้อตามๆ กันมา ตอนช่วงน้องผมมาเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน เคยได้ยินมันเล่าให้ฟังว่า ครูเขาสั่งการบ้านเท่านี้ในห้อง แล้วใครเรียนพิเศษกะเขาเขาก็จะสอนการบ้านให้เลย บางทีก็งงว่าจะเรียนพิเศษสอนทำการบ้านไปทำไม ที่แย่คือ น้องเคยโดนทำโทษเพราะไม่ทำการบ้านเพราะมันไม่รู้ว่าเขาสั่ง แต่เพื่อนที่เรียนพิเศษกับเขาทำมากันหมด แสดงว่าเขาสั่งตอนสอนพิเศษนั่นแหละ จากคุณ : เจเล่ไลท์ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 17:09:42

ความคิดเห็นที่ 10 ใครไม่เรียนพิเศษก็ไม่รู้เรื่อง ทำข้อสอบไม่ได้ ... สมัยเมื่อ 42 ปีก่อน ก็มีโรงเรียนกวดวิชากันแล้ว แต่จะว่า ไม่เรียนพิเศษไม่รู้เรื่องก็เกินไป เพราะผมเด็กจน เดินไปโรงเรียน 12 ปี ระยะทาง 3-5 กม เงินกินขนมไม่มี แต่ก็เรียนในห้องรู้เรื่องได้ สอบไล่ทั่วประเทศแผนกวิทย์กว่าแสนคน ผมสอบได้ที่ 500+ ติดบอร์ด มีสิทธิสอบชิงทุนไปนอกและก็สอบไปนอกได้ อ่านหนังสือเอง+เรียนในห้องเท่านั้น+ซื้อหนังสือข้อสอบเก่าๆ มาทำเพิ่ม ก็แค่นั้นแหละ ส่วนใหญ่จะสิงอยู่ีในห้องสมุด วันหนึ่งอ่านหนัึงสือ 6-8 ชม. อย่าเหมาครับ เด็กเก่งเองก็มีแม้ว่าจนสุดๆ หัวดี ขยันอ่านหนัีงสือ ก็ไม่จำเป็นต้องไปเรียนพิเศษหรืออะไร จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 19:34:25

ความคิดเห็นที่ 11 งั้นแนะนำไปเรียนโรงเรียนต่างจังหวัดเหอะ พวก รร ประจำจังหวัดที่ดัง ๆ อะ มักจะมี จังหวัดละ 2-3 โรงเรียน  ค่าเทอมเทอมละประมาณ 1500 เรียนมา 6 ปี แทบจะไม่เคยเรียนพิเศษน้องสาวเรายิ่งแล้ว ไม่เคยเรียนพิเศษเลย (เพราะไม่มีเวลาต้องช่วยทำงาน) เป็นคนเดียวในห้อง (50 คน) ที่ไม่เรียนพิเศษ อยู่ห้องคิงส์ สอบโควตาก็ได้ โควตาเกรด ก็ได้ เรียนจบเกียรติยมอันดับหนึ่งเหรียญทองอะ ได้เข้าทำงานสายบัญชีของบริษัท Big 4 สรุป อยู่ที่คนนะ ถ้าเด็กรักที่จะเรียน ความรู้ในหนังสือเรียนมันไม่ได้ยากขนาด ศึกษาเองไม่ได้หรอก ถามเพื่อนก็ได้ ถามครูก็ได้ ถ้าครูหวงความรู้ขนาดนั้นก็อย่างที่บอก เรียนโรงเรียนต่างจังหวัดไปเลย เอา รร ที่ดี ๆ นะ ภาคเหนือมีเยอะ พูดจริงนะเนี่ย จากคุณ : Freedom of Life เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 20:11:54