ความคิดเห็นที่ 1 ข้อสอบวิชาอะไรถึงมี error อ่านแล้วงง ไม่เข้าใจ จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 17:10:43

ความคิดเห็นที่ 2 ภาษาอังกฤษที่หาจุดผิดของประโยคอะค่ะ ขอโทษนะค่ะที่ถามไม่ชัดเจน จากคุณ : สนัฟเฟิลส์ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 18:30:43

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวผมเองใช้หนังสือ TOEFL รุ่น paper-based ซึ่งจะมีข้อสอบ error อยู่ด้วยครับ ผมอ่านเล่มพวกนี้ตอนอยู่ ม 4 เพื่อให้มีพื้นฐานไวยากรณ์ภาษาอังกฤษทันเพื่อนคนอื่นในห้อง จากคุณ : pokemon trainer เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 22:17:35 A:101.108.236.209 X: TicketID:000119

ความคิดเห็นที่ 4 เราเรียนภาษาอังกฤษโดยไม่เคยทำแบบฝึกหัด grammar ในตำรา grammar แต่เรียนฟังเสียงฝรั่งเจ้าของภาษาแล้วหัดพูดตาม แล้วเอาประโยคที่พูดตามได้มาดัดแปลงพูดพลิกแพลง ซึ่งเป็นการฝึกโต้ตอบทันควันแบบ interactively  ซึ่งในกระบวนการเรียนการสอนทั้งหมด ใช้ภาษาอังกฤษหมด ไม่มีภาษาไทยเลย เพราะ dictionaries ก็ใช้แต่ อังกฤษ-อังกฤษ และเป็น active learning แต่เราไม่เคยเรียนแบบ ฟังครูอธิบาย grammar น้ำลายยืดเป็นภาษาไทย แล้วนั่งจดยิกๆ ซึ่งเป็น passive learning ดังนั้น error identification ที่เราทำได้จะใช้ "สัมผัสพิเศษ" คือ "ได้ยินเสียงที่พูดออกมาหรือมองเห็นตัวหนังสือที่เขียนออกมาก็หยั่งรู้ได้ว่าถูกหรือผิด" แต่ "เราไม่สามารถอธิบายได้ว่าถูกหรือผิดเพราะอะไร" ^ เราใช้ทักษะนี้ทำงานด้านภาษาอังกฤษเป็นล่ามในศาลและในที่ประชุม และแปลไทยเป็นอังกฤษที่ต้องเขียนภาษาอังกฤษให้สวยหรูอยู่หลายปีถึงเพิ่งมาเรียน grammar จากตำราที่ฝรั่งเขียนล้วนๆ วิธีคิดที่ grammarians ฝรั่งคิดเรื่อง grammar ยืดหยุ่นและเจาะลงลึกกว่าคนไทยสอนมากๆ ถ้า จขกท เรียนภาษาอังกฤษแบบเรา คุณจะไม่มาตั้งกระทู้ถาม เพราะจะ "มีสัมผัสพิเศษ" ที่จะทำข้อสอบ error identification ได้ แต่ถ้า  จขกท เรียนภาษาอังกฤษแบบ passive learning คือฟังครูอธิบายเป็นภาษาไทยยืดยาว แล้ว จขกท จด notes ยิกๆๆๆๆ แต่ไม่เคยฟังพูดโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษกับครูเลย มันจะส่งผลให้ จขกท มาตั้งกระทู้นี้เพื่อ "หาวิธีลัด หรือหาเคล็ดลับ หรือหาสูตรคำนวณเร็วเหมือนคณิตศาสตร์" ^ แต่คำตอบก็คือ "ไม่มีสูตร" คุณจะใช้ภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง และพอได้ยินใครพูดหรือเห็นใครเขียนคุณรู้ทันทีว่า "ผิดหรือถูก" มันต้องใช้ "สัมผัสพิเศษ" สัมผัสพิเศษ sure ที่สุด เพราะถ้าไม่ sure ว่า ใช่หรือไม่ เราใช้ google ค้นข้อมูลหาคำตอบเกี่ยวกับ grammar เป็นเรื่องๆไปได้ ในขณะที่คนที่ไม่เคยเรียนแบบ interactive communications แต่นั่งฟังครูบรรยายเป็นภาษาไทยยาวๆเรื่อง grammar บ่อยครั้งกลายเป็น "ใช้ภาษาอังกฤษผิดๆเพราะ grammar ที่เรียนมา" เหตุผล ครูคนไทยส่วนใหญ่อธิบายไม่ครบเรื่อง หรือแม้กระทั่งตัวครูเองก็เรียนมาไม่ครบเรื่อง เพราะไม่เรียนเจาะลงลึกแบบฝรั่งเจ้าของภาษามองดู grammar   สรุปแล้วคนไทยหลายๆคนยังหลงเข้าใจผิดคิดว่าครูไทยเก่ง grammar มากกว่าครูฝรั่ง ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่  ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปค้นดู websites ต่างประเทศที่พวกเซียนฝรั่งเก่งๆอธิบายเรื่อง grammar ดูดิ มันลึกซึ้งกว่าหลายๆเท่า ตกลงคำตอบก็คือ พยายามเรียนภาษาอังกฤษโดยการใช้สื่อการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษจากต่างประเทศให้หมด แล้ว จขกท จะมองเห็นทางสว่างเอง ครูคนไทยควรสอน skills ที่สำคัญๆ เพื่อเอื้ออำนวยให้นักเรียน เลิกเรียนกับครูคนไทยต่อไปในอนาคต (โดยครูไทยตั้งเป้าหมายว่า "เขาจะเป็นครูไทยคนสุดทั้ายของนักเรียนคนนั้น") นักเรียนก็ยังไปรอด ในอนาคต โดยการเรียนจากสื่อภาษาอังกฤษจากต่างแดนล้วนๆ เมื่อเรียนได้เช่นนั้นแล้ว error identification จะกลายเป็น "สมองทำงานโดยใช้สัมผัสพิเศษ" แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 00:20:41 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 00:16:25

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นตามความเห็น #3 ครับ ลองดู TOEFL แบบ paper-based นะครับ เทคนิคคร่าวๆ คือ 1. หาประธานและกริยาของประโยคให้เจอ 2. จากนั้นก็ไล่ไปเรื่อยๆ ตามโครงสร้างครับ ไม่พ้นออกจากนี้ครับ เช่น Although he jumped aside, but the stone hit him. ประธาน/กริยาคือ he jumped + the stone hit กริยาไปในทางเดียวกันคือ past (jumped) + past (hit) พอแยกแค่นี้ออก ที่เหลือก็ง่ายละครับ ดูตัวเชื่อม Although จะไม่มี but สรุป but ผิดครับ สังเกตว่าถ้าไม่รู้ว่า aside แปลว่าอะไร ก็ยังตอบได้ครับ วิธีนี้เน้นเอาไว้ทำข้อสอบและทบทวนแกรมม่าร์ครับ :) จะเป็นพื้นฐานที่ดีต่อไปเรียนต่อไปครับ จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 01:57:02

ความคิดเห็นที่ 6 การจะทำข้อสอบส่วนของ error identification ได้ แกรมม่าจะต้องแม่น หากมีเวลา ฝึกทำแบบฝึกหัดแกรมม่าต่างๆ เยอะๆ แต่หากเราไม่มีเวลาจะรื้อฟื้น ปั่น ฝึกให้ทันสอบละก็ วิธีที่ดีที่สุดที่ทำได้ตอนสอบคือ ทำ part อื่นที่คาดว่าจะได้คะแนนมากที่สุดก่อน เช่น Reading ถ้ายังไม่รู้ ให้ลองทำข้อสอบจริงของปีก่อนๆ แล้วประเมินตัวเองจากคะแนน ดูซิว่าเราได้คะแนนน้อยเพราะอะไร ติดศัพท์หรือเปล่า หรือตีความไม่แตกเพราะความรู้ทางแกรมม่าไม่พอ จากนั้นเสริมจุดอ่อนของแต่ละพาร์ทนั้น ติดเรื่องศัพท์หรือเปล่า บทความย่อหน้าหนึ่งให้วงคำที่ไม่รู้ความหมาย แล้วดูความถี่ของการวง จะรู้ได้เลยว่าอาการหนักหรือเปล่า ^^" แต่ถ้ารู้ศัพท์ การวงศัพท์ก็ไม่ได้ถี่อะไร ศัพท์ที่ไม่รู้ความหมายก็พอคาดเดาควาหมาย จากบริบทได้  แต่ตีความหมายไม่ได้ อ่านไม่เข้าใจ นั่นแหละติดแกรมม่า ส่วน error identification นี่ รู้ๆ กันได้เลย ถ้าไม่รู้ว่าคำไหนผิด จับจุดไม่ได้ ก็คือ ความรู้ทางแกรมม่ายังไม่แม่นพอ หากแกรมม่าแม่นพอ เราจะสะดุดคำที่ไม่น่าจะใช่ คำที่ผิดจะรู้ได้ทันที จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 08:07:06

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกๆความเห็นค่ะ ช่วยได้มากจริงๆ จากคุณ : สนัฟเฟิลส์ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:11:53