 |
Speaking English - How to talk about the weather
Speaking English - How to talk about the weather
 สวัสดีครับ ครูเจมส์ครับ มันหนาวเย็นจริงๆที่นี่ มันฤดูใบไม้ร่วงในแคนาดา มันเย็นมากครับ บางทีมันก็ง่าย hot and cold, rainy ร้อนและหนาว ฝนตก นั่นคือที่เราพูดกัน hot, cold, rainy Welcome to Canada! ยินดีต้อนรับสู่คานาดาครับ! ใน คานาดา เรามี 4 ฤดูครับ ซึ่งมันแตกต่างกันมาก เรามีคำเฉพาะสำหรับแต่ละฤดู
และ สิ่งที่เรากำลังจะทำวันนี้ ผมจะให้คุณ 2 - 3 คำ เกี่ยวกับแต่ละฤดู ใน 4 ฤดู ดังนั้นถ้าคุณมาที่คานาดา คุณจะรู้ว่าคุณพูดถึงอะไร (55+) เพราะว่าในคานาดา มันมีแค่ 2 ฤดูจริงๆ คือร้อนมากเกินจริงๆ และ หนาวมากเกินจริงๆ (55+) แล้วก็ที่เหลือ โอเคครับ ไปที่กระดานกัน
เอาหละ ดังนั้นสิ่งแรกที่เรากำลังจะทำก็คือ
1. Spring เรามี Spring ฤดูใบไม้ผลิ 2. Summer เรามี อะไรต่อนะ Summer ซัมเมอร์ 3. Fall เรามี Fall ฤดูใบไม้ร่วง 4. Winter แล้วเราก็มี Winter ฤดูหนาว โอเค
นี่คือ 4ฤดู ที่เรามี ต่อปี
ตอน นี้ แต่ละที่มีฤดูที่มีรูปแบบ(ดินฟ้าอากาศ)เฉพาะตัว ที่มันจะเหมือนๆกันทุกๆปี ขึ้นอยู่กับคุณอยู่ที่ไหนในโลก ซึ่งคุณอาจอยู่ในที่ที่ฟังแล้ว (รูปแบบฤดูแบบนี้)ไม่เหมือนกับ(ใน)ที่ที่คุณอยู่ แต่นี่คือบางคำที่เราได้รับประสบการณ์(เช่นนี้)และปกติแล้วเราใช้บรรยายว่า เรารู้สึกอย่างไรต่อสภาพดินฟ้าอากาศ หรือบรรยายสภาพดินฟ้าอากาศ
ตอนนี้ ในประเทศเราค่อนข้างแปลกๆ คือเรามีปริมาณน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก แต่น้ำที่มานั้นมัน(มาในรูป) ฝนตกอยู่ตลอดเวลา ประเทศอย่างเมกซิโก ชิลี หรืออาฟริกา ก็มีน้ำ แต่เรามีหิมะด้วย นักเรียนบางคนอาจไม่เคยเห็น แต่มันคูลมากจริงๆครับ
1. Spring = damp, cool, brisk 2. Summer = muggy, hazy, downpour, hail
มาเริ่มกันที่นี่
1. Spring
Spring = damp, cool, brisk
(อันแรก ฤดูสปริง) ดีที่สุดเลยครับ ดีที่สุดของปี มาคิดว่าเรามีอะไรในฤดูสปริง
Spring ==> damp
บางครั้งเรามี damp บาง ครั้งเราพูดถึงน้ำ มันหมายถึง พวก น้ำในอากาศ ดังนั้นอากาศมันจะชื้นนิดหน่อย บางครั้งคุณเห็นแสงแดดจำนวนมากอยู่ข้างนอก คุณเห็นละอองความชื้น คุณจะรู้สึกถึงน้ำนิดหน่อยอยู่บนผิว มันเย็นๆ ใช่มั๊ย แต่มันดีนะ
Spring ==> cool
อีกคำนึง Spring ==> cool อีกความหมายนึง cool = ดีเยี่ยม แต่ cool ไม่เหมือนกับ cold
cool = cold นิดหน่อย, หนาวนิดหน่อย = a little bit cold
แต่ไม่ใช่หนาว เหมือนกับ คุณสามารถสวมเชิร์ท และคุณต้องการแจ๊กเกต แต่ไม่ใช่แจกเกตที่หนามาก แจ็คเกตบางๆน่ะครับ โอเคครับ มัน cool แต่อากาศมันดี สามารถเดินเล่นข้างนอกได้ เมื่อไปถึงพาร์ทอื่นคุณจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงบอกว่ามันไนซ์ โอเค ดังนั้นคุณสามารถพูดได้ว่า cool
Sping ==> brisk
คำอื่นที่เราชอบพูดในฤดูสปริงคือ brisk
(brisk = adjective quick and active, = vigorous รวดเร็ว คล่อง กระฉับกระเฉง กระตือรือร้น)
เพรา เมื่อเราพูดถึง brisk มันเหมือนเราเดิน การเดินทำให้คุณรู้สึกดี อากาศนั้นสดชื่น และสะอาดและมันปลุกให้คุณตื่น มัน(มีความ)กระฉับกระเฉง ลองดูศัพท์คำว่า in vigorous นะครับ
(brisk = adjective quick and active, = vigorous รวดเร็ว คล่อง กระฉับกระเฉง กระตือรือร้น)
และเมื่อคุณพูดถึง brisk คุณต้องยิ้มไปด้วย มันหมายถึงมันลมแรง มันหนาวเย็นแต่มันรู้สึกดี ดูสิ ผมไม่ได้ยิ้มจริงๆ ผมแสร้งว่าผมยิ้มอยู่ ผมแอ็คเหมือนว่าผมยิ้มอยู่ก็เพราะว่า มันดี มันรู้สึกดีแต่มันก็เย็นๆอยู่หน่อยนึง และนี่คือสิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้
1. Spring ==> damp, cool, และ brisk
แต่เพราะว่าเป็นเวลาใบไม้ผลิ เราเติม "รอยยิ้มอันใหญ่ๆ" เพราะเป็นการเริ่มต้นของปีใหม่ โอเคนะครับ
2. Summer ฤดูร้อน
Summer = muggy, hazy, downpour, hail
มา ดูที่ฤดูร้อน ฤดูร้อนนั้นร้อน คุณสามารถถอดเสื้อเชิ้ต ดูสิครับ ฤดูร้อนนั้น ร้อนมากๆๆ ถ้าคุณอาศัยอยู่ในเมือง จะรู้สึกว่าอากาศมันหนักๆ หนักมากๆ เราสามารถพูดว่า
Summer ==> muggy
คุณอาจคิด(สงสัย)ว่า muggy หมายความว่าอะไรกัน ปกติแล้ว mug เป็นคำนาม คือถ้วยที่คุณดื่มกาแฟ (ถ้วยกาแฟ) มันใหญ่และหนัก กาแฟนั้นร้อน ในคานาดา,อเมริกา
ถ้าคุณ get mug = มันหมายถึงมีคนเข้ามาใกล้คุณ เอามีดมาจี้คุณและบอก "ส่งเงินมาให้ผม" แบบ คือมันเข้ามาใกล้คุณมาก
ดังนั้น muggy คือ มันร้อนและมันอยู่ใกล้คุณมาก (แนบ)
Summer ==> hazy
ตอนนี้ นี่คืออีกอย่างนึงแต่มันเกิดขึ้นในฤดูร้อน
คุณเคยมองออกไปข้างนอกและมันร้อนมั๊ย
มันร้อนมาก และคุณมองดูที่ถนน และถนนเหมือนจะเคลื่อนไหวอยู่ มัน hazy คือมันมีฮีท(ความร้อน)อยู่เป็นจำนวนมาก และมันสะท้อนกับสิ่งต่างๆที่เรามอง
เราเรียกว่า muggy and hazy = มันร้อนมาก มันทำให้ท้องฟ้าดูต่างไปหน่อย ดังนั้น hazy = มันดูเหมือนมีอะไรอยู่ข้างนอก และทำให้มันดู ไม่เคลียร์ ((ท้องฟ้า)ไม่สดใส) เหมือนฮีทเปลี่ยนภาพที่เรามองเห็น และฮีทเปลี่ยนความรู้สึกเรา(ว่ารู้สึกร้อนขึ้น) ใช่มั๊ยครับ
Summer ==> downpour (= heavy rain = ฝนตกหนัก)
ดัง นั้นคำที่สาม คำที่สามคือ จำได้มั๊ยครับ เราพูดถึงฝน ฝนมาจากท้องฟ้า ดังนั้นในซัมเมอร์มันค่อนข้างแปลกๆเพราะบางครั้งเรามีฝนตกโครมใหญ่มากๆตกลง มาในคราวเดียว
ตอนนี้คุณอาจรู้จักสตอร์ม(พายุ) คุณอาจรู้จักซูนามิ เฮอริเคน บางครั้งเรามีฝนตกลงมาจำนวนมาก เราเรียกว่า downpour เมื่อ downpour ตกลงมา มันจะตกลงมาเป็นจำนวนมาก คุณไม่สามารถมองเห็นอะไรข้างหน้าคุณเลย
โอเคนะครับ เราเรียกว่า   downpour (= heavy rain)   หมายถึง = ฝนตกหนัก
Summer ==> hail = ลูกเห็บ
คำ อื่นที่เกิดขึ้น อันนี้ค่อนข้างพิสดาร เพราะว่าบางครั้งในเวลาฤดูร้อน คุณจะไม่เชื่อนี่ น้ำเเข็งเป็นก้อนๆ ตกลงมาจากท้องฟ้าหล่นใส่คุณ บางครั้งมันก้อนเล็กกระจิดริด จิ๋วๆมากๆ เหมือนทราย บางครั้งมันใหญ่ขนาดนี้ ขนาดลูกกอล์ฟ มันตกลงมาอย่างแรงมากๆ
เราเรียกว่า hail = ลูกเห็บ ซึ่งมันค่อนข้างพิสดาร เพราะเมื่อมันตกลงมา มัน ตกลงมาอย่างแรง และหิมะตอนฤดูร้อน อุณหภูมิ 90 องศาฟาเรนไฮท์ มันประหลาดมาก ผมสัญญา ผมไม่โกหก คุณต้องมา(ดู)ที่คานาดา มันเป็นประเทศที่สวยงาม 
******************************************************** หมด 2 ฤดูแล้ว พอก่อน อีก 2 ฤดู มาต่อ พรุ่งนี้จ้า
สรุป
1. Spring = damp, cool, brisk 2. Summer = muggy, hazy, downpour, hail
แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 01:34:37
จากคุณ |
:
lovelypriest
|
เขียนเมื่อ |
:
29 เม.ย. 55 01:32:34
|
|
|
|
 |