 |
สำหรับดิฉัน.. คิดว่า มันก็แค่ปัญหาส่วนหนึ่งค่ะ
โรงเรียนที่จะสามารถจ้างครูต่างชาติได้ ก็ต้องเป็นโรงเรียนที่ใหญ่ และมีงบประมาณมากพอที่จะจ้าง ซึ่งแน่นอนว่า โรงเรียนส่วนใหญ่ของระเทศซึ่งเป็นโรงเรียนเล็กๆ นั้น ไม่มีเงินจ้างแน่นอน
ดิฉันเคยสอบถามโรงเรียนที่เคยจ้างครูต่างประเทศมาสอน บางโรงเรียนก็ให้ 10,000 12,000 18,000 เทียบกับเงินเดือนตอนนั้นสำหรับครูอัตราจ้างที่ใช้เงินงบประมาณโรงเรียนประมาณ 8,000
ซึ่งโรงเรียนเล็กหรือใหญ่นั้น ปัญหาก็จะแตกต่างกันไป ตามสภาพของโรงเรียน ซึ่งก็คล้ายๆ กันทั่วประเทศ
ขออธิบายในส่วนของโรงเรียนมัธยม (แบ่งตามเขตพื้นที่การศึกษา บ้างก็ 2 จังหวัดรวมกัน) นะคะ.. ในจังหวัดหนึ่ง โรงเรียนที่มีนักเรียนมากกว่า 3,000 คน ไม่เกิน 2-3 โรงเรียน โรงเรียนที่เป็นโรงเรียนเด็กนักเรียนประมาณ 1,000 กว่าคน ให้เต็มที่ไม่เกิน 5 โรงเรียน และต่อมาคือ 700 คน ก็ให้อีกไม่เกิน 5 รวมแล้วขนาดใหญ่ ก็มีประมาณ 10-13 โรงเรียน นอกนั้นอีกประมาณ 47 โรงเรียน ก็เป็นโรงเรียนขนาดเล็กและปานกลาง ที่มีนักเรียนประมาณ 300 คนหรือต่ำกว่า
งบประมาณรัฐบาลจัดสรรให้อย่างไร ก็จัดสรรให้ตามจำนวนนักเรียนเด็ก หรือภาษาโรงเรียนเขาเรียกว่าเงินอุดหนุนรายหัว ระดับมัธยมตอนต้นได้คนละ 3,500 บาทมัธยมตอนปลายได้ 3,800 บาท (ประถมจะได้น้อยกว่านี้นะคะ) ต่อปี
ขออธิบายของโรงเรียนเล็กๆ นะคะ เอาแค่นักเรียน 200 คน ก่อน แบ่งเป็น ม. ต้น 120 คน ม.ปลาย 80 คน ม.ต้น 120 x 3500 = 420,000 ม.ปลาย 80 x 3800 = 304,000 รวมได้รับงบประมาณในปีนั้น 724,000 บาท เทียบกับเด็กนักเรียน 200 คนอาจจะดูเยอะ แต่มาดูกันว่าเรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ค่าโทรศัพท์ + อินเตอร์เน็ต เดือนละ 2,000 * 12 = 24,000 ค่าจ้างนักการภารโรง เดือนละ 6,000 * 12 = 72,000 ค่าไฟฟ้า เฉลี่ยเดือนละ 8,000 * 12 = 84,000 ค่าน้ำ เฉลี่ยเดือนละ 1,000 * 12 = 12,000 ค่าจ้างครูอัตราจ้าง 1 คน เฉลี่ย 8,000 * 12 = 84,000
นี่เป็นค่าเฉลี่ยที่ต้องจ่ายแน่นอน หักจากเงินอุดหนุนรายหัว 276,000 เหลือ 448000 ที่ใช้ตลอดปีการศึกษา แบ่งออกเป็น 2 เทอม ที่ต้องใช้จ่ายเป็นค่าถ้ายเอกสารข้อมสอบ การจัดการเรียนการสอน ซื้อกระดาษมาให้ครูใช้เป็นสื่อสอนนักเรียน ซ่อมแซมปรับปรุงอาคาร ตามโครงการที่ได้เขียนขึ้น
ประมาณนี้ค่ะ
ในมุมมองส่วนตัว.. ดิฉันมองว่า กระทรวงศึกษาถูกการเมืองครอบงำจนเกินไป รัฐบาลไหนมาก็อยากมีผลงาน ปรับ เปลี่ยนแปลง แทนที่จะทำให้มันเจริญขึ้นกับแย่ลง รัฐมนตรีก็วันนี้พูดอย่าง พอเขาว่าไม่ดี วันรุ่งขึ้นก้พูดอีกอย่าง บริหารไม่ถูกทาง
นโยบายแท็บเล็ต ก็ยังไม่เหมาะที่จะพัฒนาตอนนี้ เพราะอะไร... มีสักกี่โรงเรียน ที่มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงใช้แล้ว??? ที่ระบบเครือข่ายสามารถรองรับกับเทคโนโลยี แต่โรงเรียนที่ยังใช้อินเตอร์เน็ตจากจานรับสัญญาณก็อีกเยอะแยะ ที่กว่าจะโหลดหนังสือราชการสัดฉบับก็ใช้เวลาไป 30 นาที
งบประมาณก็เป้นเงินที่สูงมาก และเอามาให้เด็ก ป.1 ที่ยังอ่านหนังสือไม่ออกมากกว่า 50% ของทั้งประเทศ แต่ถ้าจัดสรรให้ ม.ปลาย หรือ ม.1 ก่อน มันน่าจะช่วยเพื่อมคุณภาพมากกว่าหรือไม่??? รวมถึงการดูแลรักษาของก็น่าจะดีกว่าเด็ก 7 ขวบ ที่ไม่สนใจรักษาของสักเท่าไร
สู้เอาเงินมาพัฒนาอินเตอร์เน็ตความเร้วสูง ให้มีเครือข่ายใช้งานได้ทั่วประเทศอย่างทั่วถึง และจัดสรรคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนห่างไกลความเจริญได้ใช้คอมพิวเตอร์กันอน่างเพียงพอให้หมดก่อน แล้วค่อยแจกแท็บเล็ตจะดีกว่าไหม???
สุดท้ายเอาเงินมาลงที่กระทรวงศึกษาหลายพันล้านกับแท็บเล็ต คุณภาพการศึกษาก็ยังไม่เกิดอยู่ดี เชื่อสิ.. สุดท้ายครูอีกนั่นแหละที่ผิด ที่สอนเด็กไม่ได้ตามเป้า..
จากคุณ |
:
][NuUnAn--
|
เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ค. 55 09:37:39
|
|
|
|
 |