PANTIP.COM : K12104804 ผลสำรวจ เด็กจีนฉลาดสุดในโลก..แล้วเด็กไทยมีอะไร.ไปโชว์..มีสิครับ.. ก็ เด็กหญิง มัธยม ท้องมากสุดในโลก คุณแม่วัยใส ไงครับ [การศึกษา]

ความคิดเห็นที่ 12

คนอื่นเก่งก็ยินดีกับเขา

คนของเรามีปัญหา เราก็ลงมือแก้สิครับ รู้ปัญหาก็ดีแล้ว ดีกว่าไม่รู้ปัญหา จุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาคือการตื่นตัวว่ามันมีส่วนต่างระหว่างสิ่งที่ควรจะเป็นในอุดมคติกับสิ่งที่มันเป็นอยู่ในปัจจุบันแล้วก็เกิดความห่วงใยอยากจะแก้ไข

เมืองไทยเราน่ะจุดเด่นอย่างหนึ่งคือเราเป็นสังคมเปิด สังคมที่เปิดนั้นมันทำให้มีข้อมูลข่าวสารหลายอย่างที่คนเขาเข้าถึงได้ในขณะที่อีกมากมายหลายประเทศมันไม่มีทางได้เข้าถึงข้อมูลเหล่านั้น มันก็เลยทำให้ดูเหมือนเรามีปัญหามากมายกว่าคนอื่น

แล้วไง? รู้ว่ามีปัญหาก็แก้ไปสิครับ แม้จะน่าอาย แต่เมื่อมันเป็นปัญหาก็รับว่ามีปัญหาแล้วก็ลงมือแก้ให้ตรงจุด แล้วก็เริ่มแก้โดยไว ไม่เริ่มแก้วันนี้จะเริ่มแก้เมื่อไร แล้วก็ให้ระลึกไว้เสมอว่า เราทำเพื่อแก้ปัญหาให้บ้านเรา ไม่ใช่ทำอวดคนอื่น อย่าไปทำเพื่อโชว์จัดฉากถ่ายรูปขึ้นเฟสบุ๊ค คนอื่นน่ะเขามองปัญหาของเขาอย่างไรก็เรื่องของเขาและมันจะมองเราอย่างไรก็เรื่องของเขาอีกเหมือนกัน แต่เราต้องมองและแก้ปัญหาของเราด้วยสติและปัญญาตามสภาพความเป็นจริง ไม่ใช่เต้นตามลมปากคนอื่น

สมัยก่อน ผมทำงานแก้ปัญหาเรื่องโรคเอดส์อยู่ทางภาคเหนือ สิ่งแรกที่เราทำคือการช่วยกันขุดหาประเด็นปัญหาในเชิงระบาดวิทยา มีคนติดเชื้อมากไหม? ใครบ้างที่ติด? ติดที่ไหน? ต่อไปก็มาสู่ประเด็น ติดได้อย่างไร? ภาพที่ได้นั้นไม่น่าอภิรมย์เลย เราเริ่มทำงานกันปี 2532 ฝรั่งทำนายไว้ตอนนั้นว่าพอถึงปี 2543 เมืองไทยจะมีผู้ติดเชื้อแปดล้านคน ใครต่อใครรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านพากันชี้นิ้วมาที่เมืองไทยด้วยความสยดสยองหรืออาจจะสมน้ำหน้าว่า มรึงตายแน่

ก็เกิดคำถามว่า เรามีการระบาดรุนแรงอย่างนี้ คนติดเชื้อเพิ่มรวดเร็วมาก ควรจะเปิดเผยข้อมูลไหม? คำตอบที่เราเห็นพ้องต้องกันก็คือ ไฟไหม้บ้านแล้วโว้ย ต้องตะโกนให้ทุกคนช่วยก้นดับ อย่าทะลึ่งเอากระดาษไปปกไฟ เดี๋ยวก็ไม่เหลือบ้านไว้คุ้มกะลาหัวกันทุกคนหรอก

เพราะการที่คนไทยทุกคนร่วมมือกันนับแต่บัดนั้น เพราะเราไม่เอากระดาษไปปกไฟ มีปัญหาก็บอกตามตรงว่ามีปัญหา แล้วก็ก้มหน้างุดๆแก้ไป เมื่อปี 2543 มาถึงเข้าจริงๆ จากข้อมูลทุกกระแสที่รวบรวมได้ คนทั่วโลกก็ต้องยอมรับว่าเราทำงานได้ผล คนไทยติดเชื้อไม่เกิน 1 ล้านคน จากที่ประมาณไว้เดิมว่า 8 ล้านคน ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่ควบคุมโรคเอดส์ได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลก

ขอกราบขอบพระคุณพี่น้องทุกท่านที่ได้มีส่วนดับไฟในครั้งนั้น

แล้วเราชนะสงครามหรือยัง? คำตอบคือยัง เราอาจชนะการรบในหลายสมรภูมิ แต่เรายังไม่ชนะสงคราม ข้าศึกยังอยู่ทั้งภายนอกและภายใน ศัตรูภายนอกคือเชื้อโรค ศัตรูภายในคือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพวกเราและสภาพทางสังคมจิตวิทยาที่ยังเอื้อต่อการแพร่กระจายของโรคเอดส์ตลอดจนปัญหาข้างเคียงเช่นการตั้งครรภ์ของวัยรุ่น สืบเนื่องจาก unsafe sex

ศึกยังมี นักรบที่ดีก็ต้องรบ แต่การรบนั้นต้องทำอย่างถูกต้อง ต้องมีแผนยุทธการ ต้องมีการเตรียมกำลัง ต้องมีการส่งกำลังบำรุง

แล้วก็ต้องหาพันธมิตร

ผมเห็น จขกท ตั้งข้อสังเกตเรื่องปัญหาสังคมมาหลายข้อ ท่าทางจะเอาการอยู่ ถ้าไม่รังเกียจนักรบแก่อย่างผมก็ยินดีแอนด์โกร่วมด้วยช่วยกันนะครับ ถ้าไม่รังเกียจจะขออนุญาตหลังไมค์ไปหา

สงสัยต้องนั่งลงทำการเขียนหนังสือที่สัญญากับพรรคพวกไว้เมื่อหลายสิบปีก่อนเสียแล้ว หนังสือมีแต่ชื่อ ยังไม่มีเนื้อ ผมตั้งชื่อรอไว้นานแล้วว่า "สอดสร้อยมาลา" พรรคพวกร้องฮ้อ เหมาะเลยพี่ พี่ลงมือก่อนสิ แล้วพวกผมจะช่วย คงต้องไปทวงสัญญาน้องๆแล้วละ บอกว่าถึงเวลาแล้ว smile

จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด

เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 21:41:32