ความคิดเห็นที่ 1 อยากให้ซ้ำชั้นอ่ะ เราก็ได้อาจารย์ทั้งหลายถีบ ผลัก ดัน เพื่อนลาก กระชาก มาจนจบ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ดนตรีอะไรทั้งหลายนั่น ถ้าไม่ใช่คนรอบๆตัวจบมาไม่ได้แน่ๆ เลยคิดว่า ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่อำนวยให้จบง่ายขนาดนั้น คงเอาจริงเอาจังมากขึ้น เรียนได้เยอะกว่าเดิม หลายเดือนก่อนก็มีการถกเรื่องนี้อย่างเมามัน กระทู้ของคุณ ครับผม อ่ะ  ถ้าสนใจลองหาๆมาอ่านดู จากคุณ : นางสาวคานทอง เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 19:27:13

ความคิดเห็นที่ 2 อยากให้ซ้ำเหมือนกัน แต่ต้องหลังจากปฏิรูปการเรียน การสอน ตำรา ครู ผู้บริหาร...ทุกอย่าง เอาให้มันมีประสิทธิภาพจริงๆ ถึงค่อยมาพูดเรื่องการซ้ำชั้น...ทุกวันนี้เด็กโง่ ขี้เกียจ ส่วนใหญ่ของปัญหาคือจากระบบที่ทำให้เป็นไป ตั้งแต่ครอบครัว โรงเรียนและสังคม จากคุณ : kiria chalee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 01:59:56

ความคิดเห็นที่ 4 อยากให้ซ้ำเหมือนกัน แต่ต้องหลังจากปฏิรูปการเรียน การสอน ตำรา ครู ผู้บริหาร...ทุกอย่าง เอาให้มันมีประสิทธิภาพจริงๆ ถึงค่อยมาพูดเรื่องการซ้ำชั้น...ทุกวันนี้เด็กโง่ ขี้เกียจ ส่วนใหญ่ของปัญหาคือจากระบบที่ทำให้เป็นไป ตั้งแต่ครอบครัว โรงเรียนและสังคม จากคุณ : kupiachalee@gmail.com (kiria chalee) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 02:01:15

ความคิดเห็นที่ 5 โหวต "ควรซ้ำชั้น" ครับ แต่ผมมองไม่เหมือน จขกท. ซะทีเดียว ... ผมไม่ได้มองว่า "การซ้ำชั้น" ควรจะทำเพื่อเป็นการประจานหรือให้เด็กได้อาย เพราะการทำอย่างนั้นจะยิ่งเป็นการบีบให้เด็กยิ่งเกเรมากขึ้น ผมรู้สึกว่าที่เด็กเรียนอ่อนมักเกเร ก็เพราะพวกเขาถูกสายตาของคนที่ "อยู่สูงกว่า" เช่น ครู เพื่อนที่เลื่อนชั้นไปแล้ว ฯลฯ คอยค่อนแขวะนั่นเอง เด็กจึงเรียนรู้ที่จะทำตัว "ถ่อยเพื่อเท่ห์" ต่อไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าถ้าดีแล้วไม่ได้รับการยอมรับก็สู้เป็นคนเลวไปเลยคงจะดีกว่า ผมจึงเห็นว่าการไปกำหนดให้ซ้ำชั้นแล้วต้องเรียนใหม่ทั้งหมดทุกวิชาในระดับชั้นนั้นเป็นเรื่องที่ขาดการยืดหยุ่นมากเกินไป เช่น สมมติว่า เด็กชาย ก. เรียนอยู่ชั้น ม.3 สอบตกวิชา คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ แล้วจะต้องให้มานั่งเรียนใหม่ในวิชาอื่นๆที่ไม่ได้สอบตกในเทอมต่อไป ผมว่าอย่างนี้จะยิ่งทำให้เด็กท้อและไม่อยากปรับปรุงตัว แต่ถ้าให้เด็กชาย ก. เรียนใหม่แค่ 2 วิชาที่สอบตกในเทอมที่แล้ว ส่วนเวลาที่เหลือก็ให้เรียนวิชาของชั้น ม.4 ต่อไปเลย โดยมีแค่เพียงวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเท่านั้นที่ต้องไปนั่งเรียนใหม่ (กับรุ่นน้องหรือเพื่อนรุ่นเดียวกันที่สอบตกวิชานั้น) อย่างนี้ผมว่าน่าจะได้คุณภาพมากกว่า และเด็กน่าจะมีกำลังใจในการเรียนมากกว่าต้องมานั่งเรียนใหม่ทั้งหมดทั้งๆที่บางวิชาตัวเองก็ทำได้ดีและผ่านด้วย .... อีกอย่างที่ผมคิดต่างจาก จขกท. ก็คือ "เด็กเรียนอ่อน ไม่จำเป็นต้องเกเร และเด็กเกเร ไม่จำเป็นต้องเรียนอ่อน เสมอไป" เพราะผมเคยเจอมาแล้วทั้ง 2 กรณี ประเภทที่เรียนอ่อนแต่เป็นเด็กดีก็มีเยอะ แต่พอซ้ำชั้นแล้วต้องมาเจอกับเด็กเกเรเลยกลายเป้นว่าหันไปติดเพื่อนแทน แล้วก็เลยพลาเกเรไปด้วยในที่สุด อีกประเภทคือพวกเรียนเก่งแต่เกเรก็มีถมไป เพราะเกเรในที่นี้มันไม่ได้หมายความว่าต้องทำตัวชอบใช้กำลังหรือชอบมีปากเสียงกับคนอื่น แต่เกเรแบบแอบนิสัยเสียตอนครูเผลอ พอต่อหน้าครูก็ทำตัวเป็นคนดีแต่พอลับหลังครูก็คอยแกล้งคนอื่น อย่างนี้ผมว่าน่าห่วงกว่าเด็กเกเรที่เรียนอ่อนอีก  ครั้นจะเอาศีลธรรมมาแก้ปัญหานี้มันก็ไม่หาย เพราะมันเป็นการพยายามแก้ที่ปลายเหตุ คือเอาแต่คำสอนศาสนายัดเข้าหัวเด็กโดยไม่ได้เข้าใจเลยว่าเด็กมันเกเรเพราะอะไร มันก็ดีอยู่ได้ 2-3 วันเดี๋ยวก็กลับมาเกเรเหมือนเดิมอีก ผมเลยคิดว่า "ความเกเร" กับ "การเรียนอ่อน" มันเป็นคนละเรื่องกัน ที่มักจะตีคู่กันไปเป็นส่วนใหญ่ก็เท่านั้นเอง .... ส่วนถ้าจะพูดเรื่องการเลื่อนชั้นที่มีคุณภาพ ผมว่าเราควรเปลี่ยนกันที่โครงสร้างของหลักสูตรเลยน่าจะดีกว่า น่าจะให้เหมือนมหาวิทยาลัย คืออย่าไปใส่วิชาบังคับเยอะ บังคับแค่ 40-50% ของทั้งหลักสูตรก็พอ แล้วที่เหลือให้เป็นวิชาเลือก ใครสอบตกก็เรียนใหม่จนกว่าจะผ่านและเก็บหน่วยกิตจนครบ เพราะตั้งแต่เรียนมาผมสงสัยมากว่า ตอนเรียนประถมและมัธยมนั้น คำว่า "หน่วยกิต" มันมีความหายอะไรกับตัวนักเรียน เพราะหลักๆเราก็ดูแค่เกรดกับดูว่าเรียนครบทุกวิชาตามที่กำหนดในหลักสูตรหรือยัง ไม่ได้มีใครสนใจว่าเก็บ "หน่วยกิต" ครบรึเปล่าเลย แต่ในมหาวิทยาลัยนั้นแต่ละวิชามีหน่วยกิตไม่เท่ากัน และแต่ละสาขาที่จะจบมาก็ต้องการหน่วยกิตไม่เท่ากัน ในรายวิชาที่ไม่เหมือนกันอีกต่างหาก ถ้าเรายังทำแบบเดิมต่อไป เราก็จะได้แต่นักเรียน ม.6 ที่มีคุณสมบัติทางความรู้ตามที่หลักสูตรกำหนดเหมือนกันทั่วประเทศปีละเป็นแสนๆคน (ไม่นับความสามารถและความสนใจส่วนตัว เพราะเขาหามาด้วยตัวเอง หลักสูตรไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย) แล้วเรายังจะมาบ่นว่าขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์ ขาดแคลนครูดีๆ ขาดแคลนแพทย์ดีๆได้อย่างไรกัน ในเมื่อระบบเราผลิตคนออกมาให้ "จับฉ่าย" ตั้งแต่แรก ... โดยเฉพาะเรื่องสายวิทย์-สายศิลป์ นี่ยิ่งน่าหนักใจ เพราะมันกลายเป็นอุปสรรคเสียมากกว่า กลายเป็นการตีตราว่าคนเรียนสายวิทย์คือเด็กฉลาดนอกนั้นไม่ฉลาดเท่า กลายเป็นว่าเด็กเรียนจบสายไหนมาก็ต้องยื่นคะแนนและเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในทางที่สายนั้นอำนวย ทั้งๆที่เด็กส่วนใหญ่ยังไม่สามารถค้นพบได้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองชอบอะไรและอยากเรียนอะไรต่อกันแน่ กลายเป็นว่าพอแบ่งสายแล้วการเรียกเก็บเงินค่าบำรุงการศึกษาโดยทางโรงเรียนนั้นไม่เท่ากัน (ยังไม่นับถึงห้องเรียนพิเศษ) ทั้งๆที่ตอนออกแบบระบบบอกว่าต้องการความเท่าเทียมไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมพอเป็นเรื่องเงินทองแล้วถึงไม่เท่าเทียม และอีกหลายปัญหา (พอก่อน เดี๋ยวยาว) ยิ่งพอเป็น ม.ปลายแล้ว โรงเรียนก็พยายามจะผลักให้จบเพราะต้องรับภาระใหม่ๆเข้ามาทุกปี กลายเป็นว่าแบ่งสายไปก็เท่านั้นเพราะในระหว่างการเรียนนั้นไม่มีประสิทธิภาพ พอถึงการประเมินเลื่อนชั้นก็ไม่มีประสิทธิภาพอีก จึงมีคนเป็นอย่างที่ จขกท. บอกว่า "จบ ม.6 แล้วยังอ่านหนังสือไม่ออก" ไงล่ะ ... แถมอีกนิด จากที่ประสบมาเอง ผมบอกได้เลยว่า "ไม่มีเด็กไทยคนไหนที่ผมพบ ที่เรียนซ้ำชั้นแล้วความรู้จะแน่นขึ้นกว่าเดิม แต่ส่วนใหญ่กลับสอบผ่านอย่างกระท่อนกระแท่นเสียด้วยซ้ำไป" แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 02:29:49 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 02:29:09 จากคุณ : Draconyz เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 02:27:41

ความคิดเห็นที่ 6 ขอแชร์ประสบการณ์เล็กฯ นักเรียนที่เรียนอ่อนมาก พ่อแม่หาสถานที่เรียนใหม่ นักเรียนเป็นอีกแบบ อาจเป็นบรรยากาศการเรียน และฝ่ายบริหาร....... จากคุณ : Alone among the crowd เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 04:54:35

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ขนาดระดับชั้นที่ตัวเองควรเรียนผ่าน ยังสอบตก แล้วถ้าให้ขึ้นไปอีกชั้นที่ยากขึ้น มันจะรอดหรือคะ ประเทศที่เราอยู่ เด็กจะไม่มีการสอบ จนถึงชั้นมอสาม ถึงจะเริ่มมีการสอบ แต่ครูเขาดูเด็กค่ะ คือคลาสที่นี่เด็กน้อยกว่าที่เมืองไทยครึ่งหนึ่งได้ ถ้าไม่โหลยโท่ยจริงๆ เขาก็ให้ขึ้นชั้นต่อไป แต่บางคนไม่ไหว ครูเขาจะเรียกผู้ปกครองมาคุยตรงๆ เลยว่า ลูกยูไม่ไหวนะ ควรซ้ำชั้น ซึ่งพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็จะพาลูกไปเรียนที่อื่น เพราะเด็กอายเพื่อนๆ และการพาลูกไปเรียนที่อื่นไม่ใช่เรื่องยาก แค่พาเด็กไปที่โรงเรียนอื่น ทางโรงเรียนใหม่เขาก็ต้องรับเด็กเข้าเรียนโดยไม่มีข้อแม้ (โรงเรียนรัฐบาล) อย่างเพื่อนเรา ลูกเขามีปัญหา ตอนนั้นลูกเขาอยู่มอสาม ครูเรียกไปคุย บอกว่า ควรให้เด็กไปเรียนสายอาชีพดีกว่านะ เพราะสายสามัญไม่ไหวแน่ ยิ่งขึ้นมอสี่จะยิ่งโหดกว่านี้ ขนาดมอสามยังร่อแร่ พ่อแม่เขาก็รับฟัง แล้วก็ให้ลูกไปเรียนสายอาชีพนะ จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 05:31:31 A:122.111.4.192 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับ คห 5 ครับ ไม่เห็นด้วยกับระบบซ้ำชั้นยกแผงเหมือนกัน เพราะเด็กบางคนอาจจะมีพรสวรรค์ในด้านหนึ่ง แต่อ่อนในด้านหนึ่ง การให้ซ้ำชั้นยกแผง จะกลายเป็นว่าไปปิดกั้นความสามารถของเด็กคนนั้นไปด้วย อย่างสมมติเด็กคนหนึ่งเก่งเลขมาก แต่วิชาอื่นตกหมด ถ้าเป็นระบบซ้ำชั้นยกแผง เด็กคนนั้นก็จะต้องเรียนเลขในระดับเดิม ๆ ซ้ำไปเรื่อย สุดท้ายเด็กก็ขาดการพัฒนา กลายเป็นว่าวิชาที่ควรจะเก่งอย่างเลขก็จะอ่อนตามไปด้วย จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 15:28:54

ความคิดเห็นที่ 9 ประถมควรซ้ำชั้นในกรณีอ่านไม่ออก คำนวนไม่ได้ มัธยมไม่ควรซ้ำชั้นแต่ให้ 0 ได้และไม่จบ หรือไม่ก็ควรสอบจบด้วยความรู้พื้นฐานจริง ๆย้ำพื้นฐานจริง ๆ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 21:20:04 จากคุณ : เซียนแห่งmath เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 21:19:34

ความคิดเห็นที่ 10 ให้มาเรียนวิชาที่ตกตอนปิดเทอม น่าจะโอเค จากคุณ : อสูรกายน้อย เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 22:02:53

ความคิดเห็นที่ 11 ให้ 0 มากๆ ก็โดนผู้บริหารว่าอีก มันเศร้านัก หาว่าครูสอนยังไง บางคนมันไม่ไหวจริงๆ ก็มีนะ แบบช่วยไม่ลง ไม่เข้าเรียน ไม่เรียน งานไม่ส่ง เบื่อๆๆๆๆ สมัยก่อนนี่สมัยผมเด็กๆ ติด 0 เรื่องใหญ่มาก มันมีในทรานสคริป สมัยนี้ไม่มีแล้ว อยากติดก็ติดไป ไม่มี 0 โชว์ให้เห็น แก้แล้วก็กลายเป็น 1 หมด แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 55 04:04:36 จากคุณ : earth008 เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 04:03:17

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเป็นประถม ให้ซ้ำค่ะ ดีที่สุด อย่างน้องเรา ไม่เอาเลยเรื่องการเรียน แต่ครูก็ปล่อยมางั้นๆ ป.4 แล้วยังเขียน+ท่อง ก-ฮ ไม่ได้ วิชาอื่นไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้ซักอย่าง พึ่งมารู้ว่าเป็นหนักขนาดนี้ เพราะไม่เคยได้อยู่ด้วยกัน เราเองแยกกันอยู่กับพ่อแม่มาตั้งแต่เกิด พอกลับไปเจออีกที อึ้ง พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย ครูเขาก็ไม่สนใจ แค่มีหน้าที่มาแจ้งว่า น้องสอบได้ที่สุดท้ายของห้องนะ บอกให้พ่อแม่รับรู้แล้วก็ปล่อยขึ้นไปต่อ แต่กรณีเราก็ไม่ใช่ความผิดของครูซะทีเดียว พ่อแม่เราตามใจมันด้วยแหละ อยากเรียนก็ไปเรียน ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องไปเรียน โรงเรียนไม่ต้องหรูมาก เอาแค่โรงเรียนวัดใกล้บ้านก็พอ โรงเรียนจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ เพราะนักเรียนน้อย ครูไม่มี -*- พอย้ายไปโรงเรียนใหม่ พื้นฐานไม่มี แต่ทะลึ่งขึ้นป.4 ไปได้ตามเกณฑ์อายุ แล้วมันจะไปรอดอะไร -*- จากคุณ : Ready_NomoneyGo เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 01:40:53