PANTIP.COM : K12151876 คนญึ่ปุ่นมองคนไทยในเเง่ไหน เหมือนที่เกาหลีมองไทยแบบเหยียดๆมั้ย [ประวัติศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 19

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นมิตรกับคนไทย เพราะ

ต้องดู image ของญี่ปุ่นในโลกครับ ญี่ปุ่นในโลกนั้น นับจากผลงานสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมว่า ประเทศใหญ่ในโลกที่เสียงดังค่อนข้างไม่เป็นมิตรกับญี่ปุ่นหรือกับคนญี่ปุ่น อย่างจีน สมัยก่อนฝรั่งก็รังเกียจญี่ปุ่นกลัวอิทธิพลญี่ปุ่น เป็นเหตุให้ญี่ปุ่น ไม่ค่อยมีคนคบ ไม่มีใครชอบ เว้นแต่ ไทย ครับ

เพราะทั้งนี้ เนื่องจากความเป็นพันธมิตร ในช่วงสงครามโลกญี่ปุ่น ไม่ได้ทำอะไรโหดเหี้ยมเหมือนประเทศอื่นประการหนึ่ง ประการที่สอง ญี่ปุ่นลงทุนในไทยมาก เนื่องจากคนไทยไม่ได้รังเกียจชาวญี่ปุ่น (ผมว่าคนไทยออกจะเหยียดชาวจีนซะมากกว่าญี่ปุ่นอีก) ทำให้เค้ารู้สึกสบายใจที่จะมาอยู่หรือมาลงทุนที่นี่

มีบ้างไหมที่เค้าเห็นว่าเราด้อยพัฒนา ต้องบอกว่าใช่ เพราะคนญี่ปุ่นในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาอยู่เมืองไทยมาก่อน บางคนพอจะโดนย้ายมาทำงานเมืองไทยก็ออกอาการ แต่พอมาอยู่เมืองไทย พอจะให้ย้ายกลับ กลับฟูมฟาย ไม่อยากกลับก็มี เพราะว่า ภาพลักษณ์ของเราว่า ด้อยพัฒนาทำให้เขากลัว แต่พอเขามาอยู่แล้ว อย่างเค้ามาอยู่กรุงเทพ มีทุกอย่าง อาหารญี่ปุ่นก็มี การรักษาพยาบาล (บางโรงพยาบาลมีล่ามญี่ปุ่น ผมเคยมีแขกเป็นชาวญี่ปุ่นปรากฎว่าท้องเสียเข้าโรงพยาบาลกรุงเทพที่ภูเก็ต ก็มีล่ามญี่ปุ่น เขาประทับใจมาก เพราะเขาเป็นนักเปียโนมีชื่อของทางญี่ปุ่น ตอนแรกจะบินกลับท่าเดียว) ห้างสรรพสินค้า (ซึ่งมีแม้กระทั่งห้างของญี่ปุ่น) การดูแลเอาใจใส่ของคนไทย ทำให้เขาก็ค่อนข้างเป็นมิตร

ทั้งนี้ ต่างกับเกาหลี อันนี้ปากกัดตีนถีบ ตอนแรก ๆ ทุกประเทศให้ความสงสาร เขาสร้างประเทศขึ้นมาจากความปากกัดตีนถึบ ตอนแรกได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกา จนกระทั่งปัจจุบัน เศรษฐกิจเจริญเติบโตก้าวแกร่ง ด้วย ระบบอุปถัมภ์จากอเมริกา และการปิดตลาดตัวเอง ในบางธุรกิจอย่างรถยนต์ ทำให้เขาก้าวร้าวครับ มองใครก็เหยียดไปหมด เพราะเป็นการสร้างความรู้สึกภูมิใจในชาติเขาและสินค้าข้าวของของเขา

แต่คราวนี้มาเมืองไทย ปรากฎว่าธุรกิจใหญ่เราถูกครอบงำธุรกิจโดนญี่ปุ่น (เช่นรถยนต์เครื่องไฟฟ้า) คู่อาฆาตของเกาหลีไปหมด ผมว่าตรงนี้ ทำให้เขาก็ค่อนข้างระมัดระวังกับเรา ทั้ง ๆ ที่ไทยก็เคยส่งทหารไปรบในเกาหลี และออกอาการเหมือนว่าเราเป็นลูกไล่ญี่ปุ่นเลยออกอาการเหยียดเล็กๆ ประกอบกับประเทศนี้เหมือนเป็นโรคจิตชอบการแข่งขัน แน่นอนครับ ในระดับเครื่องไฟฟ้า รถยนต์ เขาแข่งกับญี่ปุ่น พลัดกันแพ้ชนะ ส่วนในด้านอื่นการท่องเที่ยว อาหารการแพทย์ ในเอเชียผมว่า ธุรกิจบริการไทยนี่ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน เขาก็ต้องแข่งกับเราครับ แน่นอนครับ เรื่องการแพทย์เกาหลีอาจจะเด่นเรื่องการศัลยกรรม แต่ไทยเราเองไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน เขาก็เหงื่อตกเหมือนกัน ธุรกิจโรงแรมไม่ต้องพูดถึง การแพทย์ของเราราคาถูกกว่า บริการดีกว่า ส่วนเรื่องอาหารเขาพยายามสร้างภาพ (อย่างที่ชอบ) เช่น สร้างหนังเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งคนไทยก็นิยม แต่อันทีจริง รสชาติอาหารเกาหลีไม่ถูกปากคนไทย เท่าไหร่ คนไทยเลยดัดแปลงอย่างหมูกระทะเป็นของตัวเองปรากฎว่าได้รับความนิยมไปอีก ผมไปมาเลเซีย ยังมีร้าน bar b q plaza ซึ่งคนต้องต่อแถวกันเข้าไปกินนะครับ ในขณะที่ร้านเกาหลี ดูมืด ๆ ไม่น่ากินอย่างไรไม่รู้ (ผมมีเพื่อนเกาหลี พอมาทำงานเมืองไทย ได้กินอาหารไทย เขาถึงได้บอกว่า เพิ่งรู้จักว่า "อร่อย" จริงๆ เป็นอย่างไร)

ส่วนที่เขาทำได้ดีด้านการบริการ ซึ่งรวมทั้งธุรกิจ entertainment อย่างหนังงซีรีส์เกาหลี ซึ่งผมว่า ตอนนี้ละครไทยก็มาแรง เฉพาะในตลาดจีน และอาเซียนนะ แต่ผมอยากให้เราพัฒนาไปให้มากกว่านี้อีก (และอยากให้ถ่อมตัว อย่าไปโหมข่าว เช่น จะโกยเงิน คือเหมือนเวลาเราดูหนังฟังเพลงแล้วบอกว่า เราจะโกยเงิน มันดูไม่ค่อยดี แต่ถ้าเออ ลงโรงแล้วทำรายได้ได้เยอะ อันนั้น ไม่มีใครว่า) แต่อาจจะติดที่ชาติเอเชียภาษามันเข้าใจยากกันอยู่ อย่างไรก็ตามผมว่า หนังไทยก็มาดีทีเดียว แต่รัฐต้องให้การสนับสนุนมากกว่านี้ ส่วนเรื่องการช้อปปิ้ง เครื่องสำอางค์ ผมว่า เราน่าจะพัฒนาให้มากกว่านี้ครับ ผมเชื่อว่า เราทำได้ดีในอุตสาหกรรมพวกนี้นะ แต่อาจจะต้องใชเวลาอีกนิด
แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 11:04:53

จากคุณ : bangkokguy

เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 10:44:37