ความคิดเห็นที่ 1 เราตอบไม่ได้ค่ะ ก็มีเพลย์ลิสต์กับกระทู้ เรียนภาษาอังกฤษเบื้องต้นง่ายๆ 20 กระทู้กว่าๆอะ มันเหมือนขี่จักรยานอะ โยนจักรยานให้ไป ให้ไปหัดเอง เราก็ตอบไม่ได้หรอก ต้องทำไรบ้าง เพลย์ลิสต์ก็มี 100 เพลย์ลิสต์ในนั้นอะ มีฮาวทูของเพลย์ลิสต์ให้อ่าน อ่านกระทู้ให้จบ 23กระทู้ก่อนอะ แล้ว จขกท จะเรียงลำดับความคิดได้เอง ว่าเราควรจะทำอะไร และเริ่มจากตรงไหนก่อน บอกได้เท่านี้ ทางเข้าอยู่บนกระทู้ที่ปักหมุดอะ ขอโทษนะที่เราตอบกำปั้นทุบดินมาก เพราะเราโนไอเดียจริงๆ คือเราทำอะไรด้วยตัวเองไง จะเขียนกระทู้เราก็มาคิดๆๆ ว่าจะทำไง เริ่มจากตรงไหนก่อน พอมาถามแบบ จะเริ่มยังไง มันเลยยากสำหรับเรา เพราะปกติเราจะถามตัวเอง ในกรณีนี้ แบบ เรากับ จขกท คนละไทป์กัน เราเลยไม่สามารถตอบได้ หรือคิดแทนได้ ขอโทษด้วยจริงๆ รอความเห็นถัดไป จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 16:29:06

ความคิดเห็นที่ 2 ฟัง พูด อ่าน เขียน ท่องศัพท์ ตลอดตอนที่ตื่น จะทำอย่างไร เท่าไหร่นั้น แล้วแต่ปัญหาทางด้านภาษา ความต้องการใช้งาน ความพร้อมเรื่องอุปกรณ์ หนังสือ และระดับภาษาของแต่ละคนค่ะ จากคุณ : นางสาวคานทอง เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 19:52:48

ความคิดเห็นที่ 3 เราค้นคว้าเรื่องสอนภาษาอังกฤษมาหลายปี จนรู้ทางหนีทีไล่หมดแล้ว อะไรทำได้เราบอกว่า "ทำได้" อะไรทำไม่ได้เราบอกว่า "ทำไม่ได้" ไม่อยากให้คุณผิดหวัง จะคำนวณทางหนีที่ไล่ให้คุณ 1 เดือน เอาแค่ conjugation of irregular verbs (ผันกริยา 3 ช่องที่ไม่เติม ed แต่เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตา) แค่พูดประโยคพลิกกลับไปกลับมาให้คล่อง เรียนให้ตายก็ไม่มีทางผันกริยาถูกหมด เพราะความเป็นไปได้มันเยอะมากๆ! แล้วผันพวก I, you, he, she, it, we, they me, you, him, her, it, us, them my, your, his, her, its, our, their mine, yours, his, hers, its, ours, theirs myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, themselves โดยที่ตอนผัน ต้องเปลี่ยน tenses ไปเรื่อยๆ และเปลี่ยนตัวสะกด verbs ให้เข้ากับ subjects เราขี้เกียจคำนวณจำนวน permutations (การวางเรียงสลับลำดับ) ให้ครบ ให้คุณดู แต่เชื่อว่า 1 เดือนสมองคุณบานระเบิด แหงๆ! verbs เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด แค่คุณผัน verbs ผิดคุณก็ดิ้นตายอยู่ตรงนั้นแล้ว คือ "ไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย!" ยิ่งเรียนด้วยตัวเองยิ่งยาก เพราะถ้านั่งพูดกลับไปกลับมาให้ครูฟัง ครูยังแก้ให้คุณได้ เรียนสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละ 2 ชม. 1 เดือนได้น้อยมากๆ ถ้าคิดจะเรียนวันละ 15 ชม. ทุกวัน กะหวังผล 1 เดือน ครูที่ไหนจะมานั่งสอนคุณ ค่าสอนก็บานเบอะอีกด้วย! ตอนนี้เราก็กำลังสอนนักเรียนระดับเบื้องต้นมากๆแบบคุณ จขกท เราเอา audios ให้ฟัง แล้วเราหยุดเป็นช่วงๆแล้วให้นักเรียนหัดพูดตาม แล้วให้เอาตัวอย่างประโยคง่ายๆจากในหนังสือมาให้ฝึกพูดพลิกกลับไปกลับมา จากนั้นเราขยายตัวอย่างประโยคให้เปลี่ยน tenses ไปเรื่อยๆ แค่ 3-4 tenses นี่ สอนๆไปเราเกรงใจนักเรียนกลัวนักเรียนจะเสียเงินมากๆ เราเลยเร่งนักเรียนให้ผันประโยคตัวอย่าง 5-7 ประโยค แล้วเปลี่ยน tenses ไปตั้ง 4 tenses (ตอนนี้ยังไม่สอนครบ 12 tenses หรอกเพราะกลัวนักเรียนจะบ้าตายซะก่อน) เพื่อให้ผันกริยาให้ครบ 3 ช่องจนจำได้ไม่ต้องมานั่งคิดก่อนพูด ^ นี่เป็นการสอน grammar โดยฝึกพูดไปเลย ไม่ต้องทำแบบฝึกหัด grammar ในตำราให้ปวดหัว แต่รู้ใหมว่าเกิดอะไรขึ้น? มันไปเร็วแบบนั้นไม่ได้ง่ายๆนักหรอก มันต้องหยุดเป็นช่วงๆ เพื่อแก้ไขการออกเสียงของนักเรียน เสียงในภาษาอังกฤษบางเสียงเวลาพูดทั้งประโยคให้ไหลไปตามธรรมชาติ นักเรียนในระดับต้นๆอย่าง จขกท พูดซ้ำๆกัน 15 ทียังพูดไม่ชัด คำว่า "พูดไม่ชัดนี่หมายถึง ถึงกับฟังไม่รู้เรื่องเลยนะ!" ต้องฝึกฟังฝึกพูด ฝึกผันกริยาใหม่ นี่ขนาดมีครูสอน แล้วครูสอนนักเรียนให้เก็บส่วนที่ยากให้หมดก่อน นักเรียนยังเหนื่อยแทบแย่! พอแก้การออกเสียงเสร็จกลับไปฝึกพูดพลิกกลับไปกลับมาคราวนี้เราเร่งนักเรียนให้คิดไวกว่าเดิมแล้วพูดไวกว่าเดิม ต้องกระตุ้นให้สมองสั่งงานไวๆ เราก็หวังผลไวเหมือนกัน แต่ 1 เดือนให้พูดอังกฤษคล่องเรายอมรับว่าเราไม่มีปัญญาจะสอน พอเรากระตุ้นให้นักเรียนใช้สมองคิดประโยคพลิกกลับกลับมา พอนักเรียนหยุดคิดเรากระตุ้นว่า "พูดให้เร็วกว่านี้" บางช่วงนักเรียนคิดไม่ทันแล้วอุทานออกมาว่า "พี่ๆเดี๋ยวก่อน ช้าๆหน่อย RAM ผมหมดแล้ว...ต้องไปซื้อ RAM เพิ่ม....555+++..." หมายเหตุ แต่ถ้าคุณเรียนภาษาจีน 1 เดือนพอพูดได้ เพราะ verbs ภาษาจีนไม่ผัน แล้วก็ไม่มีผันไอ้พวกบ้าๆพวกนี้   I, you, he, she, it, we, they me, you, him, her, it, us, them my, your, his, her, its, our, their mine, yours, his, hers, its, ours, theirs myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, themselves ^ แต่ก็ไม่แน่นะ ถึง grammar ภาษาจีนมันง่าย แต่ถ้าพูดไม่ดีเผลอๆฟังไม่รู้เรื่องอีก เพราะมันออกเสียงยากกว่าภาษาอังกฤษตั้งหลายเท่า! แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 23:31:35 แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 20:33:25 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 20:28:56

ความคิดเห็นที่ 4 1 เดือนเรียนได้  แต่จะได้แค่ไหน อันนี้ไม่มีใครตอบแทนคุณ จขกท ได้ แต่อยากให้เน้นทักษะการรับให้มากสุดก่อน คือ ฟัง และ อ่าน ฟังมันง่ายกว่าอ่าน  ฟังได้ไหมหล่ะ เอาแต่ภาษาอังกฤษทั้งวันทั้งคืน (เหมือนกินยาขมนะ หากไม่ชอบ) ทั้งข่าว เพลง โฆษณา รายการทีวี สัมภาษณ์ หนัง เอามันแต่ภาษาอังกฤษนี่แหละ  เพลงไทย รายการไทย หนังไทย เลิกไปเลย เลิกดูเลย หากอยากฝึกภาษาอังกฤษ แน่นอน มันก็อาจจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง  แต่คุณจะคุ้นกับเสียงเป็นหลัก ซึ่งเป็นพื้นฐานให้กับการอ่านของคุณทีหลัง ส่วน อ่าน ก็อ่านอะไรง่ายๆ สั้นๆ ก่อน เช่นโฆษณา เนื้อเพลง (สั้นแต่ไม่ค่อยง่าย) ข่าวสั้นๆ เรื่องสั้น ข่าวสั้นๆ เช่นข่าวซุบซิบ ข่าวบันเทิง ที่จริงหากอ่านอะไร ที่มันสอดคล้องกับสิ่งที่เราฟัง มันจะช่วยตอกย้ำค้ำจน ความทรงจำให้ได้มาก ที่จริงโมดุลของคณพระน่ารักที่เสนอมานั้น ก็ดีนะ หากทำตามได้ ก็น่าจะช่วยพัฒนาภาษาของคุณได้ ขอให้โชคดี และอย่าท้อถอยในการเรียนภาษาอังกฤษ  จงจำไว้ว่าการเรียนไม่ได้มีอะไรง่าย หรือยากเกินความสามารถของคนเรา จากคุณ : ปากจัดชะมัดยาด (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 22:59:16

ความคิดเห็นที่ 5 วิธีการที่เราเขียนไว้ใน คคห 3 เป็นการจัดการกับ "ด่านแรกที่ยากที่สุดในการเรียนภาษาอังกฤษ" ถ้าเปรียบกับหนังกำล้งภายในก็คือการที่ผู้ฝึกวรยุทธ์เส้าหลินต้องฝ่าด่านมนุษย์ทองคำด่านแรกนั่นเอง ในบรรดา parts of speech ทั้งหมด verb เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และ irregular verbs (กริยาที่ผันหน้าตาไปเรื่อยๆ โดยไม่เติม ed) เป็นตัวที่ยุ่งยากมากที่สุด irregular verbs มีทั้งหมดน่าจะ 300 กว่าๆถึง 400 กว่าๆ (ขึ้นอยู่กับว่าจะรวมภาษาโบราณหรือเปล่า) ถ้า conjugate irregular verbs ทั้งหมด โดยพูดและเขียนออกมาให้ครบ 12 tenses ทั้ง active sentences และ passive sentences โดยใช้ไอ้พวกนี้ให้ครบทุกตัว I, you, he, she, it, we, they me, you, him, her, it, us, them my, your, his, her, its, our, their mine, yours, his, hers, its, ours, theirs myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, themselves เพื่อฝึก subject and verb agreement ภายใน 1 เดือนรับรองว่า "ไม่มีทางเรียนได้สำเร็จแน่ๆ" เพราะจำนวน permutations (ความเป็นไปได้ในการจัดเรียงลำดับสลับไปสลับมา) มันเป็นตัวเลขขนาดใหญ่มหาศาลที่น่าตกใจมากๆ! ก่อนอื่นเอาแค่ ฝึก conjugation of irregular verbs ที่จำเป็นต้องรู้เป็นลำดับต้นๆ ซึ่งมีไม่กี่สิบตัว ไปดู list ที่นี่ http://www.engvid.com/english-resource/irregular-verbs/ จำนวน permutations ก็ยังนับว่า "มากโขอยู่" เอาแค่ conjugate irregular verbs พวกนี้ออกเป็น 4 tenses ที่ผู้คนใช้เยอะมากที่สุด เพื่อแค่ให้ผู้เรียนพูดกริยา 3 ช่องออกมาคล่องไม่มีผิดพลาด (ยังไม่ต้อง conjugate irregular verbs ถึง 12 tenses ทั้ง active sentences และ passive sentences ให้ผู้เริ่มเรียนหนักสมอง) แค่ที่ว่านี้ 1 เดือนก็แสนจะยากที่จะ conjugate irregular verbs พวกนี้ ให้ถูกรูปแบบ 4 tenses ในหลายๆประโยคที่พลิกแพลงไปเรื่อยๆ โดยให้องค์ประกอบของประโยคแต่ละประโยคไม่ขาดไม่เกิน และผู้เรียนออกเสียงภาษาอังกฤษได้ถูกต้องครบถ้วน ก็นับว่างานหนักมากๆ ^ ที่ว่างานหนักมากๆ เพราะขณะนี้เราก็กำลังสร้าง dialogues ใหม่ๆพลิกแพลงขึ้นมา เป็นบทสนทนาให้นักเรียน conjugate irregular verbs เพื่อใช้ในการเรียนการสอน grammar โดยการพูด แทนการทำแบบฝึกหัด grammar เป็นข้อเขียน  เรายังเหนื่อยเลย ขนาดมีครูเก่งๆสอนก็ยังอาจทำไม่สำเร็จภายใน 1 เดือนก็ได้เพราะสมองคนมันจำข้อมูลเยอะขนาดนั้นไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าผู้เรียนจะมี photographic memory ก่อนเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ^ ขนาดนี่ยังไม่ได้เรียนเรื่องอื่นอีกตั้งมากมายนะ ยังเจอ permutations มากขนาดนี้!  ยิ่งจะหวังเรียน writing ระดับใช้งานได้ภายใน 1 เดือน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ มีคนหลายคนถามปัญหาเรื่องจะเรียนรู้ได้แค่ไหนภายในกำหนดเวลาที่ให้ไว้ แล้วเน้นเหมือน จขกท ว่า "ขอความกรุณาอย่าตอบว่าภาษาอังกฤษไม่สามารถฝึกได้โดยใช้เวลาแค่ 1 เดือนนะคะ..." ^ แนวคิดเช่นนี้ของผู้เรียนทำให้มีคนเขียนหนังสือที่กล่อมคนอ่านว่า "ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว" หรือเขียนว่า "แค่เอาเสียงภาษาอังกฤษมาเปิดฟังตอนนอนก็พูดอังกฤษได้แล้ว...555+++..." ถึงทำเงินจากการเขียนหนังสือได้มหาศาล เพราะเป็นกลยุทธ์ตลาดระดับเทพที่ "ทำให้ผู้เรียนส่วนใหญ่โปรดปรานมากๆ" ^ ปัญหาในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจึงตามมาอย่างไม่หยุดยั้ง เนื่องจากว่า "ผู้เรียนไม่เคยได้รับการสอนว่าส่วนที่ยากของภาษาอังกฤษมันอยู่ตรงไหน" เวลาเราสอนภาษาอังกฤษเราไม่อยากทำให้นักเรียนฝันเฟื่องโดยการพูดว่า "ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว" แต่เราบอกว่า "ความยากของภาษาอังกฤษมันอยู่ที่ตรงไหน และเราจะจัดการกับมันอย่างไร จึงจะพิชิตมันได้แบบถอนรากถอนโคนโดยเร็วที่สุด" สรุป เราแนะนำว่าให้ จขกท ลองฝึก conjugation of irregular verbs แค่ ไม่กี่สิบตัวจาก ที่นี่ให้ได้ก่อน http://www.engvid.com/english-resource/irregular-verbs/ แต่จะสร้าง dialogues เพื่อฝึกพูด หรือแม้กระทั่งฝึกเขียนให้ถูกต้อง ออกมาเป็น tenses ต่างๆได้อย่างถูกต้องนั้น ถ้าเรียนด้วยตัวเองก็คงต้องไปซื้อตำรา grammar มาเปิดดู เราไม่อยากแปะ dialogues ที่เราสร้างไว้จำนวนมาก เพราะมันเยอะมากๆ สร้างไว้ให้นักเรียน improvise (คือเอาตัวอย่างประโยคไปพูดดัดแปลง verb, subject, object และ modifier) ในการเรียน grammar ระดับพื้นฐานกับเรียน conversation ไปพร้อมๆกัน เพื่อปูพื้นไว้เตรียมเรียน reading comprehension กับ writing  แปะไว้หละคนอ่านตาลายแน่ๆ แต่ที่คิดเล่นๆขำๆก็คือ "แปะไปหละหวานหมูติวเตอร์ภาษาอังกฤษแน่ๆ เพราะกว่าจะคิดเองได้หมดนี่ ใช้เวลานานมากๆ" แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 10:12:50 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 10:08:31

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ จะนำไปปฏิบัิติอย่างเคร่งครัดค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม จากที่ตั้งกระทู้ไว้ ไม่ได้หมายความว่าจะฝึกให้เก่งภายใน 1 เดือนนะคะ เพียงแต่อยากให้ช่วยแนะนำเท่านั้นว่า ในช่วงเวลาที่เราว่างจริงๆ 1 เดือนเนี่ย ควรทำอะไร หรือฝึกส่วนไหนให้หนักๆ แบบคุ้มค่ากับเวลา 1 เดือนนั้น เพราะหลังจากนั้น เราจะเริ่มรู้ทางหนีทีไล่ แล้วก็จะจัดสรรเวลาฝึกใ้ห้สม่ำเสมอต่อไปน่ะค่ะ ชอบแนวคิดของคุณ fortuneteller ด้วยค่ะ เห็นเขียนว่า "ไม่อยากแปะ dialogues ที่สร้างไว้จำนวนมาก" ไม่ทราบว่าจะขอแบ่งปันได้หรือไม่คะ รับรองว่าใช้เพื่อศึกษาจริงๆ ไม่ไปถึงมือติวเตอร์แน่นอนค่ะ จากคุณ : KHUNHUB เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 22:24:26

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องจ่ายตังค์กันกระมัง  มาขอดื้อๆอย่างงี้คงยากนะ   อันที่จริงในยูทุป ก็มีเยอะแยะ ลิงค์ของคุณพระน่ารัก ก็เคยแนะไว้ให้ก็ไม่น้อย จากคุณ : ปากจัดชะมัดยาด (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 23:21:04

ความคิดเห็นที่ 8 dialogues ที่เราทำไว้ อยู่ดีๆมาดูมันงงเพราะมันแตกกระจายออกไปเยอะแล้ว ต้องสอนอะไร basic กว่านั้นไว้ก่อนหน้า ถ้าเรียนด้วยตัวเองนะ แนะนำให้หาใน youtube มีบานเบอะเลย ลองดู video อันนี้ เป็นเรื่อง tenses ถึงจะยกตัวอย่างด้วย regular verbs แต่หลักการก็เหมือน irregular verbs อันนี้ เป็นการเริ่มต้นจากลำดับแรกๆเลย แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 55 11:11:29 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 11:10:36

ความคิดเห็นที่ 9 คุณปากจัดฯ คะ ด้วยความเคารพนะคะ ใจจริงไม่ได้คิดจะขอกันดื้อๆ หรอกค่ะ แค่เห็นว่าคุณหมอดูเขียนว่า "เราไม่อยากแปะ dialogues ที่เราสร้างไว้จำนวนมาก....." เลยตีความว่า ไม่อยากแปะเพราะมันเยอะ, ยุ่งยาก หรือมันจะหวานหมูติวเตอร์ แต่ใจจริงนั้นอาจจะให้ดูเป็นตัวอย่างได้  เลยเอ่ยคำขอดูเท่านั้นล่ะคะ หากไม่ได้หรือไม่ให้ เราก็ไม่เสียใจหรือโกรธแค้นอะไรหรอกค่ะ เข้ามาอ่านกระทู้ในห้องนี้บ่อยๆ ก็ได้ประโยชน์อย่างมหาศาลแล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะคะ จากคุณ : KHUNHUB เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 13:41:06

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ^ ไม่เป็นไรหรอก นิดๆหน่อยพอแบ่งปันกันได้ แนวคิดของเราก็คือว่าแทนที่จะให้นักเรียนท่อง go went gone หรือ do did done อะไรแบบนี้ ซึ่งเราเคยโดนสอนให้ท่องมาแล้วตอนเด็กๆ แต่ปัญหาก็คือกลายเป็นเราฟังไม่รู้เรื่องกับพูดไม่ได้ เราก็เลยคิด dialogues ที่มันใช้ได้ในชีวิตจริงให้นักเรียนลองผันดู  ยกตัวอย่างเช่นอันนี้ A: What do you like to do? B: I like to eat noodle. (eat ช่อง 1) I eat noodle nearly everyday. (eat ช่อง 1) I ate noodle yesterday.  (eat ช่อง 2) I'm going to eat noodle tomorrow. (eat ช่อง 1)   I've eaten noodle ten times already this week. (eat ช่อง 3) A: What don't you like to do? B: I don't like to eat noodle. (eat ช่อง 1) I hardly eat noodle. (eat ช่อง 1) I ate noodle ten years ago. (eat ช่อง 2) I've eaten noodle too many times already this week. (eat ช่อง 3) I'm not going to eat noodle again in my life. (eat ช่อง 1) ^ เห็นไหม ผันกริยาครบ 3 ช่องเลยหละ! ต่อไปก็ให้นักเรียนลองผันอันนี้ดู grandma (subject) take a walk in the park (คราวนี้ผัน verb take) จะผันได้ถูกก็ต้องเปลี่ยน verb ให้เข้ากับ subject คือ grandma นั่นเอง ซึ่งเป็นการสอน subject and verb agreement ในระดับเบื้องต้นไปเลย ซึ่งในระหว่างที่นักเรียนผันไปนั้น จะมี pronunciation drill ไปด้วย คือการให้นักเรียนฝึกออกเสียงส่วนที่ออกเสียงยากโดยการฟังแล้วออกเสียงตามไปซ้ำๆกัน ซึ่งถ้ายังออกเสียงผิด ก็จะต้องมีการออกแรงสอนว่าต้องใช้อวัยวะในการออกเสียงส่วนใหนอย่างไรตามหลักวิชา phonetics ไอ้ pronunciation drill นี่หละตัวกินเวลาเยอะสุดๆ เพราะอย่างที่บอกไว้แล้วว่านักเรียนในระดับพื้นฐานกว่าจะพูดซ้ำๆกันจนพูดถูกต้องฟังรู้เรื่องก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะถ้าไม่แก้ไข pronunciation แล้วปล่อยให้พูดไปเรื่อย บางทีมันถึงกับฟังไม่รู้เรื่อง   ส่วนเรื่อง dialogues นั้น ตอนนี้เราพยายามสร้างขึ้นมาใหม่ๆให้มันพลิกแพลงขึ้นเรื่อยๆ และนำไปใช้งานในชีวิตจริงได้ด้วย ที่เรียกว่า (situational dialogues) แต่ไม่ได้แปะส่วนที่เหลือให้ดู เพราะมันเยอะมากๆ วันๆต้องมานั่งคิดเรื่องพวกนี้เพื่อพยายามสอนนักเรียนในระดับ low level ให้ได้ผลเร็วที่สุด แต่ 1 เดือนคงสอนไม่ได้มากนักหรอก (ถ้าถ้าสอนมากอัดแน่นเกินไปกลัวว่านักเรียนจะเครียดตายซะก่อน) ตามที่อธิบายไปแล้วว่าจำนวน permutations มันออกมาเป็นตัวเลขมหาศาล! พวกเรามักจะเห็นโฆษณาแบบนี้บ่อยๆว่า "เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษ รับรองว่าเรียนภาษาอังกฤษจากไม่กระดิกหูเลยแล้ว 1 เดือนพูดได้ปร๋อเลย" ^ 555++++ พูดเป็นเล่นไปน่ะ อยากให้ลองมาสอนให้เราดูสักหน่อยดิว่ามันจะเป็นไปได้ยังไงกัน...!!!?? ถ้าพูดได้แค่ yes, no, ok, thank you หรืออะไรประมาณนี้ ก็ไม่นับว่า "พูดได้ปร๋อ" อะนะ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 55 15:03:10 แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 55 14:38:44 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 14:32:28

ความคิดเห็นที่ 11 คลิปใน คห*8 ของอิงวิดเรามีแปลนะ แต่ขี้เกียจหา อยู่ในเฟซเราน่ะ ทางเข้าอยู่ในลอกอิน *9 คหสต เรานะ ถ้าจะขอกันง่ายๆงี้ คุณคงต้องแสดงฝีมือหน่อยกระมัง ว่าคุณเป็นใครทำอะไร ตั้งใจแค่ไหน จะไว้ใจได้ไงว่าเอาไปแล้วจะตั้งใจเอาไปพัฒนาตัวเองจริงๆ คิดว่าน่าจะต้องแสดงอะไรให้เห็นบ้างน่ะ คหสตนะ เพราะสมัยนี้ บทเรียนความรู้ภาษาไทย ที่สอนภาษาอังกฤษมีอยู่เยอะมากรอบตัวเราน่ะ เราเสิร์ชผ่านๆก็เจอบ่อยๆ แต่งงว่า นอกจากอะไรที่เสพง่ายๆทำง่ายๆ ของ่ายๆแล้ว ไอ้บทยากๆ เช่นความสม่ำเสมอ, ขวนขวาย,ความพยายาม, ความอดทนน่ะ มีมากรึเปล่า "เราเสิร์ชผ่านๆก็เจอบ่อยๆ" เราไม่เคยเซฟของเว็บภาษาไทยเก็บไว้ เราไม่มี ไม่ต้องมาขอเราจ้า แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 05:08:33 แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 05:05:01 จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 01:39:58

ความคิดเห็นที่ 12 เอามันเข้ามาในชีวิตประจำวันค่ะ ฟัง พูด อ่าน เขียน คิด ภาษาอังกฤษไปด้วยเลยค่ะ ไม่ว่าจะทำอะไร ใช้ภาษาอังกฤษให้หมด อย่าไปคิดว่า แค่ภาษาไทยยังคิดไม่ออกเลย  ลองพยายามดูค่ะ จากคุณ : ที่รักของพระอาทิตย์ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 23:40:58