ความคิดเห็นที่ 1 ^ จ่ายเงินหรือเปล่า? ถ้าจ่ายเงินคงจะมีคนติดต่อไป เราว่าคงไม่มีใครอุตส่าห์ติดต่อคุณหลังไมค์เพื่อเสนอบริการทำงานฟรีหรอก นักแปลฝีมือดีๆคิดค่าตรวจงานแปลแพงกว่านักแปลระดับหางแถวคิดค่าแปลซะอีก แต่ถ้าคุณแปะข้อความไว้ในนี้ คนที่ช่วยคุณถึงทำงานฟรีก็ยินดีเพราะคนอื่นๆอีกหลายๆคนก็ได้ประโยชน์ ดังนั้น ถ้าต้องการบริการดีๆโดยเป็นการส่วนตัว ก็โปรดระบุให้ชัดเจนว่า "เป็นการว่าจ้าง" จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 20:56:43

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ จขกท บอกว่า "ไม่อยากโพสในนี้ เพราะเคยมีคนก็อปปี้ มันเป็นงานที่ต้องส่ง" ^ ถามหน่อยว่า "ใครกันแน่ที่ก็อปปี้" คุณ จขกท ส่งข้อความภาษาอังกฤษพร้อมคำแปลภาษาไทยหลังไมค์ไปให้เราตรวจ เราอ่านผ่านๆดูเห็นคุณแปลผิดเพียบเลย แต่เราไม่ได้ตรวจให้ แล้วแนะนำให้คุณเอาคำถามไปแปะในห้องรวม จะได้มีหลายๆคนช่วยๆกันดู และผู้อื่นก็จะได้รับประโยชน์ด้วย แล้วเราใช้ google  ค้นข้อความภาษาอังกฤษของคุณ พบว่าคุณลอกมาจาก wiki ทั้งดุ้นเลย เอามาแปลเป็นไทย แล้วแปลผิดไปคนละเรื่องกันเลย แล้วคุณดันบอกว่า "ไม่อยากโพสในนี้ เพราะเคยมีคนก็อปปี้ มันเป็นงานที่ต้องส่ง" ตกลงคุณเรียนการตลาดใช่ใหม? แล้วต้องทำงานส่งอาจารย์ แต่คุณไปลอกบทความจาก wiki มาแปลส่งอาจารย์ แล้วแปลผิดไปกันคนละเรื่องเลยหละ จริงๆแล้วมันก็มีคนที่ทำแบบคุณเยอะมากๆ แต่พวกเขายอมเสียเงินนะ เคยมีนักศึกษาว่าจ้างเราให้เราลอกข้อความจาก  websites ฝรั่งเป็นจำนวนตั้งมากมาย (เป็นร้อยๆหน้า) เพื่อเอามาเขียนใหม่ดัดแปลงให้เป็นวิทยานิพนธ์ส่งอาจารย์ แล้วเราก็ทำได้สำเร็จด้วย เพราะอาจารย์จับไม่ได้เลย เนื่องจากว่าเราอ่านจับใจความแล้วเขียนใหม่หมด แล้วสอดแทรกความคิดเราเข้าไป แต่งานนั้นเรารับค่าจ้างไปเป็นเงินค่อนข้างมากอยู่นะ ซึ่งมันก็คุ้มเพราะมันทำให้นักศึกษาเรียนจบปริญญาโท จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 22:12:28

ความคิดเห็นที่ 3 เอ่อคุณ fortuneteller  เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ อ.ถามว่า ศัพท์นี้แปลว่าอะไร เราก็ไปหาใน google ว่ามันคืออะไร แต่คำแปลมันเป็นภาษาอังกฤษ เราก็แปลออกมาเป็นภาษาไทย แล้วส่งให้คุณดูว่าเราแปลถูกมั้ย แบบนี้เรียกว่า copy หรอคะ ก่อนจะกล่าวหาอะไรเรา ช่วยดูก่อนนะคะ เราเสียหาย ที่เราส่งอาจารย์เราส่ง ภาษาไทย ไม่ได้ส่งภาษาอังกฤษ โปรดเข้าใจซะใหม่คะ อ.เค้าถามความหมายว่า ศัพท์คำนี้แปลว่าอะไร ไม่ได้ให้วิเคราะห์อะไรเลย เหอะๆ จากคุณ : vaio_vaio เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 22:27:06

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าอาจารย์ถามศัพท์ก็อ่านให้เข้าใจแล้วอธิบายให้อาจารย์ฟังดิ ไปนั่งแปลให้เสียเวลาทำไม แล้วถ้าแค่ต้องให้นิยามศัพท์กับอาจารย์เฉยๆ (ไม่ใช่งานส่งเอาคะแนนเหมือนที่คุณอ้างว่า "ไม่ใช่") แล้วทำไมคุณถึงต้องกลัวคนก็อปปี้ด้วย? เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ถ้าแบ่งปันให้เพื่อนๆบ้างไม่ได้ก็ไปตรวจคำแปลเอาเองก็แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 22:47:19 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 22:46:27

ความคิดเห็นที่ 5 อ้าว เราไมไ่ด้เก่งอักฤษหนิคะ ถ้าเราไม่แปลก่อน เราจะรู้ได้ยังไงว่ามันคืออะไร ยังไง ก็งานนี่แหละคะเป็นคะแนน อ.บอกศัพท์ทางการตลาดมา แล้วให้แปล ให้มาหลายๆคำ งงว่าผิดอะไร อยู่ดีๆมาโดนคุณด่า เหอะๆ เอ่อถ้าเรากอปที่แปลมาค่อยมาด่าเรา แต่นี่เรานั่งแปลเองนะคะ แต่กลับมาโดนด่า ปล.ถ้าคุณไม่อยากตรวจให้ก็ไม่เป็นไรคะ มีคนหลังไมค์มาหาเราละ เรางงมากนะเราทำอะไรผิด แค่เราแปลศัพท์จากบทความในเน็ต แต่หาว่าเราก็อปปี้มา ถ้าเราไม่หาจากเน็ตเราจะรู้ได้ยังไงว่าศัพท์คำนี้แปลว่าอะไร แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 22:51:15 แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 22:49:28 จากคุณ : vaio_vaio เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 22:48:18

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อความนี้ "อ้าว เราไมไ่ด้เก่งอักฤษหนิคะ" ^ คุณต้องไปบอกอาจารย์คุณ ไม่ใช่มาบอกเรา คุณควรทำตัวเป็นคนซื่อสัตย์โดยการรับสารภาพกับอาจารย์ไปตรงๆเลยว่า "แปลไม่ได้" แล้ว "ขอร้องให้อาจารย์สอนเป็นภาษาไทย" นักศึกษาทุกคนจะได้รีบๆเรียนเนื้อหาที่ควรเรียนรู้ ไม่ต้องมาเสียเวลาแปลนิยามศัพท์ตั้งมากมาย การพูดตรงๆน่าจะทำให้อาจารย์ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การสอนได้ เพราะหลักสูตรนี้ไม่ใช่หลักสูตรการแปล มาให้นั่งแปลอะไรกันตั้งมากมายเสียเวลาเปล่าๆ  ยิ่งแปลไปก็มีผลเสีย เพราะแปลผิดเยอะมากๆกลายเป็นเรียนรู้อะไรผิดๆ "แต่ถ้ามีคนคอยแก้คำแปลให้ตลอดมันก็จะทำให้ อาจารย์ให้คะแนนคุณผิดพลาด เพราะมันไม่ใช่ฝีมือคุณแปลเอง" กลยุทธ์การเรียนการสอนแบบนี้ใช้ไม่ได้ มันเหมือนกับเล่นปาหี่ หรือเล่นละครตบตากัน แทนที่จะมาตีแผ่กันแบบเปิดอกว่ามันมีคนอ่านภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง จึงสมควรเลิกให้การบ้านแปลได้แล้ว เพราะแปลไปอาจารย์ก็ให้คะแนนผิด เนื่องจากนักศึกษาไม่ได้ส่งผลงานแปลตัวเองไปรับคะแนน แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 23:27:10 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 23:19:36

ความคิดเห็นที่ 7 คะแล้วแต่คุณเถอะคะ ที่เราหลังไมค์ไป ให้ดูคือเรากลัวคุณเข้าใจผิด เราเลยส่งไป แต่ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ ตอนนี้เราก็งงอยู่นะว่าเราผิดอะไร เราไม่เก่งอังกฤษแต่เราก็พอแปลได้ ไม่งั้นที่เราส่งไปเราจะเอามาจากไหน ? ช่วยเข้าใจนิดนึงนะคะ ถ้าเข้าใจแล้วก็ควรจะกล่าวขอโทษเราด้วยนะคะ รอฟังอยู่ ลองถามคนในห้องนี้ก็ได้ ถ้าอ.ให้ศัพท์คุณมา แต่ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร คุณจะ search จากเน็ต มั้ยว่าศัพท์นั้นมันแปลว่าอะไร แล้วพอเจอมันเป็นอังกฤษ เราก็เอาที่เจอ มาแปลเป็นไทย แบบนี้เรียกว่า copy หรอคะ คุณยังไม่ยอมรับอีกหรอคะว่าคุณผิด แล้วที่เราส่งไปให้ คุณหนะ เป็นสิ่งที่เราแปลเอง แล้วพูดมาได้ยังไง ว่าเราไม่ได้แปลเอง แล้วขอโทษด้วยนะมีคนหลังไมค์มาหาเราบอกว่าเราแปลถูกแล้ว แต่ทำไมคุณบอกว่าเราแปลผิดหละ หรือว่ากลัวเสียหน้า ?? แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 23:35:43 จากคุณ : vaio_vaio เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 23:30:19

ความคิดเห็นที่ 8 คุณพูดว่า "แล้วขอโทษด้วยนะมีคนหลังไมค์มาหาเราบอกว่าเราแปลถูกแล้ว แต่ทำไมคุณบอกว่าเราแปลผิดหละ หรือว่ากลัวเสียหน้า ??" ^ คนอย่างเราหรือกลัวเสียหน้า? เราทำงานปลระดับมืออาชีพมานานเผลอๆจำนวนปีเกินกว่าอายุคุณซะอีก คุณบอกว่าคุณแปลถูกแล้วงั้นหรือ?   เรามาดูกันให้รู้ดำรู้แดง เอ้าแปะภาษาอังกฤษกับคำแปลของคุณ ที่คุณส่งมาหลังไมค์ ให้ดู เพื่อพิสูจน์ High-low pricing (or hi-low pricing) is a type of pricing strategy adopted by companies, usually small and medium sized retail firms. It is a type of pricing where a firm charges a high price for an item and later sell it to customers by giving discounts or through clearance sales. The basic type of customers for the firms adopting high-low price will not have a clear idea about what a product's price would typically be or must have a strong belief that "discount sales = low price" or they must have strong preference in purchasing the products sold in this type or by this certain firm. ราคาสูง-ต่ำ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัท ที่ปกติแล้ว จะใช้กับสินค้าที่ปริมาณน้อยหรือ ขนาดกลาง เป็นราคาที่สามารถตั้งเป็นราคาที่สูงเพื่อเพื่อมมูลค่าเพิ่มได้ หรือ สามารถนำมาลดราคาได้ในภายหลังหรือ ลดล้างสต๊อค โดยทั้วไปแล้วผู้บริโภค จะไม่คำนึกถึงว่าของสิ่งนั้น ปริมาณมากน้อยแค่ไหน ราคาสูงหรือ ราคาต่ำ เพียงแต่เชื่อว่า สินค้านั้น ลดราคา และราคาถูก เพื่อจ่ายน้อยที่สุด สำหรับการจับจ่าย High-low pricing (or hi-low pricing) is a type of pricing strategy adopted by companies, usually small and medium sized retail firms. ราคาสูง-ต่ำ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัท ที่ปกติแล้ว จะใช้กับสินค้าที่ปริมาณน้อยหรือ ขนาดกลาง ^ คำว่า "สินค้าที่ปริมาณน้อยหรือ ขนาดกลาง" แปลมาได้ไง? มันมาจากไหน? It is a type of pricing where a firm charges a high price for an item and later sell it to customers by giving discounts or through clearance sales. เป็นราคาที่สามารถตั้งเป็นราคาที่สูงเพื่อเพื่อมมูลค่าเพิ่มได้ หรือ สามารถนำมาลดราคาได้ในภายหลังหรือ ลดล้างสต๊อค "เพื่อมมูลค่าเพิ่มได้"  แปลมาจากอะไร? The basic type of customers for the firms adopting high-low price will not have a clear idea about what a product's price would typically be or must have a strong belief that "discount sales = low price" or they must have strong preference in purchasing the products sold in this type or by this certain firm. โดยทั้วไปแล้วผู้บริโภค จะไม่คำนึกถึงว่าของสิ่งนั้น ปริมาณมากน้อยแค่ไหน ราคาสูงหรือ ราคาต่ำ เพียงแต่เชื่อว่า สินค้านั้น ลดราคา และราคาถูก เพื่อจ่ายน้อยที่สุด สำหรับการจับจ่าย will not have a clear idea about what a product's price would typically be จะไม่คำนึกถึงว่าของสิ่งนั้น ปริมาณมากน้อยแค่ไหน ^ อย่างนี้หรือเรียกว่า "แปลถูก" มันไปกันคนละเรื่องเลย ดำน้ำชัดๆ คำว่า "ปริมาณมากน้อย" เอามาจากไหน? ....................................................................... ที่คุณบอกว่า "เราไม่เก่งอังกฤษแต่เราก็พอแปลได้ ไม่งั้นที่เราส่งไปเราจะเอามาจากไหน ?" ^ โม้ไปเรื่อย คุณยังอ่านไม่รู้เรื่องเลย แล้วจะแปลได้ไง ไอ้ที่แปลผิดและส่งไปแล้วอาจารย์ไม่แก้ให้คุณหรอกหรือ? หรือว่าคุณไปไหว้วานคนอื่นแก้ให้แล้ว แล้วก็อาจารย์เลยให้คะแนนคุณผิด เพื่อประโยชน์แก่ตัวคุณเอง เชื่อเราเหอะไปรับสารภาพกับอาจารย์ซะดีๆว่าคุณอ่านภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง และขอร้องว่าให้อาจารย์สอนเป็นภาษาไทย แล้วเลิกให้การบ้านแปล เพราะมันทำให้คุณเรียนรู้อะไรผิดๆมาโดยตลอด มันเป็นกลยุทธ์การเรียนการสอนที่แย่มากๆ! แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 00:06:24 แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 23:59:02 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 23:57:03

ความคิดเห็นที่ 9 คุณจะให้เราขอโทษคุณงั้นหรือ? ไม่คิดว่าตัวเองถืออภิสิทธิ์มากไปซะแล้วหรอกหรฺือ แรกเริ่มคุณเข้ามาขอให้คนตรวจงานแปลให้ฟรีๆ เท่านั้นไม่พอยังเบ่งมากๆบอกให้คนที่จะช่วยฟรีๆต้องหลังไมค์ไปหาคุณ ถามจริงๆนี่ตลกบริโภคหรือเปล่า? จากนั้นคุณก็ละลาบละล้วงส่งภาษาอังกฤษกับคำแปลที่สุดจะเละดูไม่ได้มาให้เราหลังไมค์ แล้วยัดเยียดให้เราตรวจให้คุณฟรีๆ คุณไม่คิดจะขอโทษเราบ้างหรอกหรือที่ "ไม่มีมารยาทในการขอร้องให้คนช่วย" แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 00:05:18 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 00:04:26

ความคิดเห็นที่ 10 โอ้ยพอเถอะคะ แค่2บรรทัดนี่นะคะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า เราบอกให้ใครเก่งENG ให้มาเม้นกระทู้เราจะหลังไมค์ไป แล้วพอดีุคุณมาเม้นตอบคำถามเรา คห1 ว่าคุณเข้าใจผิด เราเลยส่งไปให้ดูว่าเราต้องการอะไร แค่ันั้น แต่คุณมาหาว่าเรา copy งาน ช่วยบอกหน่อยเหอะว่า copy ตรงไหนไม่ทราบ เราไม่ได้ให้คุณตรวจให้เลยนะ เราแค่ส่งไปบอกว่าสิ่งที่เราต้องการคือให้ตรวจ แค่นั้นแหละคะ ปล.ใครกันแน่ที่ไร้มารยาท ปากก็บอกว่าไม่ได้อ่านที่เราแปล ที่พืมพ์มาว่าเราแปลผิดหมด เพลียกับคนประเภทนี้จริงๆ เราไม่ได้บอกนะคะว่าเราแปลถูกทุกคำไม่งั้นจะขอความช่วยเหลือทำไม เซ็งจริงๆขอบคุณทุกๆคนที่หลังไมค์มาให้กำลังใจคะ เข็ดแล้วจริงๆ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 00:24:59 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 00:23:42 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 00:22:02 จากคุณ : vaio_vaio เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 00:21:03

ความคิดเห็นที่ 11 เอาเป็นว่าเราขอโทษแล้วกันนะคะ อารมณ์เราเ็ย็นละ จะได้จบๆๆ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 00:40:07 จากคุณ : vaio_vaio เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 00:28:51

ความคิดเห็นที่ 12 เอ้าเราขอโทษนะที่เข้าใจผิดเรื่องคุณลอกงานไปส่งอาจารย์ เอาหละ เราจะช่วยแก้คำแปลให้แล้วนะ ลองอ่านดู High-low pricing (or hi-low pricing) is a type of pricing strategy adopted by companies, usually small and medium sized retail firms. High-low pricing (or hi-low pricing)เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการตั้งราคา บริษัทต่างๆซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นบริษัทค้าปลีกขนาดเล็กและขนาดกลางจะนำกลยุทธ์อันนี้มาใช้ It is a type of pricing where a firm charges a high price for an item and later sell it to customers by giving discounts or through clearance sales. High-low pricing เป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการตั้งราคาโดยที่บริษัทเรียกราคาสินค้ารายการใดรายการหนึ่งให้สูงเข้าไว้ แล้วก็นำสินค้ารายการนั้นมาขายให้ลูกค้าในภายหลังโดยการให้ส่วนลดหรือโดยการขายลดราคากระหน่ำเพื่อล้างสต๊อกสินค้า The basic type of customers for the firms adopting high-low price will not have a clear idea about what a product's price would typically be or must have a strong belief that "discount sales = low price" or they must have strong preference in purchasing the products sold in this type or by this certain firm. ลูกค้าระดับพื้นฐานของบริษัทที่ใช้กลยุทธ์ high-low price จะไม่รู้แน่ชัดเลยว่าโดยปกติแล้วผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่งจะต้องมีราคาค่างวดสักเท่าไหร่กันแน่ หรือไม่ลูกค้าเหล่านั้นก็ต้องเชื่ออย่างหัวปักหัวปำว่า "การขายลดราคา = ราคาต่ำ" หรือไม่ลูกค้าเหล่านั้นก็ต้องมีความโปรดปรานอย่างแรงกล้าในการที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆซึ่งขายในลักษณะนี้หรือขายโดยบริษัทนี้เป็นการเฉพาะเจาะจง สรุปสั้นๆ High-low pricing strategy ก็คือกลยุทธ์ในการตั้งราคาสินค้าให้สูงลิ่วเกินกว่าปกติเข้าไว้เพื่อลักไก่ลูกค้า แล้วถ้าขายไม่ออกก็ค่อยลดราคาให้ทีหลัง ^ เอ่อเราต้องไปบอกแฟนเราเรื่องนี้เพราะเธอชอบซื้อสินค้าพวกนี้นักเชียว...555+++... ...เข้ามาแก้สะกดผิดที่หนึ่ง แก้ไปแล้ว... แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 22:00:00 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 14:29:12

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากคะ เมื่อวานต้องขอโทษด้วยนะคะเราก็อารมณ์ร้อน จากคุณ : vaio_vaio เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 18:35:36

ความคิดเห็นที่ 14 เฮ้อ!!!!ตกลงจะช่วยกัน หรือจะเถียงกัน....ผ่านมา งง..... จากคุณ : เมืองเดิม เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 19:04:16

ความคิดเห็นที่ 15 ..ถอยกันคนละก้าว เริ่มต้นเจรจากันใหม่ ทางออกที่ดีวิธีหนึ่งในการแก้ไขข้อขัดแย้ง ขออนุโมทนา น่าจะให้ใครต่อใคร่ที่เยิ้วๆอยู่แถวลานพระรูปได้มาอ่านเนอะ เผื่อได้ไอเดีย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 20:40:36

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ จขกท โปรดทำใจให้สบายๆได้ เราทำศึกน้ำลายกับผู้คนมามากในกระทู้ pantip เพราะเราแสดงความเห็นแบบแหกคอก แต่เราก็ไม่เคยอาฆาตมาดร้ายใคร แนะนำว่าให้ลองไปอ่านข้อความนี้เรื่องประเภทของลูกค้า http://sbinfocanada.about.com/od/customerservice/a/customertypesmh.htm จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:04:40

ความคิดเห็นที่ 17 happy ending จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 11:59:48

ความคิดเห็นที่ 18 จะมาช่วยตอบดูว่ามีอะไรให้เราช่วยได้บ้าง ดันมาเจอดราม่าซะงั้นนน เลื่อนลงมาเรื่อย ๆ กลับเป็น happy ending ซะงั้น แต่ก็ดีครับ ปรับความเข้าใจกันได้ จากคุณ : ทีมคุง เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:07:20

ความคิดเห็นที่ 19 เคยช่วย จขกท เหมือนกัน เรืองการตลาดนี่แหละ จขกท แปลเอง ถ้าจำไม่ผิดเรื่อง Disneyland HK แต่แปลผิด เพราะอ่านภาษาอังกฤษไม่แตกฉานพอ จขกท ผมว่า ก็พออ่านอัีงกฤษได้ แต่ประสบการณ์การอ่านยังน้อยอยู่ และความรู้ที่จะเป็นพื้นฐานก็ยังไม่มี แต่ถ้าไม่ย่อท้อ วันหนึ่งก็คงจะอ่านได้แตกฉานแบบไม่ผิดอีก ขอแต่อย่าละความพยายาม ผมคิดต่างกับ fortuneteller ที่ อจ ให้งานมาแบบนี้ เพราะตำรา marketing มันจากเมืองนอก ศัพท์ต่างๆ concept ต่างๆ มันภาษาอังกฤษทั้งนั้น ถ้าพื้นฐานพวกนี้ไม่เก่ง ก็จะไม่มีทางต่อยอดต่อไปในวิชาพวกนี้ครับ สอนภาษาไทยมันก็ตัน ไม่ก้าวหน้าหรอกครับ มันต้องให้ นศ ได้ีรู้ concept เป็นภาษาอังกฤษจึงจะต่อยอดได้ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 21:29:21

ความคิดเห็นที่ 20 เราก็เคยช่วย จขกท เหมือนกันนะ มาลงชื่อด้วย บอกไปแล้วว่าให้อ่านหนังสือเยอะๆ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 00:17:06