|
โดยพื้นฐานแล้ว เริ่มเรียนอ่านเขียนภาษาอังกฤษปอห้าเหมือนกันค่ะ เราชอบเรียนภาษาอังกฤษ เลยใส่ใจ แม่นไวยกรณ์ ได้คะแนนสูงสุดเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่ปอห้าถึงมอหกเลย (พอเข้ามหาวิทยาลัยนี่เหนือฟ้ายังมีฟ้ามากๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นการเปิดกาลาอย่างแรง ยิ่งใน Pantip นี่ยิ่งเหนือฟ้ายังมีอวกาศเลยแหละ)
เรื่องการพูดฟัง สักปิดเทอม ปอหก คุยกับฝรั่งครั้งแรกพูดได้แค่ที่เรียนจากโรงเรียน I have นี่นั่น There is, There are ส่วนใหญ่ใช้ภาษามือ การที่เห็นคนต่างชาติแล้วอยากพูดด้วยแต่พูดไม่ได้เป็นแรงฮึดนะ ว่าฉันอยากจะพูดได้ อยากสื่อสาร
สักมอสามเราเป็นคนเดียวในชั้นที่กล้าพูดกับฝรั่งถ้ามีฝรั่งมาปรากฎ หรือถามทาง เราก็จะไปช่วยเขาแบบงูๆปลาๆนั่นแหละ ก็ฝีกไปเรื่อยๆนะ นานๆจะได้คุยกับฝรั่งจริงๆสักที เพราะสมัยก่อนมันไม่มีอินเตอร์เน็ทเหมือนสมัยนี้ ที่สื่อเข้าถึงง่าย
มันมาเริ่มดีขึ้นตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราจะดูหนัง soundtrack ตลอดเลย ฟังเพลงฝรั่ง ไปดูคอนเสิร์ต (สมัยนั้น Bon Jovi จะคลั่งตายที่สนามกีฬากองทัพบก) ไปเข้ากลุ่มกับนักศีกษาคริสเตียนจากอเมริกาที่เขาอาสามาสอนใกล้ๆมหาวิทยาลัย ช่วงฤดูร้อนของอเมริกาเด็กเมกันปิดเทอม แต่ของไทยเป็นช่วงเปิดเทอม ชมรมนี้มีชาวอเมริกันมาสอนตลอดเลย เราก็ไปเรียนภาษาอังกฤษจาก Bible แหละ คนที่สอนก็เป็น นักศีกษาวัยเดียวกันสอนตัวต่อตัวเลย เพราะมีการ discuss เนื้อหาด้วย เพื่อนเราเปลี่ยนศาสนาไปหลายคน แต่เรายังเป็นพุทธอยู่เหมือนเดิม
บ้านเราไม่รวยเหมือนเพื่อนบางคนที่พ่อแม่ส่งไปเรียนซัมเมอร์ เรียนภาษาที่ต่างประเทศไง ก็ไปเข้ากลุ่มกับเด็กอเมริกันพวกนี้แหละ มีกิจกรรมเข้าค่ายพักแรม (ไปทะเล ทีละสองคืนมั่ง ไปนอนค้างคืนที่โบสท์มั่ง) เล่นเกมส์ ร้องเพลง กินข้าว อะไรแบบนี้น่ะ ช่วงที่เขามาสองสามเดือนเราก็ไปหาเขาหลังเลิกเรียนทุกเย็นเลยนะ ไปพูดกับเขา ไปทำกิจกรรม เรียนรู้วัฒนธรรมอเมริกัน เขามักจะมีของแปลกๆที่เราไม่เคยกิน ไม่เคยทำ ไม่เคยเห็นมา เราสนุกอ่ะ เช่นลูกอม atomic fireball เราเคยกินครั้งแรกก็ตอนเพื่อนเอามานี่แหละ แล้วช่วยเพื่อนทำบราวนี่เป้นครั้งแรก เรียกว่าขลุกอยู่กับเขาเกือบทุกวัน ทำอยู่ช่วงปีสอง ปีสาม เลิกกิจกรรมก็กินข้าวเย็นด้วยกัน ก็เลยสนิทกลายเป็นเพื่อนกัน เขียนจดหมายถึงกัน ทีนี้พอเห็น ฝรั่งก็ไม่กลัวที่จะสื่อสารแล้ว พอเรียนจบเราก็ทำงานได้ใช้ภาษาอังกฤษในองค์กรตลอด (ไม่มีภาษาไทยในเอกสารเลย) มันสั่งสมๆมาเรื่อยๆนะ ใช้เวลานาน ตอนทำงานที่แรกได้คุยกับฝรั่งที่มาจากอเมริกา เขาถามว่าทำไมเราพูดสำเนียงอเมริกัน ไปอยู่มาเหรอ เลยบอกเขาว่าฝีกพูดกับเพื่อนที่เป็นอเมริกัน
ฉะนั้นถ้ายังเด็กอยู่ก็อย่าเพิ่งท้อนะ กว่าจะเก่งมันไม่ใช่แค่เดือนสองเดือน
ท่านที่เก่งภาษาอังกฤษทั้งหลายในนี้ ก็ไม่ใช่เด็กมหาวิทยาลัยกันหรอกนะ ระดับอาจารย์กันทั้งนั้นน่ะ แล้วหลายท่านก็ประกอบอาชีพด้านภาษาอังกฤษด้วย
(ยกเว้นพี่นะ พี่มาเป็นนักเรียนโข่ง แอบจิ๊กความรู้แถวๆนี้แหละ)
แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 55 23:11:48
แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 55 22:43:47
แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 55 22:40:57
จากคุณ |
:
yinnerella
|
เขียนเมื่อ |
:
วันวิสาขบูชา 55 22:27:31
|
|
|
|
|