 |
ทีนี้มาถึงสงคราม คาลคิน กอล 1939 ที่โซเวียต ได้รับการลองของจากกองทัพแห่งอาทิตย์อุทัย เป็นการประเดิมกำลังของรัฐบาลแดงว่าจะมีน้ำยาแค่ไหน เพราะในอดีต ญี่ปุ่นเคยได้ตอกหน้ากองทัพของซาร์ให้หงายเงิบไปเมื่อครั้งพันตูกันในปี 1904-1905
ก็เพราะเรื่องการขยายดินแดนที่เนื่องมาจากการอ่อนเปลี้ยของจีนที่ทำให้ใครต่อใครอยากจะรีบยื่นแขนยื่นขาไปครอบครองพื้นที่ที่เคยเป็นของจีนที่อยู่ใกล้กับตัวให้มากเท่ามาก เพราะหวังในทรัพยากร
รัสเซียนั้นมีความจำเป็นต้องเฝ้าระวังดินแดนส่วนที่อยู่รอบนอกของไซบีเรียให้มากที่สุด เพราะมันอยู่ติดกันกับแมนจูเรีย และ มองโกเลีย ที่กองทัพญี่ปุ่นเข้ามายึดครองตั้งแต่ปี 1918 ในช่วงที่สถานะการณ์การเปลี่ยนการปกครองของรัสเซียยังไม่ลงตัว หน่วยทหารของโซเวียตจึงเฝ้าระวังอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ
ในปี 1931 ที่ญี่ปุ่นเริ่มยาตราทัพเข้ามาในแมนจูเรีย โดยตั้งขึ้นเป็นรัฐอิสระ หรือรัฐกันชน โดยตั้งชื่อว่า แมนจูกัว (Manchukuo) ในปี 1937 (ดูได้จากภาพยนตร์ เรื่อง The Last Emperor) ในตอนนั้น ญี่ปุ่นได้เข้าไปยึดเซี่ยงไฮ้ และ นานกิงแล้ว ซึ่งญี่ปุ่นได้ลงนามในสัญญาต่อต้านคอมมิวนิสต์ (Anti-Comintern Pact) กับเยอรมันไปเป็นที่เรียบร้อยในปีที่ผ่่านมา คือ 1936 ซึ่งสนธิสัญญานี้ ทำให้สตาลินตัดสินใจเข้าช่วยฝ่ายคอมมิวนิสต์ในจีนในการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปช่วยในการทำสงครามแย่งชิงพื้นที่..ไม่ให้ตกไปเป็นของญี่ปุ่น
การประกาศสงครามในคาลคินกอลที่ญี่ปุ่นได้ประมาณการณ์ว่า....ยากยิ่งต่อการที่กองทัพโซเวียตจะป้องกันไว้ได้ นั่นก็คือ ระยะทาง..แมนจูกัวอยู่ห่างจากชายแดนโซเวียตไปถึง 3000 ไมล์ และจุดสำคัญที่จะต้องเข้ามาป้องกันนั้นเป็นในแนวยาว ที่มีนับร้อยๆจุด อีกทั้ง โซเวียตกำลังบอบช้ำในเรื่องการขาดแคลนกำลังพลรบชั้นมันสมอง เนื่องจากสตาลินได้กำจัดไปแล้วเป็นจำนวนมาก....คงไม่มีน้ำยาอะไรที่จะมาสู้รบตบมือกับญี่ปุ่นที่กำลังเป็นมังกรผงาดได้ในยามนั้น
ดังนั้น ญี่ปุ้นได้ยาตราทัพเข้ามาในช่วงของฤดูร้อนของปี 1938 ที่พื้นที่อันเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ นั่นคือที่ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปประมาณ 70 ไมล์ ของ Vladivostok อันเปรียบเป็นสามเหลี่ยมทองคำของ แมนจูกัว, เกาหลี, โซเวียต... ซึ่งมันเป็นพื้นที่จุดอ่อนของโซเวียตอย่างเต็มๆ เพราะ เส้นทางการคมนาคมสายสำคัญสายเดียวที่เปรียบประหนึ่งเส้นเลือดหล่อเลี้ยง...เชื่อมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวนั่นก็คือ เส้นทางรถไฟสายทรานไซบีเรีย ถ้าดูจากแผนที่ วลาดิวอสต๊อค คือ เมืองท่าสำคัญของโซเวียตที่ติดต่อทางฝั่งเอเซีย แต่มันก็คือ..พื้นที่หนามยอกใจของญี่ปุ่น (ที่ปกครองเกาหลีอยู่ในเวลานั้น) เพราะ มันใกล้กันขนาดที่ว่าโซเวียตสามารถส่งเรือดำน้ำมาถล่มทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นได้อย่างสบายๆ อีกทั้งมันเป็นการอ่อนด้อยทางจุดยุทธศาตร์ เพราะทางฝั่งแนวเขาสูงนั้น โซเวียตสามารถเฝ้าดูความเป็นไปของทัพเรือเกาหลีได้..
(พูดถึงเรื่องนี้แล้ว..ขอออกนอกเรื่องนิ๊ดหนึ่ง คือ เรื่องระหว่างไทยกับกัมพูชา...ในพื้นที่พิพาทมันก็ครือกัน เพราะทั้งหมดนั้นคือจุดยุทธศาสตร์ล้วนๆ หาใช่เรื่องความสำคัญของตัวปราสาทเขาพระวิหารทั้งหมดไม่...กัมพูชาจะไม่มีวันนอนตาหลับได้ ถ้าหากว่า ไม่ได้ครอบครองพื้นที่บนเขาพระวิหาร เพราะ ถ้าหากเกิดสงครามระหว่างสองประเทศขึ้นมา...กัมพูชาจะเสียหายมากเพราะอยู่ในจุดที่ต่ำกว่า..เช่นเดียวกับสงครามที่นโปเลียนที่สามไปแพ้เยอรมันในสงครามที่เซดอง)
ทีนี้ญี่ปุ่นก็รู้เขารู้เรา ว่า...ถ้าหากทางรถไฟสายทราน-ไซบีเรียได้ถูกทำให้หายไป...โซเวียตก็เหมือนถูกตัดสายอ๊อกซิเจน ญี่ปุ่นก็จะได้ครอบครองในพื้นที่ที่ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาไว้ให้สบายใจ รวมไปถึงทรัพยากรต่างๆ เช่นสารพัดโรงงานอุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นไปลงทุนไว้ในแมนจูกัวด้วย อีกทั้ง...ถ้าทำให้โซเวียตง่อยเปลี้ยเสียขาไป จีนก็หมดพี่เลี้ยงและที่พึ่ง... ดังนั้น..ญี่ปุ่นจึงได้จัดตั้งกองทัพขึ้นมา...ในนโยบายของการบุกขึ้นเหนือ
แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 55 18:12:20
จากคุณ |
:
WIWANDA
|
เขียนเมื่อ |
:
19 มิ.ย. 55 16:51:50
|
|
|
|
 |