ความคิดเห็นที่ 1 ตอบได้แต่ข้อ 2 ค่ะ คนอเมริกันในอเมริกานิยม print มากกว่าเขียนแบบ cursive ค่ะ แต่เห็นว่ากันว่าคนอังกฤษในประเทศอังกฤษนิยมเขียนแบบ cursive กันมากกว่า กรณีคนอังกฤษคงต้องให้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษมายืนยัน จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 05:25:53

ความคิดเห็นที่ 2 เคยคุยกับครูประถมที่อเมริกา คุยไปคุยมา แกบ่นว่า ปีนี้ มีเด็กเอเชีย มาเข้าป.3 เด็กคนนี้เขียนแบบ cursive ไม่ได้เลย ต้องมาหัดกันใหม่หมด เพราะโรงเรียนนี้เขียน cursive กันหมด ความเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าคุณเลยวัยเข้าโรงเรียนแล้ว ไม่น่าจะมีใครว่าคุณเรื่องตัวเขียนหรือตัวพิมพ์ เดี๋ยวนี้ก็ใช้คอมพิวเตอร์กันหมดแล้ว ก็ยิ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เท่าที่สังเกตุ คนอเมริกันรุ่นเก่าหน่อย เช่น 60 ขึ้นไป มักจะเขียนแบบ cursive ส่วนเด็กรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่เขียนผสม บางคนนิยมเขียนตัวพิมพ์เล็ก หรือ พิมพ์เล็กผสมตัวเขียน ประมาณในรูปนี้ Ref: http://www.themaninblue.com/articles/handwritten_typographers/ จากคุณ : Carry On!! เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 06:17:52

ความคิดเห็นที่ 3 cursive ตามโรงเรียนไม่ค่อยสอนกันแล้วค่ะ ตัวอย่างนะคะ ลูกสาวหัดเขียน cursive ตอนอยู่เกรด 3 เพียงปีเดียว แล้วหลังจากนั้นเด็กๆ ก็ไม่มีการเขียนแบบ cursive กันอีกเลยค่ะ ทุกวันนี้ตามโรงเรียนในรัฐที่อยู่ (South Carolina) ไม่มีการหัดให้เด็กเขียน cursive กันอีกแล้วค่ะไม่ว่าในเกรดไหน เด็กระดับมหาวิทยาลัยก็ print กันทั้งนั้น คนรุ่นเดียวกับตัวเอง เพื่อนร่วมงาน ทุกคนที่รู้จัก print หมดค่ะ ไม่มีใครเขียนแบบ cursive เลยแม้แต่คนเดียว หมายถึงในอเมริกานะคะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 07:58:56

ความคิดเห็นที่ 4 1. ไม่ค่อยสำคัญ ส่วนมากไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเขียน 2. ในปัจจุบันเจ้าของ ภอ.ใช้ตัวเขียนพอสมควร แต่ไม่มากเหมือนสิบๆปีมาก่อนตอนที่มักจะใช้ปากกากับกระดาษเขียนจดหมายแล้วก็ส่งไปยังญาติกับเพื่อนโดยไปรษณีย์ช้าๆธรรมดาๆ (ฝรั่งเรียกมันว่า snail mail) ทุกวันนี้ส่วนมากเขานิยมใช้ e-mail เพราะสะดวกกว่า แต่ในปัจจุบันยังมีคนที่ชอบใช้ตัวเขียนเพื่อจะเขียนโน้ตหรือการ์ดหรือจดหมายแบบเก่าๆและสิ่งอื่นๆที่ไม่ใช่ทางการ เพราะเขียนตัวเขียนแล้วก็ส่งให้ญาติหรือเพื่อนอ่านมันส่วนตัวมากกว่า แต่ตอนนี้คนที่เขียนตัวพิมพ์ก็มีมากด้วย 3. ผมไม่รู้ครับ 4. ผมคิดว่านิยมใช้ตัวพิมพ์มากกว่า 5. ผมคิดว่าจะไม่มีปัญหา ที่จริงตอนนี้มีโรงเรียนบางแห่งในสหรัฐที่ไม่สอนเด็กๆตัวเขียนแล้วเพราะเขารู้สึกมันไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ แต่ไม่ใช่ทุกคนเห็นด้วย ผมเคยเห็นข่าวถึงเรื่องนี้ครับ ผมเองคิดว่าไม่ค่อยจำเป็นต้องรู้ สำคัญมากกว่าก็คือฝีมือการใช้แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ แต่ถ้าชอบตัวเขียน ก็เรียนได้ มีคนที่ชอบทำตัวเขียนอย่างเป็นศิลปะ (caligraphy) ก็มีครับ http://www.fox59.com/news/wxin-cursive-writing-schools-no-longer-required-to-teach-cursive-beginning-this-fall-20110630,0,7533627.story http://www.nytimes.com/2011/04/28/us/28cursive.html?_r=1&ref=us แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 55 11:58:50 จากคุณ : Coffeeclub เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 09:23:26

ความคิดเห็นที่ 5 เท่าที่จำได้นะ เด็กนักเรียนอังกฤษไม่ค่อยจะเขียนแบบ cursive กันตั้งแต่ปี 1967 ซะแล้ว แต่จะเลิกนิยม cursive ก่อนหน้านั้นมากน้อยแค่ไหนเราตอบไม่ได้ แต่จะเล่าลำดับเหตุการณ์ให้ฟัง เราถูกสอนให้เขียนแบบตัวเขียนขึ้นๆลงๆสวยๆแบบที่เขาเรียกว่า cursive มาตั้งแต่เด็กๆ แต่สิ่งที่เราเกลียดมากๆก็คือการเขียน capital letters แบบ cursive ให้ถูกหลัก เราเลยใช้ block capital letters ตรงขึ้นต้นประโยค และขึ้นต้น proper nouns แต่ที่เหลือเขียนเป็น cursive หมด เราเห็นเอกสารเก่าๆที่คนอังกฤษเขียนย้อนยุคไปเก่าขนาด Isaac Newton เขียน ตัวหนังสือมันเป็น cursive หมด แต่ตั้งแต่ปี 1967 ตอนเราเริ่มเรียนหนังสือระดับมัธยมในประเทศอังกฤษ เราหันไปมองสมุดของเด็กฝรั่งที่นั่งข้างๆ ไม่เจอใครเขียนแบบ cursive เลยแม้แต่สักคนเดียว (ตกลงเราบอกไม่ได้แน่ชัดว่าเด็กอังกฤษเลิกเขียนแบบ cursive ตั้งแต่เมื่อใหร่กัน) เด็กๆอังกฤษในยุคนั้นเขียนดัวยตัวพิมพ์เล็กกันเสียเกือบหมดซะแล้ว กลายเป็นมีเราเป็นเด็กโบราณอยู่คนเดียว...555+++... การเขียนให้เร็วขึ้นอยู่กับการฝึก ไม่ว่าจะเขียนด้วยตัวหนังสือแบบไหนก็เขียนให้เร็วได้ แม้กระทั่ง block capital letters สมัยเราไปทำงานที่ bookmaker (บริษัทที่เป็นเจ้ามือรับพนันม้า) ใน London ใหม่ๆตอนไปฝึกงานเพื่อที่จะไปเป็นผู้จัดการสาขา เราเคยต้องรับตำแหน่งเป็นเด็กเขียน board แสดงราคาพนันม้าขึ้นๆลงๆ (คล้ายๆ board ราคาหุ้นในตลาดหุ้น) และเขียนผลม้าแข่งหลายๆสนามอย่างรวดเร็ว (ต้องฟังเขาพากย์ม้าเร็วๆแล้วเขียนให้ทัน) ซึ่งต้องเขียนเป็น block capital letters หมด ทีแรกเราก็งงว่าจะเขียนไงให้ทันหว่าเพราะเจอม้าแข่งพร้อมๆกันทีหนึ่งถ่ายทอดสด 4 สนาม กับไม่ถ่ายทอดสดแต่ส่งผลมาให้เขียนอีก 2 สนามหรือมากกว่านั้น เป็นระยะๆ เขียนๆไปทีแรกขำตัวเองเขียนไม่ทันพวกฝรั่งนักพนันม้าใจดีมาช่วยเราเขียน แต่พอชินเข้าเรากลายเป็นเขียนด้วย block capital letters ได้รวดเร็วมากๆ แต่ให้เขียนเป็นตัวพิมพ์เล็กแบบเด็กฝรั่งรุ่นหลังๆเขียนเราเขียนไม่เป็นอ้ะ...555+++... จะบอกให้ถึงข้อได้เปรียบของ cursive ถ้าใครไม่เรียน shorthand แต่จะจด note เร็วๆด้วยตัวหนังสือธรรมดาๆ เขียนแบบ cursive ไม่ต้องสะกดเต็มๆหรอก ตวัดย่อๆไป เขียนแบบนี้ไปตั้งหลายสิบหน้า เอามาอ่านอีกทีก็อ่านรู้เรื่อง ในขณะที่เขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่หรือตัวพิมพ์เล็กมันตวัดย่อๆลำบากมากๆ เราเคยทำงานในบริษัทแปลแห่งหนึ่ง บางทีเราไม่ได้ใช้ computer แต่แปลไทยเป็นอังกฤษเขียนคำแปลภาษาอังกฤษตวัดๆย่อๆไปแบบนั้น 50 กว่าหน้า ส่งให้พนักงานพิมพ์ดีดคนหนึ่งพิมพ์ มีพนักงานพิมพ์ดีดคนหนึ่งจบแค่ ปวช. พิมพ์ภาษาอังกฤษแม่นเหมือนจับวางด้วยความเร็วนาทีละเฉียดๆ 100 คำ เขาพิมพ์ภาษาอังกฤษที่เราเขียนตวัดๆมา 50 กว่าหน้าพริบตาเดียวเสร็จแล้วพิมพ์ถูกหมดเลย ในขณะที่เด็กที่เพิ่งจบปริญญาตรีเอกอังกฤษมาหมาดๆอ่านลายมือเราไม่ออก...555+++... ^ ถ้าถามแล้วทำไมพนักงานพิมพ์ดีดคนนั้นไม่ทำงานเป็นนักแปลล่ะ ตอบ เขาอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษยากๆรู้คำแปลเป็นคำๆโดดๆเยอะมากๆ เพราะทำงานพิมพ์ดีดมาหลายปีพอเจอศัพท์ยากๆเขาเปิด dictionaries บ่อยๆ แต่พอเจอศัพท์รวมๆกันเป็นประโยคยาวๆเขาอ่านไม่เข้าใจเพราะไม่เคยได้รับการสอนให้อ่านมาอย่างถูกต้อง ดังนั้น ใครคิดว่าท่องศัพท์เยอะๆแล้วจะอ่านภาษาอังกฤษรู้เรื่อง มันไม่จริงเสมอไปหรอก เพราะบ่อยครั้งที่ภาษาอังกฤษแปลเป็นกลุ่มคำไม่ได้แปลเป็นคำโดดๆ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 55 19:06:52 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 55 19:01:49