|
เรื่องการศึกษา (โดยทั่วไป) หรือการศึกษาประชาธิปไตย (ถ้าจะพูดให้จำเพาะ) นี่ผมเห็นด้วยนะ ว่าแม้จะสำคัญในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้สำคัญถึงขนาดมีแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว หรือขนาดจะต้องเป็นเงื่อนไขก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่ที่ผมพูดถึงประเด็นนี้ก็เพราะว่ามีคนยกเรื่องนี้มาแย้งว่าเมื่อ ๒๔๗๕ คนไทยยังไม่มีการศึกษา ดังนั้นจึงยังไม่พร้อมจะปกครองตัวเอง ผมก็เลยแย้งกลับ (โดยยึดตามสมมุติฐานของอีกฝ่ายว่าการศึกษาจะต้องมาก่อนการเปลี่ยนแปลง - ซึ่งจริงๆ ผมไม่เห็นด้วย) ว่าต่อให้กษัตริย์มีความตั้งใจและสามารถทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีการศึกษาได้จริง โมเดล "กษัตริย์มอบอำนาจให้ประชาชน" นั้นก็ไม่เวิร์คอยู่ดี
ส่วนที่หลายท่านยังยืนยันว่าการปฏิวัตินั้นไม่สมควรเพราะคนไทยยังไม่พร้อมนั้น ผมขอตอบดังนี้
ความพร้อมหรือไม่พร้อม ณ ตอนปฏิวัติ อันที่จริงแล้วผมเห็นว่าสำคัญเหมือนกัน แต่ไม่ใช่สำคัญในแง่ที่ว่า คนไทยสมควรได้รับเสรีภาพหรือยังไม่สมควร ผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีเสรีภาพตามธรรมชาติอยู่แล้วครับ ดังนั้น ไม่มีใครในโลกนี้มีสิทธิ์มาชี้นิ้วสั่งว่าคนใดควรหรือไม่ควรมีเสรีภาพ ถ้าคนไทย (หรือคนชาติอื่นๆ) มีโอกาสที่จะเริ่มเดินไปในทางที่จะนำไปสู่เสรีภาพได้อย่างจริงๆ จังๆ โอกาสนั้นถือว่าคุณค่าในตัวมันเอง พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อปฏิวัติ ๒๔๗๕ เป็นจุดสำคัญที่ทำให้คนไทย "เริ่ม" มองเห็นความมีเสรีภาพได้จริงๆ เป็นครั้งแรก ปฏิวัติครั้งนั้นก็ "ดี" ในตัวของมันเองแล้ว โดยไม่เกี่ยวกับว่าคนไทยพร้อมหรือไม่พร้อม ที่พูดมาทั้งหมดอาจจะดูอุดมคติจ๋า แต่ทุกๆ ข้อโต้แย้งที่เป็น prescriptive ล้วนมี value assumption เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว (ขออภัยที่ใช้คำอังกฤษ ไม่รู้จะแปลยังไงให้สวยๆ) ดังนั้น ผมทำตรงนี้ให้ชัดเจนก่อน
ที่ผมคิดว่าความพร้อมสำคัญ หมายความว่า การปฏิวัติจะบรรลุเป้าหมาย (อย่างน้อยก็เป้าหมายที่ประกาศเอาไว้) และทนต่อ counter-revolution ได้ดี สังคมไทยจะต้องมีความพร้อมในระดับหนึ่ง เช่น ความตื่นตัวเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเข้มแข็งของสถาบันต่างๆ ในสังคม ฯลฯ อยู่ก่อนแล้ว (เหมือนกับที่อังกฤษ อเมริกา มีตอนปฏิวัติ) ตอนนั้นสังคมไทยไม่มีความพร้อม จริง ผมไม่เถียง และเพราะสังคมไทยยังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยจึงผ่านจุดหัวเลี้ยวหัวต่อหลายอย่างที่เสี่ยงว่าจุดมุ่งหมายของการปฏิวัติจะสูญเสียไป (เช่น การรัฐประหารเป็นสิบๆ ครั้ง, เผด็จการทหาร, การมีอยู่ของข้อกฎหมายที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ฯลฯ) แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะบอกว่าการปฏิวัติไม่ควรเกิดขึ้น เพราะ (นอกเหนือจากด้านอุดมคติที่บอกไว้ก่อนหน้า) โอกาสแบบนี้ไม่ใช่มีได้ง่ายๆ ถ้าไม่มีครั้งนี้ อาจจะไม่มีไปอีกนาน และถึงวันนั้นก็ไม่รู้อีกว่าสังคมไทยจะพร้อมหรือยัง หรือถ้ามีโอกาสอีกก็อาจจะเป็นปฏิวัติเพื่อฟาสซิสต์หรือคอมมิวนิสต์ไป หรือต่อให้มีการปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยอีก ก็ไม่มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้พิจารณาได้ว่าการปฏิวัติครั้งนั้นจะทำได้ดีกว่าของคณะราษฎร์
ดังนั้น กล่าวโดยสรุป ความพร้อมนั้นมีผลต่อโอกาสความสำเร็จของการปฏิวัติ แต่ไม่ใช่เงื่อนไขที่ควรจะรับหรือไม่รับการปฏิวัติ (พูดแบบโวหารนะ)
อย่างไรก็ดี ณ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องสังคมยังไม่พร้อมอีกแล้ว ถึงจะยังต้องพัฒนาอีกเยอะ แต่ผมคิดว่าประเทศไทยพัฒนาขึ้นมาเยอะนะเมื่อเทียบกับสี่สิบห้าสิบปีที่แล้ว ปี ๒๔๗๕ คนไทยยังไม่พร้อม แต่ตอนนี้ผมว่าเราพร้อมแล้วที่จะเรียนรู้กันไปอย่างจริงๆ จังๆ และทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่เริ่มจากวันนั้น ดังนั้น ผมจึงคิดว่าการปฏิวัติครั้งนั้นมันก็ไม่เลวนักหรอก แม้จะห่างไกลจากคำว่าเพอร์เฟคก็เถอะ เราไม่ควรจะไปคาดหวังว่าถ้าไม่มีปฏิวัติแล้ววันนี้จะดีกว่านี้ แม้มันจะเป็นไปได้ แต่มันก็เหมือนเสี่ยงดวงนั่นแหละ เราไม่รู้หรอกว่ามันจะดีกว่าหรือแย่กว่า เราอาจจะจินตนาการถึงทางที่สวยงามกว่านี้ แต่ต้องไม่ลืมว่าทางที่ "ไม่สวย" มันก็มีโอกาสเกิดขึ้นพอๆ กันหรือมากกว่า ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลที่จะไปตั้งข้อสมมุติว่าถ้าไม่มีปฏิวัติ ประเทศไทยวันนี้จะดีกว่านี้
จากคุณ |
:
ขุนพลวรมันต์
|
เขียนเมื่อ |
:
วันสุนทรภู่ 55 21:52:44
|
|
|
|
|