 |
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุดลง ในสมัยเจ้าคุณจารวัตร (ไช้) เจ้าอาวาสองค์ที่ ๑๐ ได้สร้างถาวรวัตถุให้กับวัดไว้มากมาย
ตลาดการค้าผ้าในสำเพ็งขายดีอย่างมาก ต่างพากันนำผ้ามาวางขายริมฟุตบาทในสำเพ็ง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ขับไล่ไม่ให้ขายบนฟุตบาธ จึงพากันมานั่งขายกันตามถนนในวัด เป็นทางเดินที่จะไปยังบ่อจระเข้
ทั้งนี้เดิมประตูวัดด้านสำเพ็งยังคงมีอยู่ ในสมัยเด็ก ๆ หนุ่มรัตนะยังเคยใช้ประตูนี้ผ่านไปยังบ่อจระเข้ได้ เป็นประตูลูกรงเหล็ก ลายเหมือนจะเป็นเทพพนม ทางเดินมีสิงโตหิน ชอบที่จะไปกลิ้งลูกแก้วในปากสิงโตไปมา ต่อมาทางวัดปิดประตูใช้พื้นที่ว่างต่อเป็นห้องแถวไป
เมื่อตลาดขายผ้ามีผู้ค้ามากขึ้น ทางวัดก็เลยตัดสินใจเปิดเป็นตลาดค้าผ้า วัดปลูกนั่งร้านให้ผู้ค้าเช่าแผง คิดวันละ ๑ บาท ซึ่งตรงนี้เองเป็นผลพลอยได้จากเงินดังกล่าว ท่านเจ้าอาวาสจึงดำริที่จะสร้างเมรุปูนตายตัวขึ้น ซึ่งความคิดสร้างเมรุนี้มีมาก่อนสงครามจะเกิดเสียอีก ซึ่งทางวัดได้ค่าเช่าร้านถึงเดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาทเลยทีเดียว
ภาพบรรยากาศใน พ.ศ. ๒๔๘๙ ยังจะเห็นตลาดขายผ้าริมถนนดังกล่าวยังคงปรากฎให้เห็นอยู่
จากคุณ |
:
หนุ่มรัตนะ
|
เขียนเมื่อ |
:
25 มิ.ย. 55 17:24:01
|
|
|
|
 |