ความคิดเห็นที่ 1 ท่านยอง เอากับเขาด้วยหรือ จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 03:10:01

ความคิดเห็นที่ 2 จขกท เพิ่งดูขุนศึกมาแน่เลย จากคุณ : น้ำนอง เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 03:56:34

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องคำอ้างว่าพระเจ้าเสือเป็นพระโอรสลับมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว เพราะมีบันทึกของบาทหลวงอ้างถึงเรื่องนี้อยู่ หลังจากที่พระเจ้าเสือทรงสำเร็จโทษเจ้าพระขวัญแล้วก็มีเรื่องนี้ไปถึงหูชาวต่างประเทศก็แสดงว่าต้องมีการปล่อยข่าวนี้เพื่อเพิ่มน้ำหนักเรื่องการสืบราชบัลลังก์อยุธยา จากคุณ : น้องหมูแดง เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 08:15:10

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือป่าว แต่แนวคิดพระเจ้าปราสาททองเป็นโอรสลับของพระเอกาทศรถ หรือพระเจ้าเสือเป็นโอรสของพระนารายณ์ เป็นการพยายามสร้างความเชื่อมต่อระหว่างราชวงศ์สุโขทัย ปราสาททอง และบ้านพลูหลวงเข้าด้วยกัน เพื่อรักษาความระบบเทวกษัตริย์ที่ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์ได้ รวมไปถึงอาจมีผลให้เพิ่มน้ำหนักด้านการสืบราชบัลลังก์ด้วยก็ได้ จากคุณ : เซียวเล้ง เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 10:15:12

ความคิดเห็นที่ 5 อายุ 17 เป็นจมื่นแล้ว(เทียบเท่ายศ พระ ของวังหลวง) คิดดู จากคุณ : สุดยอดเทพ เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 11:23:36

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าอายุตามละครจริงก็น่าคิดนะครับ ทำไมเหล่าขุนนางจึงยองคล้อยตาม เข้ามาเป็นพวกได้ จากคุณ : chai7072 เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 11:41:46

ความคิดเห็นที่ 7 โอรสลับ แล้วทไไมคนถึงรู้ แปลว่าไม่ลับ ... แต่ต้องการสร้างการเชื่อมโยงกับราชวงมากกว่า จากคุณ : boonboon_sk เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 12:14:07

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ลับแล้วมั้งถ้าลับใครจะรู้ได้ จากคุณ : สุดยอดเทพ เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 14:20:47

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องพระเจ้าปราสาททอง เป็นโอรส สมเด็จพระเอกาทศรถ ไม่มีในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ครับ แต่น่าจะอยู่ในหนังสือ จดหมายเหตุ วันวลิต เรียกพระเจ้าปราสาททองว่า พระองค์ไล และราชทินนามของพระเจ้าปราสาททองตอนเป็นพระยากลาโหมว่า  พระยากลาโหม  ศรีสุริยวงศ์ ก็เป็นเรื่องน่าคิดอยู่ เรื่องพระเจ้าเสือ เป็นโอรสสมเด็จพระนารายณ์  ประสูติจากธิดาพระยาเชียงใหม่  มีในพงศาวดาร เรื่องพระเจ้าตากสิน เป็นโอรส พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ก็ไม่มีในพงศาวดารหลัก  แต่มีในพงศาวดาร กระซิบ กระซาบ จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 17:22:24

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องพระเจ้าปราสาททองโอรสลับเข้าใจว่าน่าจะแพร่หลายช่วงสมัย ร.๔-๕ เองครับ ที่แพร่หลายเนื่องจากเป็นเรื่องเกร็ดที่ ร.๔ ทรงได้ยินมาแล้วทรงเล่าให้ ร.๕ ฟัง จากนั้นเรื่องนี้เลยถูกตีพิมพ์อยู่ในหนังสือ "ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๖๓ ตำนานกรุงเก่า" แล้วจึงกลายเป็นตำนานท้องถิ่นของบางปะอินจนทุกวันนี้ ในขณะที่คำให้การเชลยไทยยุคเสียกรุงครั้งที่สอง จดจำว่าพระเจ้าปราสาททองเป็นพระญาติข้างพระมารดาของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งสอดคล้องกับหลักฐานที่เขียนในสมัยพระเจ้าปราสาททองของวันวลิต กล่าวว่าพระองค์เป็นโอรสของออกญาศรีธรรมาธิราชซึ่งเป็นพี่ชายของพระมารดาพระเจ้าทรงธรรม แสดงว่าพระองค์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระเจ้าทรงธรรม จึงจัดว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ได้อยู่ และดูจาดทินนามที่คุณคอแก้งยกมาก็เข้าเค้า ที่เรียกว่า "พระองค์ไล" เป็นการแปลที่ผิดพลาดครับ ต้นฉบับภาษาดัชต์เรียกว่า "พระองค์ศรี(Pra Ongh srij)" ซึ่งไม่น่าเป็นพระนามเดิม แต่เป็นการเรียกย่อจาก "พระองค์ศรีธรรมราชาธิราช(Pra Onghsrij d'Harma Raatsja Thijraaja)" อันเป็นพระนามที่วันวลิตรู้จัก (วันวลิตเคยเรียกย่อพระองค์เชษฐราชาว่า พระองค์เชษฐ เหมือนกัน) เรื่องพระเจ้าเสือที่เขียนว่าเป็นโอรสลับเกิดจากธิดาพระเจ้าเชียงใหม่ รวมถึงปีประสูติเพิ่งมีระบุในพงศาวดารที่เขียนสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นการเขียนแทรกจากพงศาวดารฉบับเดิมที่ข้อความขาดไปสองเล่ม เรื่องที่ถูกแทรกมาส่วนใหญ่เลอะเทอะ ไม่ปะติดปะต่อ เต็มไปด้วยอภินิหารและบทสนทนา เน้นตัวบุคคล ส่วนใหญ่ไม่มีปีศักราช ความน่าเชื่อถือจึงมีน้อย ส่วนใหญ่ จริงผมเข้าใจว่าที่พวกชาวยุโรปร่วมสมัยลือกันเรื่องโอรสลับของสมเด็จพระนารายณ์มักจะเชื่อกันว่าเป็นพระปีย์มากกว่านะครับ มีพูดกันทั้งลาลูแบร์ เดอแบส เดซ์ฟาร์จ แชร์แวส อย่างไรก็ตามใรสมัยอยุทธยาตอนปลายคนก็เข้าใจกันว่าพระเจ้าเสือเป็นโอรสลับ(แต่ไม่ได้เกิดจากธิดาเชียงใหม่) จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 21:19:43

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องอายุในละครก็ไม่สอดคล้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตามพงศาวดารจมื่นศรีสรรักษ์ร่วมมือกับพระเจ้าทรงธรรมล้มบัลลังก์เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ จมื่นศรีสรรักษ์ได้เป็นพระมหาอุปราช ๗ วันก็ป่วย ๓ วัน ตาย มีแค่นี้ (๗ เป็นตัวเลขที่พบบ่อยและไม่น่าเชื่อถือนัก) ต่อมาเมื่อได้เอกสารของวันวลิตจึงได้รู้ประวัติว่าพระเจ้าปราสาททองเคยรับราชการมียศเป็นจมื่นศรีสรรักษ์ ทำให้เชื่อกันว่าจมื่นศรีฯในพงศาวดารคงจะเป็นพระเจ้าปราสาททอง โดยที่พงศาวดารอาจจดคลาดเคลื่อน ส่วนใหญ่ชำระสมัยรัตนโกสินทร์ไม่เคยพบเก่ากว่านี้ นอกจากนี้ยังมีความคลาดเคลื่อนอื่นๆเช่นจดพระนามพระเจ้าทรงธรรมว่า "พระศรีศิลป์" ซึ่งขัดแย้งกับหลักฐานอื่นๆทั้งไทยเทศที่ระบุพระนามว่า "พระอินทราชา" อาจมีการสับสนเอาเรื่องพระศรีศิลป์พระอนุชาของพระเจ้าทรงธรรมมาปนกัน อายุของพระเจ้าปราสาททองตามหลักฐานของวันวลิตกล่าวว่าครองราชย์ใน พ.ศ.๒๑๗๒ พระชนม์ ๓๐ พรรษา หากคำนวณเป็น พ.ศ.ที่สมเด็จพระเอกาทศรถสวรรคตคือ พ.ศ.๒๑๕๓ ก็จะมีพระชนม์แค่ประมาณ ๑๑ พรรษา ละครยึดตามพงศาวดารไทยซึ่งระบุผิดพลาดว่าสมเด็จพระเอกาทศรถครองราชย์ประมาณ ๗ ปีครึ่ง(จริงๆ ๕ ปี) ให้ยืดอายุพระเจ้าปราสาททองไปก็ได้แค่ ๑๔-๑๕ ตามหลักฐานของวันวลิตพระเจ้าปราสาททองได้เป็นจมื่นศรีสรรักษ์ตอนอายุ ๑๖ ซึ่งเป็นรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรมแล้ว พงศาวดารจดว่าพระเจ้าปราสาททองร่วมก่อกบฏคงเป็นความคลาดเคลื่อน (พงศาวดารช่วงยังมีความคลาดเคลื่อนอีกหลายเรื่องเช่นเรื่องพระมหาอำมาตย์ได้เป็นเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ เป็นต้น) แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 55 21:37:18 แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 55 21:36:41 จากคุณ : ศรีสรรเพชญ์ (Slight06) เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 21:35:35

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องซุึบซิบว่าสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เป็นโอรสลับๆของสมเด็จพระเอกาทศรถ ผมวิเคราะห์ว่า น่าจะเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างความชอบธรรมในการขึ้นบัลลังก์ศรีอยุธยาของออกญากลาโหม (ตำแหน่งเิดิมของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง) มากกว่าครับ ถ้าเรื่องซุบซิบนี้เป็นเรื่องจริง ผมคิดว่าคงไม่รอดหูฝรั่งนักจดบันทึกอย่างวัน วลิต หรอกครับ แต่วัน วลิต ดันจดไว้อย่างชัดเจนว่า บิดาของออกญากลาโหม คือขุนนางชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ชื่อ ออกญาศรีธรรมมาธิราช ซึ่งออกญาผู้นี้เป็นพี่ชายของพระชนนีของพระเจ้าทรงธรรม ผมคิดว่าเรื่องที่สมเด็จพระเอกาทศรถทรงเรือแล้วไปล่มที่เกาะับางปะอิน แล้วทรงนำ "นางอิน" มาเป็นบาทบริจาริกา จนกระทั่งมีโอรสออกมาเป็น "เจ้าไล" (ชื่อเดิมของพระเจ้าปราสาททอง เช่นกัน) นั้น ถ้าไปอ่านเรื่องที่วัน วลิต บันทึกเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวร ที่ทรงเรือไปกับมหาดเล็ก แล้วเข้าไปหลบพายุฝนในบ้านของยายแก่ๆ คนหนึ่ง จนพระองค์ ทรงสำนึกในบุญคุณของยายแก่คนนี้มาก จนให้ทหารหลวงมาอัญเชิญให้ยายแก่คนนี้เข้าไปชุบเลี้ยงในวังหลวงแล้วยกย่องจนเปรียบเสมือนมารดาของพระองค์ หากตัดเรื่องข้อเท็จจริงออกไป ทั้ง 2 เรื่องนี้มีเค้าโครงเรื่องที่คล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะฉะนั้น น้ำหนักของความน่าจะเป็น ควรจะลงไปที่เรื่องไหนมากกว่ากันระหว่าง..... 1. เรื่องสมเด็จพระเอกาทศรถ กับนางอิน เป็นเรื่องซุบซิบที่เหมือนข่าวลือ 2.เรื่องสมเด็จพระนเรศวร กับยายแก่ เป็นความทรงจำของผู้เฒ่าผู้แก่ หรือพระสงฆ์ที่ยังมีชีวิตอยู่พอที่จะจำเรื่องราวและเล่าให้วัน วลิต จดบันทึกไว้ได้ จากคุณ : ออกหลวงมงคล เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 23:04:20