ความคิดเห็นที่ 1 ความล้มเหลวของการศึกษา บุคลากรทางการศึกษาก้าวไม่ทันโลก จากคุณ : via iPad (สองแสนทองสิบบาท) เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 21:08:36

ความคิดเห็นที่ 2 ปัญหาคือเราพยายามปิดกั้นวัยที่มีแรงอยากรู้มากที่สุด เราไม่ยอมสอนเค้าให้เข้าใจ แต่พยายามปกปิดไม่ให้รู้ แต่มันห้ามไม่ได้ จากคุณ : Canon in Science Major เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 21:30:54

ความคิดเห็นที่ 3 - อย่าอัดคลิปและอย่าเผยแพร่ - ให้ตระหนักและใช้ถุงยางทุกครั้ง คงทำได้แค่นี้ค่ะ ไม่เช่นนั้นคงต้องปูพื้นจิตวิทยากันใหม่หมด ทั้งพ่อแม่ ตัวเด็ก และสังคม ทำยังไงจึงจะให้เด็กละวางและละอาย หรือเห็นความสำคัญของสิ่งอื่นมากกว่า ต่างประเทศก็มีปัญหาไม่ค่อยต่างจากเรานัก อาจต้องยันกันที่อายุเฉลี่ย จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 21:37:03

ความคิดเห็นที่ 4 จขกท. พูดขึ้นลอย ๆ  โดยไม่มีหลักฐาน ใคร ๆ ก็พูดได้ จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 22:41:09

ความคิดเห็นที่ 5 นักเรียนไปเล่นเสียวกันมันไม่ใช่ปัญหาด้านการศึกษานี่นา ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย เด็กวัยรุ่นที่ไหนๆก็อยากมี sex กันทั้งนั้น เพราะร่างกายจิตใจมันเป็นไปตามพลังของ sex hormones การศึกษาช่วยได้แค่บอกว่าป้องกันโรคทำไง คุมกำเนิดทำไง แล้วอย่ามาเล่นเสียวกันในที่ๆไม่ควรเล่น แต่จะห้ามเด็กนักเรียนไม่ให้มี sex กันนั้น เราว่ามันหมดสมัยเสียแล้ว จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 23:40:58

ความคิดเห็นที่ 6 อาจารย์ท่านหนึ่งของเราเคยบอกว่า "การศึกษาบ้านเรา ล้มเหลวอย่างประสบความสำเร็จ" จากคุณ : cupid_jib เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:49:14

ความคิดเห็นที่ 7 เรียนคห 4 งั้นผมพูดลอย ๆ มั่ง สมัยผมเป็นนักเรียน มีอินเตอร์เนตใหม่ๆ ประมาณ 15 ปีที่แล้ว เข้าไป ม4. เิทอมแรก เพื่อนหญิงคนนึง ตั้งท้อง และต่อมา 1. เพื่อนผมในห้อง ไปนอนค้างบ้านเพื่อน ๆ ชายด้วยกันในห้อง ก็เอาแฟนที่เป็น นร. หญิง ร่วมห้องไปด้วย ไปค้างอยู่ด้วยกัน ตกดึก ก็มีอะไรกันในผ้าห่ม ไป ๆ มาๆ เพื่อน ผู้ชาย 4-5 คน ขอต่อคิว สรุป เพื่อนหญิงได้สามี คืนเดียว 6 คน ด้วยความเต็มใจ เอามาคุยกันสนุกสนาน 2. หลังจากนั้น ทั้งคู่เลิกกัน เพื่อน นร. หญิง ก็ไปคบกับเด็กห้องอื่น แล้วก็มีอะไรกับเขาไปทั่ว หอพักผู้ชาย บ้านผู้หญิงเอง บนโต๊ะสนุกเกอร์ แถว ๆ โรงเรียน 3. เพื่อนหญิง หลาย ๆ คนในห้องผม หรือแม้แต่กระทั่งห้องอื่นก็มีพฤติกรรมแบบนี้ แล้วก็จับกลุ่มเอามาพูดกันสนุกปาก เด็กผู้ชายคนไหนใหญ่ คนไหนเล็ก ลีลาเด็ด เซ็กส์ห่วย บางทีก็ข้ามไปโรงเรียนอื่น หรือค่านิยมสุด ๆ คือ ใครมีสามีเป็นเด็กมหาลัยได้ สุดยอด ส่วนในห้องบางที ก็มีเล่นกัน ผู้หญิงแกล้งหยิบเงินผู้ชาย ยัดลงไปในเสื้อชั้นใน หรือกางเกงชั้นใน แล้วท้าให้ผู้ชายล้วง แล้วผู้ชายก็ล้วงเอา หรือบางที นั่ง ๆ เรียนอยู่ ก็มีล้วงกางเกงในเพื่อนผู้หญิง แล้วเอามาดม เอามาป้ายปากกัน เอาอีกมั้ยครับ หรือจะเอาที่ไป ตจว. เิปิดรีสอร์ท สวิงกิ้งกันก็มีนะครับ นี่ขนาดสมัยเมื่้อ 15 ปีที่แล้ว แล้วสมัยนี้ สิ่งยั่วยุมันมากมายมหาศาล มีหรือที่มันจะน้อยลงกว่าเดิม ---------------------------------------------------------------------------------- ประเด็นที่มันแก้ไขไม่ได้เสียที ผมว่าบางทีมันเกิดจากปัญหาที่ว่า ผู้ใหญ่มองปัญหาด้วยมาตรฐานของตัวเอง ไม่ได้มองปัญหาอย่างที่มันเป็น แล้วก็ไม่ยอมรับว่ามันเป็นปัญหาด้วยต่างหาก จากคุณ : Cholesterol Lover เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:58:43

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านกระทู้แนะนำ เรื่องสนพ. แห่งนึงเลยค่ะ จะได้รู้ว่า เยาวชนของบ้านเราถูกมอมเมาด้วยเรื่องเพศตลอดเวลา  ในละคร ในหนังสือนิยาย  การ์ตูน   เรื่องแบบนี้ อย่าโทษเยาวชน  ต้องช่วยกันดูแล  บ้านไหนภูมิคุ้มกันดี  เรื่องแบบนี้ ก็ควบคุมได้บ้าง จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:42:46

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ต้องโดนมอมเมาหรอกครับ ......  หลาน  เด็กสมัยนี้ แRด ได้โดยตัวเองครับ  ไม่ต้องพึ่งสื่อ   ผมเปิดร้านอาหาร  ลูกค้า 80% เป็นเด็กมัถยม   และ  70% เป็นลุกค้าผู้หยิง    ทุกวันนี้เจอมาสารพัด  ทั้งคุยกันในร้าน  ทั้งคุยนอกร้าน   พูดกันแบบธรรมชาติ  ชิวๆเลยว่า " ผัว Gru  ผัวฉัน "  " นั่นผัวเก่า Mึง "   บลาๆ    บางคนโดนเรียนเพื่อไปมี SEX กับแฟน  เพราะวันนี้เป็นช่วงปลอดภัย  บลาๆ     เด็กบางคนแค่  ม.ต้น มีผัว เกือบ 10 เข้าไปแล้ว  .... ตบแย่งผู้ชายนี่ เรื่องปกติ  เด็กบางคนพ่อแม่ดี ฐานะดี  พ่อแม่ก็นึกว่าลูกเป็นเด็กเรียน  เรนียบร้อย น่ารัก  หน้าตาเรียบร้อย   พออยู่ร้านผม รู้หมดเลยว่าโดนมากี่คน  โดดเรียนไปหาผัววันไหน  บลาๆ จากคุณ : Dek Chan เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:30:38

ความคิดเห็นที่ 10 การศึกษาก็ส่วนนึง ครอบครัวก็อีกส่วนนะคะ พ่อแม่ควรพูดควรสอนตรงๆได้แล้วค่ะ ห้ามไม่ได้ก็ต้องสอนให้รู้จักป้องกัน สอนให้รู้จักให้เกียรติเพศตรงข้าม สอนให้รู้จักรักเกียรติตัวเอง คิดจะมีเซ็กซ์ก็ต้องรับผลหลังจากนั้นด้วย เด็กบางคนกลัวแค่ท้องแต่ไม่กลัวติดโรค เพื่อนรุ่นพี่เรา เล่าให้ฟังว่าตอนประถมปลายๆใกล้ๆจะขึ้นม.1 แม่ก็สอนก็พูดเรื่องนี้แล้ว แม่ของพี่คนนี้เป็นผู้ช่วยพยาบาลจะเจอเด็กที่ไปทำแท้งแล้วตกเลือดเยอะ บางคนก็ติดโรคทางเพศสัมพันธ์มา ก็นำมาสอนลูกเพราะด้วยอาชีพทำให้ไม่ได้อยู่กับลูกได้ ต้องให้อยู่กันเอง2คนพี่น้องในแฟต พี่เขาเล่าให้ฟังว่า แม่บอกเขาว่า "ฉันบอก ฉันสอน ฉันทำได้แค่นี้ เพราะฉันห้ามเธอไม่ได้ แต่เธอก็ต้องรักตัวเอง ป้องกันตัวเอง เพราะถ้าพลาดมีอะไรขึ้นมา มันไม่ใช่แค่อาย แต่อนาคตที่เธอคิดไว้มันก็หายไปด้วย ถ้าเธอท้อง เธอต้องหาเงินเลี้ยงลูก ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันไปเที่ยว" จริงๆก็แรงและตรงมากค่ะ เราฟังยังอึ้งเลย เด็กที่มีพฤติกรรมแบบมีเซ็กซ์ไปเรื่อย มันเหมือนแค่อยากรู้ และอยากลอง ทำอะไรแบบโชว์เหนือ แต่ไม่ค่อยคิดว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 00:53:17 จากคุณ : seafaring (seafaring) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:47:16

ความคิดเห็นที่ 11 เรียกว่า สังคมรอบตัว จะดีกว่าไหม ทั้งหมดนี้เกิดจาก 1. ตัวเด็กเอง ข้อนี้เน้นเลย คนมันมีสำนึกคิดได้เอง ก็ย่อมรู้ตัวเอง ไม่จำเป็นต้องได้รับศึกษามาหรอก ถึงจะเรียนรู้ การศึกษาดี เรียนดีใช่ว่า ใช่ทำตัวดี การกระทำ ตอนอยู่โรงเรียน กับบ้าน มันต่างกัน 2. ครอบครัว สื่อ ทีวี ภาพยนตร์ ดารา ผู้ปกครองควรเอาใจใส่มากกว่านี้ ไม่ใช่อะไรก็โอ๋ลูก โอ๋ลูก โอ๋ลูก โอ๋ลูก รายงานพฤติกรรม ให้กับครู เพื่อนบ้าน ตำรวจก็ยังดี ไม่ใช่ตามใจไปซะหมด ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะ เช่น หงิก, 9 ศพ , อื่นๆ 3. กฏหมาย นี่แหละตัวดี อ่อนด๋อยไปซะหมด แตะนิดหน่อยไม่ได้ พอเด็กมีปัญหาจากโรงเรียน(เข้าข้อ 1) ไปบอกผู้ปกครอง(เข้าข้อ 2) ผู้ปกครองก็โทษโรงเรียน โทษครู ไม่เคยโทษตัวเด็กเอง หรือโทษตัวเอง แถมฟ้องร้องโรงเรียนอีก แล้วครูที่ไหนจะกล้าไปยุ่งกับเด็ก(เข้าข้อ 3) 4. พฤติกรรมจากครอบครัว, เพื่อนบ้าน, ชุมชน, สังคม, ดารา, คนของสังคม, อื่นๆ เด็กเห็นก็เลียนแบบ อ้างเหตุผลง่าย ดาราก็ทำ, ใครๆก็ทำ บางครั้งก็เพื่อนก็ทำ, แม่ก็ทำ, พ่อก็ทำ, ภาพยนตร์ก็มี, บลาๆ หลายเหตุผล 5. สื่อ, สื่อต่างๆ, เกมส์, วีดีโอ, คลิปต่างๆ, ตัวอย่าง ฆ่าคนตายอ้างเกมส์ มันสมควรอ้างไหม ประเทศอื่นเขาก็เล่น เขาก็ไม่ได้อ้างเกม เขาก็ไม่เห็นมีปัญหา ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผมก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองดีเลิศ ถึงขนาดออกมาพูดแบบนี้ แต่อย่างน้อยผมก็คิดได้ ว่าอะไรมันควรหรือไม่ควร ครอบครัวผมก็มีปัญหามาเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผม มีพฤติกรรม หรือการกระทำแบบเด็กในปัจจุบันนี้ และคงเพราะปัญหาของครอบครัวผมนี้ มันจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผมคิดได้ ผมเข้าใจถึงโลก ถึงความเป็นจริง และอีกคำที่แม่ผมไม่ได้สอน แต่แม่ผมพูดเสมอเวลามีปัญหา หรือความกดดัน ที่ผมมักถาม จะทำยังไงดี เอาไงต่อ แม่ผมมักจะพูดว่า "ช่างมันเหอะ" ก็คือ ให้ปล่อยวางมันไป อย่าไปคิดมาก เช่นพวกเสียงนกเสียงกา ขี้ปากชาวบ้านทั้งหลาย ใครจะว่ายังไงก็อย่าไปสนใจ เราอยู่ของเราแบบปกติ เราทำของเราแบบปกติ ไม่ได้เบียดเบียนใคร ไม่ได้ทำร้ายใคร ดังนั้นอย่าไปสนใจ มีปัญหาก็ค่อยๆแก้ ทุกปัญหามีทางแก้เสมอ ปล. ตอบไปๆมาๆจะเข้าวัด ซะละ จากคุณ : Art_Cheewapat เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 01:54:05