บารมีในที่ทำงานสำคัญมากกว่า ปริญญาเอกหรือไม่
|
 |
กรณีศึกษา -ดิฉันทำงานอยู่ที่ม.แห่งหนึ่งมานานมากแล้วค่ะ ในแต่ละปีดิฉันพบว่ามหาวิทยาลัยมีจำนวนนศ.ป.ตรีน้อยลงๆเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามภาคภาษาจีนที่ดิฉันสังกัดอยู่ก็ถือว่ายังโชคดีที่จำนวนนศ.ที่เข้ามาในแต่ละปีก็ยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 40-50 คน สำหรับบางภาควิชาที่จำนวนนศ.ใหม่น้อยมากๆเช่น ฝรั่งเศส ฯลฯ มีแนวโน้มที่นศ.ใหม่ลดจำนวนลง จนบางปีการศึกษาผู้บริหารสั่งให้งดรับนศ.ใหม่เพราะไม่คุ้มต้นทุนกับการจัดการเรียนการสอน เมื่อเป็นเช่นนี้ ดิฉันจึงสละสิทธิ์การเรียนปริญญาเอกทุกปีเพื่อแลกกับการทำให้ภาควิชาเข้มแข็งโดยการประชาสัมพันธ์และวางนโยบายการบริหารงานเพื่อทำให้จำนวนนศ.ใหม่เป็นไปตามเป้าที่ผู้บริหารมหาลัยกำหนดไว้ -อาจารย์(พนง.มหาลัย)รุ่นใหม่บางท่านทราบดีว่าผลประกอบการของมหาลัยขณะนี้กำลังขาดทุนทุกปีๆก็จึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการขอลาไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับความวุ่นวายของการบริหารภาควิชา ที่แน่นอนที่สุดก็คือผู้บริหารก็อนุมัติเพราะเห็นว่าการเรียนปริญญาเอกเป็นประโยชน์กับการประกันคุณภาพการศึกษา อย่างไรก็ตามดิฉันกลับเห็นตรงกันข้าม เนื่องจากว่าถึงจบป.เอกมาแต่ไม่มีนศ.ป.ตรีมาสมัครเรียนก็ต้องยุบภาควิชาอยู่ดี สู้ทำให้ภาควิชามีจำนวนนศ.ใหม่มาสมัครเรียนอย่างต่อเนื่องดีกว่า ช่วงต่างของค่าจ้างระหว่างป.โท-เอกก็ต่างกันไม่มากนักคือ 5,000 บาท(มหาวิทยาลัยให้ป.โทสตาร์ทที่15,300บ.ป.เอกสตาร์ทที่20,300บ.) ถ้ามีจำนวนนศ.มาก ดิฉันก็จะสามารถสอนเกินภาระงานได้ทุกเทอมเพื่อให้ค่าจ้างของตนเองมากกว่าหรือเทียบเท่ากับป.เอกค่ะ ทุกวันนี้ดิฉันมีเงินเหลือเก็บเฉลี่ย 10,000 บาทต่อเดือนฝากธนาคาร ดิฉันพอใจแล้วค่ะ คนอื่นๆจะได้มากหรือน้อยกว่านี้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะดิฉันพอใจกับเงินฝากจำนวนเท่านี้ค่ะ -ทุกๆครั้งที่มีการประชุม ผู้บริหารก็จะบอกว่าผลประกอบการของมหาลัยกำลังขาดทุน อาจารย์ที่เป็นข้าราชการพลเรือนฯมั่นคงดีแล้ว สำหรับอาจารย์ที่เป็นพนง.มหาลัย สามารถอยู่ที่นี่ภายในระยะเวลา10ปีเท่านั้น ในเมื่อขนาดผู้บริหารบอกเช่นนี้ ความต้องการเรียนต่อปริญญาเอกของดิฉันก็ริบหรี่ลงๆทุกๆปีค่ะ ฉันจึงพยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุดโดยการบริหารภาควิชาให้มีจำนวนนศ.ใหม่ระดับปริญญาตรีให้เป็นไปตามเป้าที่ผู้บริหารกำหนดค่ะ -สำหรับจำนวนนศ.ปริญญาโทก็ไม่ต้องจินตนาการอะไรมากค่ะ ขนาดนศ.ป.ตรีลดจำนวน ป.โทจะเหลือเหรอคะ เพราะฉะนั้นดิฉันจึงคิดว่าทำหลักสูตรปริญญาตรีให้เข้มแข็งก่อนก็แล้วกัน เรื่องหลักสูตรปริญญาโทเอาไว้อนาคต(ซึ่งคิดว่าอีกนานมากค่ะ) -งานต่างๆในภาควิชาดิฉันรู้เรื่องงานดีที่สุดค่ะ และดิฉันก็มีประสบการณ์มากที่สุดค่ะ ผู้บริหารแต่ละท่านไม่ค่อยรู้เรื่องระบบงานเอกสารค่ะ และการบริหารหลักสูตรค่ะ ส่วนใหญ่จะอ่านผ่านตาแล้วเซ็นเอกสารอย่างเดียว ดิฉันยอมรับว่าเหนื่อยค่ะสำหรับงานเอกสาร แต่ในอีกมุมหนึ่งเพราะงานเอกสารนี่แหละที่ทำให้ฉันได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าภาคของที่นี่เกือบสิบปีแล้วค่ะ โดยไม่ต้องมีการเลือกใหม่ให้ยุ่งยากค่ะ -ฉันคิดว่าสิ่งที่ทำให้ฉันอยู่ที่นี่ได้ยาวนานเป็นเพราะ บารมีในที่ทำงานมากกว่า ปริญญาเอกค่ะ -ท้ายที่สุดนี้ ฉันคิดว่าสักวันดิฉันก็ต้องลงจากตำแหน่งนี้จะด้วยมหาวิทยาลัยขาดทุน หรือเหตุผลใดๆก็ตาม...อย่างไรก็ตามดิฉันก็จะขอเลือกสะสมบารมีในที่ทำงานไปเรื่อยๆพร้อมกับพัฒนางานวิชาการภาษาจีนของตนเองในด้านที่ตนเองถนัดควบคู่กันไปค่ะ ขอบคุณค่ะ
จากคุณ |
:
กรณีศึกษา
|
เขียนเมื่อ |
:
29 มิ.ย. 55 18:53:28
A:202.151.46.78 X: TicketID:355138
|
|
|
|