ความคิดเห็นที่ 1 สมัยก่อนคือตอนไหนเหรอครับ แต่พ่อผมเป็นทหารยุคสงครามกับลาว พ่อเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นถ้าออกลาดตระเวน ครั้งละ 3-4 วัน ก่อนออกไปจะเอาข้าวสวยมาตากแดดให้แห้ง แล้วก็พกใส่ย่ามไป เดินไปก็อมไปเรื่อยๆครับ สามสี่วันอยู่ได้ ไม่ลำบากอะไร จากคุณ : chai7072 เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 23:41:27

ความคิดเห็นที่ 2 อาหารเป็นจำพวก ข้างตัง ข้าวแต๋น ปลาแห้ง ปลาย่าง เนื้อแดดเดียว เป็นต้น เมียทำแล้วให้ผัวพกไป กินระหว่างทางได้หลายวันเลยทีเดียว จากคุณ : TommyStyle เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 00:07:30

ความคิดเห็นที่ 3 คนไทยสมัยก่อนกินข้าวเหนียวกันหมดแหละครับ มาช่วงที่ฝรั่งเข้า มา เราเลยรู้จักข้าวเจ้า ชื่อก็บอกแล้ว ว่า เจ้ากิน สมัยแรกๆ ถือว่า เป็นของ ในรั้ว ในวัง ต่อมาก็แพร่กระจาย มาจนกินกันทั่วไป ในเขตภาคกลาง สังเกตว่าทุกภาค รู้จัก ข้าวหลาม แต่เรียกต่างกัน นั่นคือ วัฒนธรรมการกิน ข้าวเหนียวแต่เดิม การกินอาหาร ของทัพโบราณ น่าจะ ไม่เป็นกิจจะ ลักษณะ คือ ไพร่รบ ทหารเลว ต้องเตรียม เสบียง ไปจากบ้าน เพื่อไปรบเอง มักจะเป็น ข้าวตาก ปลาแห้ง เนื้อ แห้ง พวกนี้แหละ พักทัพ ก็งัดออกมากิน   เดาว่า อาหารหลวง น่าจะเป็นมื้อเย็น  ที่ปลงทัพแล้ว จากคุณ : ลมธรรม เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 01:41:25

ความคิดเห็นที่ 4 :::: แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 11:37:47 จากคุณ : Alone among the crowd เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 09:51:20

ความคิดเห็นที่ 5 ข้าวก็จะใช้วิธีตากแห้งคับ หรือหากต้องล้อมนานๆก็ใช้วิธีเอาข้าวของข้าศึกมากินคับ ส่วนกับข้าวก็ไปหาเอาข้างหน้า (เดี๋ยวก็มีรถขายกับข้าวขับเข้ามาขายถึงในค่ายเอง) จากคุณ : buta_king เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 12:32:30

ความคิดเห็นที่ 6 ในหนังสือ เมื่อคุณตาคุณยาย ยังเด็ก เรื่อง เสือป่า พูดว่า บ้านคุณยาย ทำ พวกข้างตัง ข้าวตาก น้ำพริกเผา ให้กับ ผู้ชายที่เข้าร่วมเสือป่า คิดว่า คนในสมัยก่อน รู้จักวิธีถนอมอาหารมาก แม้ไม่มีตู้เย็น จากคุณ : สายฝนในสายหมอก เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 13:35:55

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องข้าวในประวัติศาสตร์ ต้องไปสอบอีกทีนะคะ คือเคยผ่านตาบทความนึง จากเว็บค่อนข้างน่าเชื่อถือ แต่ไม่รู้เชื่อถือได้แค่ไหน ประวัติศาสตร์ตำราไหน ว่าคนไทยสมัยโบราณ ถ้าเป็นแถบภาคกลางจะกินข้าวกึ่งเหนียวกึ่งร่วนมาก่อนค่ะ สำหรับคำว่า ข้าวเจ้านั้น เห็นว่าต้นคำน่าจะมาจากทางลาว เจ้าลาวจะกินข้าวสวย ไพร่ฟ้าจะกินข้าวเหนียว (ภาษาเหนือเรียกตามวิธีปรุงข้าว ข้าวเจ้า เลยเรียก ข้าวหุง แม้จะเอาไปต้ม ตุ๋น ก็ตาม ส่วนข้าวเหนียวเรียก ข้าวนึ่ง แม้จะเอาไปคั่ว หลาม ทำข้าวต้มมัด) ภาคใต้น่าจะนิยมข้าวแข็งอย่างข้าวสังข์หยดอันโด่งดัง ไทยทั้งผองให้เหตุผลว่ามันอยู่ท้องกว่าข้าวเจ้าแบบนิ่ม แน่นอนว่า ไทยะ ไม่เกี่ยวกับ ไต เพราะไทใหญ่กินข้าวเจ้าค่ะ สำหรับสมัยก่อน เห็นว่าแถวภาคใต้ จำไม่ได้ว่าพระอะไร จังหวัดไหน ใช่หลวงพ่อทวดที่มีประวัติหลายเรื่องรึเปล่า เหมือนเดี๊ยนจะจำมาจากหนังสือวิชาภาษาไทยนี่แหละ ที่ว่าท่านนำชาวบ้านรบกับเจ๊ก จำไม่ได้ว่าคนจีนเหล่านั้นก่อปัญหาอะไร ท่านอาศัยแผนลอบโจมตีตอนพวกจีนหุงหาอาหารกันอยู่ ท่านว่าคนไทยกินข้าวหุง เจ๊กกินข้าวต้ม มันเลยอยู่ท้องกว่า ไม่หิวง่าย หรือสมัยพระเจ้าตากสั่งทุบหม้อข้าวนั่นแหละค่ะ สงครามยืดเยื้อก็ต้องมีการหุงหาอาหาร มีการระวังข้าศึกเห็นกองไฟก่อเสร็จใหม่หรือเห็นควันไฟ สมัยนี้ใช้วิธีเจือน้ำส้มสายชูลงไปตอนเริ่มหุง รู้สึกว่าตัวเองตอบไม่ตรงคำถามเท่าไหร่ ต้องขออภัยนะคะ จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 17:53:19

ความคิดเห็นที่ 8 ^ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง จ.ภูเก็ตครับ http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-cham/lp-cham-hist-01.htm ส่วนคำถาม จขกท คิดว่าก็คงหุงกันตามปกติแหละครับ แต่น่าจะมีการผลัดเวรกัน ใครได้พักก็จะเข้าค่ายมากินข้าวพักผ่อนรักษาพยาบาลกันไป ส่วนอีกพวกก็จะออกไปรบหรือป้องกันค่าย เรื่องของการก่อไฟหุงข้าว บางทีก็เป็นกลลวงข้าศึกได้เหมือนกันครับ อย่างในสมัยสงครามกลางเมืองจีน แคว้นฉีรบกับแคว้นเว่ย แคว้นฉีโดยซุนปินวางกลลวงล่อแคว้นเว่ย โดยแกล้งทำเป็นถอยทัพกลับ และระหว่างนั้นก็ลดจำนวนเตาไฟหุงข้าวลง (น่าจะเป็นเตาแบบชั่วคราวแบบเอาหินมาวางเป็นสามเส้าตั้งหม้ออะไรทำนองนั้น ถึงได้มีร่องรอยให้ข้าศึกเห็น) ให้ดูเหมือนว่าทหารตัวเองหนีทัพหายไปจำนวนมาก เพื่อล่อให้ทัพแคว้นเว่ยย่ามใจไล่ล่าเข้ามาจนถึงหุบเขาที่ตัวเองวางกำลังล้อมไว้ทุกทิศทาง แล้วจึงตีทัพแคว้นเว่ยจนแตกพ่ายยับเยิน แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 18:49:12 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 18:32:44 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 18:31:45

ความคิดเห็นที่ 9 สมัยโบราณเขาก็มีกองเกียกกายไว้สำหรับดูแลเรื่องอาหารอยู่แล้วครับ สมัยปัจจุบันก็เป็นหน้าที่ของหน่วยสูทกรรม สังกัดกรมพลาธิการทหาร ถ้าเป็นไพร่ที่โดนเกณฑ์ไปรบสมัยก่อน จะต้องเตรียมข้าวปลาอาหารไปเองครับ ใครจะกินอะไรก็แล้วแต่จะจัดหาไป ส่วนจะหุงต้มใหม่หรือไม่ ก็ต้องดูแล้วแต่สถานการณ์ไป ตัวอย่างชัด ๆ ก็กรณี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่จะทรงตีเมืองจันทบุรี มีพระราชดำรัสให้ทุบหม้อข้าวเสียสิ้นก่อนจะเข้ายึดเมืองจันทบุรี นั่นก็แสดงว่า มีการหุงต้มอาหารกันอยู่แล้ว ไม่ได้กินข้าวตากเสมอไป ถ้ากรณีจะกินข้าวคั่วหรือข้าวตาก น่าจะเป็นกรณีเร่งด่วน ไม่สามารถทำการปรุงอาหารได้ อย่างเช่นกรณีของเจ้าคุณชูโต ที่ทรงนำข้าวคั่ว ข้าวตาก ใส่ไถ้เพราะทรงต้องการจะเร่งกลับไปทำสงครามกู้กรุงศรีฯ นั่นเอง จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:54:35

ความคิดเห็นที่ 10 จริง ๆ แล้ว พันธุ์ข้าวพื้นเมืองภาคกลางก็มีความเหนียวในตัวอยู่แล้ว แต่ไม่เหนียวเท่าข้าวเหนียวในภาคอื่น ๆ สังเกตได้จากการทำบายศรีปากชาม เมื่อหุงข้าวให้ร่วนแล้ว แต่พอนำไปใส่ในบายศรีเมื่อแกะออกมา ข้าวก็จะค่อนข้างเหนียวเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นวัฒนธรรมการบริโภคข้าวในภาคกลาง จึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่ข้าวเหนียวแต่อย่างใด ส่วนคำว่าข้าวเจ้า เอาเข้าจริง ๆ คำว่าข้าว แต่เดิมเขียนว่า "...เข้า..."  โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับเจ้าที่เป็นคนสักเท่าไร เพราะวัฒนธรรมการนับถือผีบรรพบุรุษ หรือผีอื่น ๆ มีอยู่แล้วในภูมิภาคนี้ และชาวพื้นเมือง ก็จะนำเอาข้าวไปทำบัตรพลีเพื่อเซ่นสังเวยให้กับผีเหล่านั้น ดังเช่นการทำบายศรี หรือ การทำกระทงใบตองแล้วใส่ข้าวหุงสุกลงไปพร้อมกับเครื่องสังเวยอีกเล็กน้อย ดังนั้น ส่วนตัวผมคิดว่า ข้าวเจ้า น่าจะมาจากพิธีการที่คนในภูมิภาคนี้ นำเอาข้าวไปทำบัตรพลีให้กับผี หรือ เจ้า ที่ไม่มีตัวตนมากกว่าครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 22:06:18