|
การบัญชาการกองทัพขนาดใหญ่นี้...ไม่ใช่แค่ศึกเดียวที่สตาลินกราดที่แม่ทัพซูคอฟต้องดูแล..เขายังมี Operation Mars ทางฝั่ง Rzhev-Viazma ที่ต้องดูแลและควบคุมไปพร้อมกันด้วย เพราะออกแบบการรบไว้แล้ว.. เมื่อแผนปฏิบัติการยูเรนัสได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อกลางเดือนกันยายน.. ในตอนนั้น..แม่ทัพซูคอฟได้ทำหน้าที่เป็นวาทยากรแห่งดนตรีสงคราม เพราะต้องเข้าควบคุมการทำงานของสามทัพ..คือ ที่ลุ่มแม่น้ำดอน..ที่สตาลินกราด...และที่เรฟ-เวียสมา ให้ประสานกันไป.. ที่สตาลินกราด..แม่ทัพวาสิเลฟสกี้..รับไปปฏิบ้ติการ มีกำลังในมือ สามสิบสี่กองพล
ส่วนทางแผนปฏิบัติการมาร์ และลุ่มแม่น้ำดอน อยู่ในมือของแม่ทัพซูคอฟ ได้เริ่มการบุกเมื่อ วันที่ 25 พฤศจิกายน...ที่มีด้วยกัน สามสิบหกกองพล อาวุธรวมกันทั้งหมด ปืนใหญ่ 24,682 ปืนครก 3,375 เครื่องบิน 1.170 รถถัง 1,463 สงครามในแผนนี้..เป็นการรบประหนึ่งขัดแข้งขัดขาไม่ให้กองทัพเยอรมันขยายตัวออกไปได้ในวงกว้าง..และสร้างความเสียหายให้อย่างมากมายจนข้าศึกต้องถอนตัวออกไปเองในช่วงฤดูใบไม้้ผลิของปี 1943
ส่วนแผนยูเรนัส..เปิดฉากในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน..โดยการรวมกันของสามทัพ คือ จากลุ่มแม่น้ำดอน..แนวหน้าสตาลินกราด และ แนวหน้าตะวันตกตอนใต้..เข้าทำงานในแผนการตีวงล้อมวงนอกของสตาลินกราดให้ถอยร่นเข้าไป.. และเข้าทำการควบคุมพื้นที่ทั้งหมด..เริ่มจากทางทิศตะวันตกที่ เขต Kalach
การเข้าบุก..เริ่มขึ้นด้วยหน่วยปืนใหญ่และปืนครก กว่าสามพันห้าร้อยกระบอก...ระดมยิงเข้าพร้อมกัน จากนั้น...ทัพของกองพันที่ 21 และ กองพันรถถังที่ 5 (จากฐานตะวันตกตอนใต้)เข้าลุยทางทางเหนือของเมืองสตาลินกราด นำโดยแม่ทัพ Valutin
ทางด้านใต้..กองทัพที่ 51 และ ที่ 57 ของแม่ทัพ Yeremenko นัดกันบุกเข้ามา..
ทัพสนับสนุนกลาง..จาก ลุ่มแม่น้ำดอน นำโดย แม่ทัพ โวโรซอฟสกี้ คุสเชิงอยู่อย่างใกล้ชิด...
แผนคือ การเข้าลุยและปิดล้อมกองทัพที่หก และ กองพันรถถังที่สี่ของนาซี รวมไปถึงการไล่ต้อนหน่วยที่คุมอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำดอนให้ไปรวมกัน..
แผนการยูเรนัสนี้..เป็นการปฏิบัติการที่ลับลวงพรางอย่างที่สุด การบุกนั้นเริ่มขึ้นแทบในทันทีหลังจากที่แนวหน้าเข้าเคลียร์พื้นที่เสร็จ. นับว่าเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับการทำงานในสเกลใหญ่ขนาดนี้...อันเป็นที่มาของความสำเร็จในแผนยูเรนัส เพราะเพียงในวันที่ 23 พฤศจิกายน..การปิดล้อมกองทัพนาซีของแม่ทัพพอลลัส เป็นอันว่าเบ็ดเสร็จ แม้แต่นกหนูก็แทบไม่สามารถหลุดลอดออกมาได้..
กองบัญชาการในแม่ทัพซูตอฟ ได้ประมาณการณ์ไว้ว่า..มีทหารตกอยู่ในวงล้อมไม่ต่ำกว่าแสนนาย ฮิตเล่อร์..มีท่าทีไม่หวั่นไหวต่อการปิดล้อมนี้ในระยะแรกๆ เพราะเชื่อว่า..แม่ทัพเกอริง จะต้องทำการส่งส่วยให้จนแข็งแรงและจะตีฝ่าวงล้อมออกมาได้อย่างที่เคยทำมาสำเร็จในการรบที่ Bryansk
โดยที่ฮิตเล่อร์ลืมไปว่า.. คนประมาณแสนคน...ลุฟท์วัฟฟ์จะต้องบินส่งส่วยวันละสามร้อยตัน จะต้องใช้เครื่องบินจำนวนมหาศาล..ซึ่งเยอรมันกำลังจาดแคลนอย่างหนัก เพราะจากการปะทะมาหมาดๆกับอังกฤษและอเมริกาที่เพิ่งเข้าบุกในอาฟริกาเหนือ (ใน Operation Torch) แล้วไหนจะต้องส่งกำลังบำรุงให้กับแม่ทัพรอมเมลที่กำลังรบอย่างดุเดือด ใน Afrika Korps นั่นอีกเล่า..???
จากคุณ |
:
WIWANDA
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ค. 55 08:49:23
|
|
|
|
|