ความคิดเห็นที่ 1 หาดใหญ่ติดทะเล หรือไม่ มีพื้นที่ติดทะเลน้อย ที่แหลมโพธิ์และคูเต่า มองไปจะเห็นด้านหลังเกาะยอ แต่เดิมอำเภอหาดใหญ่  จะมีพื้นที่มากที่สุดในจังหวัดสงขลา ก่อนที่จะมีการแยกการปกครองออกเป็นกิ่งอำเภอสามแห่ง แล้วยกระดับเป็น อำเภอบางกล่ำ อำเภอนาหม่อม อำเภอคลองหอยโข่ง ส่วนตอนนี้อำเภอสะบ้าย้อย  จะมีพื้นที่มากที่สุดในจังหวัดสงขลา หาดใหญ่จะติดกับจังหวัดสตูล ที่ควนกาหลงและควนโดน ระยะทางสั้นมาก แต่ต้องปีนข้ามเขาน้ำตกโตนงาช้าง จะไปลงบริเวณทะเลบันของสตูล แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 55 01:27:16 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 01:04:11

ความคิดเห็นที่ 2 อีกภาพ จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 01:07:23

ความคิดเห็นที่ 3 กิฟต์หมดแล้วค่ะคุณ ravio ได้อ่านอย่างเดียว จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 03:56:20

ความคิดเห็นที่ 4 จังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่แปลก     เพราะชุมทางรถไฟไม่ได้อยู่ที่อำเภอเมือง    แต่กลับไปเป็นชุมทางหาดใหญ่แทน ทะเลสาบสงขลา    ว่ากันตามหลักจริงๆจะไม่ใช่ทะเลสาบ    แต่เข้าข่ายเป็นทะเลภายในมากกว่า        ปีก่อนเคยได้ยินว่าทะเลสาบสงขลาตื้นขึ้นมากเพราะตะกอนดิน     ไม่รู้ว่าปัจจุบันมีการขุดลอกตะกอนออกไปรึยัง เคยไปมาเมื่อราวๆ10ปีก่อน      ตอนนั้นยังไม่มีสถานการณ์โจรใต้     คณะทัวร์ก็ไปไหนต่อไหนได้สะดวก      ได้แวะไปที่ด่านของมาเลเซีย    CD-DVD ไม่มีลิขสิทธิ์เพียบมากๆ     คนที่ไปก็มักจะซื้อ DVD-CD กับช็อกโกแลตติดกลับมาด้วย จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 04:20:32

ความคิดเห็นที่ 5 อำเภอเมืองสงขลาอยู่ห่างจากหาดใหญ่ประมาณยี่สิบแปดกิโลเมตร เส้นทางรถไฟมีแต่เพียงจากหาดใหญ่ไปที่ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา เพิงหยุดวิ่งไปประมาณปี 2521 ข้อมูล ชุมทางรถไฟของประเทศไทย http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X12412067/X12412067.html การไม่ตัดเส้นทางรถไฟผ่านสงขลา เพราะการสำรวจทางก่อสร้าง จะตัดตรงลงมาไม่มีเส้นทางเลียบทะเลน้อย เพราะสมัยนั้นวิศวกรรมการก่อสร้างทางรถไฟเลียบชายทะเลจะมีปัญหามาก รวมทั้งการก่อสร้างสมัยก่อนใช้แรงงานคนมากกว่าเครื่องจักร แต่ที่ทราบมีการนำไม้หมอนรถไฟ รางรถไฟ อุปกรณ์ก่อสร้าง ขนส่งมาทางทะเลแล้วค่อยนำลงเรือขนาดเล็ก แล่นเรือลัดเลาะเข้าทางคลองอู่ตะเภา แต่เดิมที่อู่ตะเภาจะเป็นชุมทางรถไฟหาดใหญ่ ห่างจากหาดใหญ่ประมาณสิบห้ากิโลเมตร สถานีรถไฟติดกับคลองอู่ตะเภา แถวนั้นน้ำท่วมบ่อยมากเลยต้องย้ายมาที่โคกเสม็ดชุม(หาดใหญ่) ชาวบ้านเล่ากันว่า แต่เดิมรางรถไฟ ไม้หมอนรถไฟ อุปกรณ์ก่อสร้าง จะมีการนำขึ้นกันแถวบ้านท่าแซะ เป็นท่าเรือจอดหลักในการขึ้นรางรถไฟและไม้หมอน โคก คือ เนินดินที่พูนสูงขึ้นขนาดเล็ก ควน คือ ภูเขาขนาดเล็ก มีจำนวนมากในภาคใต้ ส่วนเรื่อง การลอกทะเลสาบสงขลา ยังไม่เคยทำ มีแต่การหาเสียงและหาเงินทำวิจัย แทนการลงมือทำงานกันอย่างจริง ๆ เรียกว่า ดีแต่พูด ที่แปลกอีกอย่างคือ มีป้ายทะเบียนสงขลา ไม่มีป้ายทะเบียนหาดใหญ่ เหมือนของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และป้ายทะเบียนสงขลา บางส่วนจะมีภาษาอังกฤษกำกับ เพราะรถยนต์ฝั่งไทยวิ่งเข้ามาเลย์ต้องมีป้ายภาษาอังกฤษกำกับ ทางมาเลย์อ้างว่าอ่านหนังสือไทยไม่ออก แต่ทางมาเลย์จะกีดกั้นรถยนต์ฝั่งไทยมาก การเข้าไปใช้งานในมาเลย์ต้องแปลเอกสารกำกับรถยนต์ ทำพรบ.ประกันภัยรถยนต์ของมาเลย์ และเข้าไปใช้งานได้ไม่เกินปีละหกเดือน เพราะน้ำมันฝั่งมาเลย์ถูกมาก ดีเซล ลิตรละสิบเจ็ดถึงสิบแปดบาท เบนซิน 97 ลิตรละยี่สิบกว่าบาท ขายกันแบบปั้มเถื่อนในหาดใหญ่ ลิตรละ 30-35  บาท ซื้อกันจำนวนมากลิตรละ 28.-บาท ถ้าเจอของแท้ไม่ปลอมปน เติมพวกรถยนต์กับรถจักรยานยนต์วิ่งฉิว ดีกว่าเบนซิน 91, 95 ของไทย เพิ่มเติม  ตอนนี้มาเลย์มาหาดใหญ่จะเป็นลักษณะครอบครัวกับ group tour เพราะอาหารการกิน ห้างสรรพสินค้า ดีกว่าทางฝั่งมาเลย์มาก รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการอยู่เมืองไทยจะต่ำกว่ามาเลย์ หนึ่งริงกิต ประมาณสิบบาทของเมืองไทย บางรายจะขับรถยนต์มาเลย์เข้ามาท่องเที่ยว และไปไหนมาไหนในหาดใหญ่-สงขลา บางรายจะไปไกลถึงนครศรีธรรมราช หรือ ภูเก็ต ส่วนคนสยามในมาเลย์รวมทั้งคนมาเลย์ที่นับถือพุทธมักจะนิยม ไปบวชกันที่วัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช เป็นวัฒนธรรมและประเพณีที่ทำกันมานานแล้ว ส่วนการเที่ยวแบบสมัยก่อนที่เน้นหญิงบริการ จะไปอยู่ที่ด่านนอก (จังโหลน) ช้างหล่น ใบจังหล่น คำของคนสยามในมาเลย์ ติดกับเขตบูกิตอีตำ (ภูเขาสีดำ) ของรัฐไทรบุรี เข้าไปไม่ไกลจากด่าน ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง)  ศุลกากรของไทย ระยะทางห่างประมาณห้าร้อยเมตร รถยนต์วิ่งเข้าออกได้ไม่ต้องทำ พรบ. หรือมีป้ายภาษาอังกฤษ มีร้าน duty free ในฝั่งมาเลย์ เข้าไปซื้อสินค้าได้เลย แต่ถ้าวิ่งเลยเข้าไปอีกจะเป็นด่าน ตม. ของมาเลย์ แต่ราคาเผลอ ๆ ซื้อที่หาดใหญ่ถูกกว่า ยกเว้น แต่เหล้าและบุหรี่ ราคาถูกกว่าเมืองไทยมาก ๆ ส่วนด่านปาดังเบซาร์ ซบเชามากแล้ว การเข้าออกลำบากกว่าฝั่งจังโหลนมาก เพราะเคยมีประวัติโจรก่อการร้ายสามจังหวัดชายแดน ไปเข้าออกแถวนั้น เลยมีการเด้ง ตม. ไปส่วนหนึ่ง ทำให้มีการเข้มงวดมากในการเข้าออก ต้องมีใบทะเบียนรถยนต์แปลเป็นภาษาอังกฤษและหนังสือเดินทาง พร้อมบัตรประชาชน จึงจะขออนุญาต ตม.(ตรวจคนเข้าเมือง) เดินทางเข้าไปในปาดังเบซาร์(ฝั่งมาเลย์) ได้ แต่ความเจริญตอนนี้ไหลไปที่ด่านนอกแทน ด้านสถานบังเทิงเริงรมณ์ หญิงบริการ เหมือนหาดใหญ่ในอดีต หมายเหตุ  แก้ไขข้อมูลเพิ่มเติมจาก #Oceanophila# เขตบูกิตอีตำ (ภูเขาสีดำ) นั้น เป็นภาษาเรียกที่ชาวบ้านและท้องถิ่นเรียกกัน ที่จริง ๆ บริเวณนั้น คือ บูกิต กายูฮิตำ (Bukit Kayu Hitam) แปลตรงๆว่า เขาไม้สีดำ  หรือ Kayu Hitam แปลว่า ต้นมะเกลือ ได้อีกคำหนึ่งด้วย บริเวณนั้นน่าจะเป็นเขาที่มีต้นมะเกลือ เป็นลักษณะการตั้งชื่อสถานที่ต่างๆ ในบรเวิณภาคใต้ เช่นเดียวกับ อ. โคกโพธิ์ อ. ควนขนุน อะไรทำนองนั้น ส่วนของผู้เขียน ถ้าเข้าในมาเลย์จะเห็นป่าไม้มากกว่าไทยมาก เพราะที่นั่นการตัดไม้ต้องปลูกทดแทนอย่างน้อยสามถึงห้าต้น การตัดไม้ยืนต้นต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานรัฐ เว้นแต่กรณีเหตุสุดวิสัยและจำเป็นเร่งด่วนจริง ๆ ใน KL (ไม่ใช่ควนลัง หาดใหญ่) จะเห็นว่าเป็นเมืองในป่าใหญ่ ร่มรื่นและต้นไม้มาก การตัดต้นไม้หรือกิ่งไม้ หรือทำให้ต้นไม้ตายในเขตเมืองหลวง จะมีโทษปรับไม่น้อยกว่า หนึ่งหมืี่นริงกิต (ประมาณหนึ่งแสนบาทไทย) เป็นโทษปรับเบื้องต้น และมีโทษทางอาญาอีกต่างหาก จากคำบอกเล่าของเพื่อนคนไทยที่ไปร้านต้มยำกุ้งใน KL ทั้งนี้ยังไม่รวมโทษทัณฑ์อื่นตามที่พนักงานรัฐจะกำหนดอีก การบุกรุกทำลายป่าโทษทัณฑ์หนักกว่าไทยมาก บางรัฐจะมีการเฆี่ยนก่อนให้หลาบจำ และอย่างที่เคยเขียนไว้นานแล้วว่า นักโทษมาเลย์ ออกจากเรือนจำจะได้บัตรสีน้ำตาลติดตัวไปตลอดชีวิต เรียกว่า ชัักบัตรประชาชน  คนรอบข้างจะรู้ว่ามีประวัติมาก่อน ส่วนพวกที่เข้าข่ายสงสัย ภัยความมั่นคง หรือ น่าจะเป็นอาชญากร แต่หาหลักฐานได้ไม่ชัดเจน จะได้รับบัตรสีชมพูไปครอบครองแทน และไล่ไปให้พ้นจากเขตรัฐเดิมที่อยุ่ทำมาหากิน เรียกว่า ไล่ให้ไปลำบากหรืออดตายหรือยอมไปติดคุกในที่สุด ถ้าครอบครัวกับมิตรสหายไม่ช่วยเหลืออย่างจริงจังแล้ว แต่การให้ความช่วยเหลือคนมีประวัติไม่ดี ต้องระมัดระวังเพราะพนักงานรัฐมาเลย์ อาจจะตั้งข้อหาว่าสมรู้ร่วมคิดไปด้วย เรียกว่าจะมีอาการผีซ้ำ ด้ามพลอยไปด้วย แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 55 19:01:13 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 55 12:50:46 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 55 07:30:26 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 07:22:26

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพประวัติศาสตร์เมืองสงขลา : สถานีรถไฟสงขลา ... ที่มา : ภาพชุดนี้ได้จาก อ.จรัส จันทร์พรหมรัตน์ ชื่อชุด "จรัส-เคลื่อนไปในสายลม" ซึ่งนำมาประกอบการเสวนา ภาพเก่าเล่าสงขลา ในงานถนนคนเดิน ถนนนางงาม เมื่อวันเสาร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดำเนินรายการโดย อ.วุฒิชัย เพ็ชรสุวรรณ คุณณัฏฐ์ กาญจนโชติ เป็นผู้ส่งมาให้ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ จาก facebook  Songkhla Link จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 12:59:43

ความคิดเห็นที่ 7 เท่าที่ทราบมา    น้ำมันมาเลเซียถูกกว่าไทยก็จริง     แต่คุณภาพสู้น้ำมันไทยไม่ได้นะครับ    โดยเฉพาะค่าออคเทนที่ต่ำกว่าของไทยมาก และสาเหตุที่มาเลเซียขายน้ำมันได้ถูกกว่าไทยก็เพราะมาเลเซียสามารถขุดเจาะน้ำมันดิบได้มากพอดู    ที่ฝั่งบอร์เนียว แต่ที่บอร์เนียวไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซียรึว่าบรูไนเอง    ก็มีทีท่าว่าน้ำมันจะเหลือน้อยลงมาก      ขนาดอินโดนีเซียยังต้องออกจากสมาชิก OPEC   คาดว่าน้ำมันของมาเลเซียเองก็คงเหลือไม่มากไปกว่าบรูไนรึอินโดนีเซียสักเท่าไร จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 14:29:10

ความคิดเห็นที่ 8 ยังมีอีกถนนคือ ถนนรัถการ จริง ๆ น่าจะเป็น รัฐการ สันนิษฐานว่ามาจากภาษาไทยวิบัติ . . . คำว่า "รัถการ" ก็มีความหมายนะครับ "รัถ" คำนี้น่าจะมาจาก "ระถะ" ก็คือ "รถ" นั่นไง สมกับการตั้งเป็นชื่อถนนซะจริงๆ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 55 21:50:31 จากคุณ : RX-ALCHEMIST (RX-ALCHEMIST) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 21:44:32

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ น่าจะใช่เพราะมี ถนนรถไฟ กับ ถนนหน้าสถานี ถนนรัถการ อยู่ถัดจากถนนหน้าสถานี แต่พอดีไปสับสนปนกับถนนรัฐธรรมนูญ กับ ถนนประชาธิปไตย ที่มีการตั้งชื่อหลังสมัยปฏิวัติปี 2475 เลยสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นถนนรัฐการ ลืมเปิดพจนานุกรม รัถ แปลว่า รถ ขออนุญาิตไปแก้ไขข้อความข้างบนครับ จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 23:06:21

ความคิดเห็นที่ 10 ขุนนาง น่าจะเป็น พระเสน่หามนตรี  (ชื่น สุคนธหงส์) ส่วน สถานีรถไฟไม่อยู่ ในเมือง มีหลายที่ครับ สถานีพุนพิน สุราษฎร์ สถานี วารินทร์ชำราบ อุบล เป็นต้น จากคุณ : ลมธรรม เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 01:50:42

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นคนหาดใหญ่เลยแวะมาแจกกี๊ฟ อิๆๆ จากคุณ : กุ้งมังกรน้อย เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 14:01:35

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเคยเรียนที่จีน ไต้หวัน หลายเมือง คนไทยจากหาดใหญ่ เยอะเป็นพิเศษนะ (เทียบเป็นเปอร์เซน )ทั้งที่ก่อนหน้าแทบไม่เคยรู้จักคนหาดใหญ่เลย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 14:47:25

ความคิดเห็นที่ 13 เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ เคยเรียนอยู่ 6 ปี เป็นเมืองที่รักมาก เขตดาวน์ทาวน์เล็กดี ผมเดินตลอดไม่เคยได้ขึ้นตุ๊กตุ๊ก บางทีเดินจากเขาคอหงส์ไปถึงกิมหยง ดึกๆแถวข้าง ญ.ว. แบงค์ชาติมืดเป็นบ้าทั้งที่เด็กๆอยู่หอพักแถวนั้น โจรเยอะแยะไม่รู้เดี๋ยวนี้เป็นไงบ้าง จากคุณ : คนโง่ว์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 19:22:59

ความคิดเห็นที่ 14 ตึกแถวข้าง ญว. กับ แบงค์ชาติ ยังเหมือนเดิม มืดอย่างไรก็มืดอย่างนั้น พื้นที่ใกล้เขตของราชการ เช่น อำเภอ โรงเรียน แบงค์ชาติ พื้นที่จะคึกคักเวลากลางวัน เวลากลางคืนจะเงียบเหงา ไฟฟ้าแสงสว่างไม่มีการติดเพิ่มอย่างไรก็อยู่อย่างนั้น เพราะผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่   มีวิสัยทัศน์และสายตากว้างไกลเกินไป เลยมองไม่เห็นปัญหาใกล้ ๆ ชอบมองเรื่องไกลตัวเองจะได้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ส่วนแถวโรงแรมเจบี ตอนนี้เปลี่ยนเจ้าของแล้ว เป็นของกลุ่มหรรษาคาเฟ่ ใช้ชื่อ หรรษาเจบี ย่านนี้กลายเป็นศูนย์กลางโรงเรียนกวดวิชา มีหลายแบรนด์จากกทม. ลงมาเปิดแข่งขันกัน แต่สอนแบบอาจารย์ตู้ ผ่านแผ่น DVD แต่เรียกเก็บเหมือนการสอนสดที่ กทม. สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคก็ไม่ต่างกับผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ วิสัยทัศน์กว้างไกลเลยไปมาก เลยมองไม่เห็นปัญหาความไม่เป็นธรรม ทั้งสองกลุ่มนี้เลยทำได้แต่  ดีแต่พูด  แต่ไม่ลงมือทำ ต้องมีกระแสสังคมร้องเรียนและเรียกร้องมาก จึงจะลงมือทำแก้ไขปัญหาและได้หน้าได้ตาไป โจรผู้ร้ายยังมีมากน้อยเป็นธรรมดา   ปริมาณไม่ลดลง คุณภาพไม่เพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้จะไปหากินตามตลาดนัดเปิดท้ายขายของ กับ ตลาดกรีนเวย์ที่เปิดใกล้ ๆ กัน ชอบมากเรื่องลักรถจักรยานยนต์ เพราะซื้อง่ายขายคล่องกว่าอย่างอื่น เรื่องจี้ปล้นจะมีบ้าง ส่วนมากจี้โทรศัพท์เด็กนักเรียน ที่มักจะชอบ High Society แต่บางราย Low Income เพราะแหล่งรับซื้อโทรศัพท์มือสองมีมากเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 55 20:12:33 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 20:07:59

ความคิดเห็นที่ 15 หาดใหญ่เป็นเมืองเล็กๆที่มีทุกอย่างครบครัน เป็นคนหาดใหญ่(เหมือนกัน) แวะมาแจกกิ๊ฟท์ค่ะ จากคุณ : chocop_17 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 20:31:54

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ ผมก็นึกว่าหาดใหญ่ติดทะเล ส่วนสงขลาอยู่ในแผ่นดินเข้ามา จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 09:56:34

ความคิดเห็นที่ 17 วันอาทิตย์ที่ 29 ก.ค. นี้ เลือกตั้งนายกเทศฯ ส.ท. เทศบาลนครหาดใหญ่ อยากให้คนเก่าๆ อยู่มาสองสมัยควรเว้นวรรคบ้าง ให้คนใหม่ๆ เข้ามา แต่ก็คนใต้อะนะ คนเก่าๆชนะอยู่แล้ว ชนะด้วยลำแข้งคนอื่น เอาพรรคการเมืองระดับชาติที่คนใต้โปรดปรานมาช่วย ยืมจมูกคนอื่นหายใจ น่าสมเพช จากคุณ : นานาอาละวาด เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 16:47:52

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ คห.17 ผมว่าภาคเหนือ(บ้านผม)ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกันนะ จากคุณ : RX-ALCHEMIST (RX-ALCHEMIST) เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 22:34:20

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ คห. 18 คือมันโคตรเอาเปรียบผู้ลงสมัครท่านอื่นเลยฮะ เหมือนเอาเสาไฟฟ้ามาหาเสียง ก็ชนะแล้ว มันไม่ใช่การเมืองในระบอบประชาธิปไตยเลย โอ้ แถมชื่อทีม ก็เปลี่ยนไปใช้ชื่อเดียวกับชื่อพรรคระดับชาติอีก อนาถ อ่อ ผลการเลือกตั้งล่าสุด ดร.(ไม่รู้จ่ายครบ จบแน่รึเปล่า) คนเดิมก็ได้เป็นอีกในสมัยที่สาม ติดตามได้จากเว็ปนี้ http://gimyong.com/talung/index.php/topic,94128.msg585989/topicseen.html#new คนเทศบาลนครสงขลาซึ่งอยู่จากหาดใหญ่เพียง 28 กม. เค้ายังเปลี่ยน แต่หาดใหญ่เมืองที่เจริญกว่า กลับไม่ change จากคุณ : นานาอาละวาด เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 12:16:27