Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์ ตอนเก้า{แตกประเด็นจาก K12368893} ติดต่อทีมงาน

ท้ายกระทู้ที่แล้ว..ได้ขำกับคุณ aunty36 ไปพอแรง..ถ้าดิฉันได้ไปดูอย่างนั้นบ้าง..รับรองว่ากรี๊ดดังกว่า..(แหะ แหะ..แบบขวยอายนิดหน่อย)

ขอเล่าย้อนไปนิดนะคะ..ก่อนที่จะแท่ทัพซูคอฟจะเดินทางไปถึงโปแลนด์ เพราะประวัติศาสตร์ช่วงรอยต่อนี้น่าสนใจพอสมควร..

คือแม่ทัพซูคอฟและเม่ทัพวาสิเลฟกี้ที่ต้องประสานงานกันไล่บี้กองทัพเยอรมันในช่วงของสงครามเบเกรชั่นที่ยูเครนนั้น..คือช่วงเดียวที่สัมพันธมิตรได้ยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดีพอดี..คือวันที่ 6 มิถุนายน 1944
ทหารต่างมีกำลังใจ เต็มที่กับการรบ ทุกคนมองเห็นแล้วว่าต่างกำลังช่วยกันหยิบยื่นความหายนะให้กับนาซี

ในวันที่ 27 มิถุนายน สองทัพใหญ่ของโซเวียตได้เข้าปิดล้อม กองทัพที่
35 และกองพลรถถังที่ 41 ของข้าศึกเอาไว้ได้.. ทหารทั้งหมดที่ตกอยู่ในวงล้อมมีด้วยกันกว่าสี่หมื่น..
แม่ทัพซูคอฟ..ส่งงานต่อไปให้แม่ทัพอากาศ Rudenko (Sergei Ignatevich Rudenko ) บอกว่า..
จะทำอะไรก็ทำ..เราขอแค่นั่งดู...

ส่วนนี้ท่านได้เขียนไว้ในบันทึกว่า..
"เสียงระเบิดดังขึ้นลูกแล้ว..ลูกเล่า..ลูกไฟโชติช่วงในแทบทุกจุด  ทหารนาซีวิ่งกันพล่านไปในทุกทิศทาง..คนไหนยอมแพ้ออกมาก็รอด..ไม่ออกมาก็ตาย..
อนิจจา...เหล่าทหารนาซีที่ครั้งหนึ่งฮิตเล่อร์เคยให้คำมั่นสัญญากับพวกเขาว่า จะเอาผืนแผ่นดินนี้มาไว้ในใต้อุ้งเท้าให้ได้นั้่น..บัดนี้กลับต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่แทนเสียนี่.."

ภายในวันที่ 11 กรกฏาคม สภาพกองทัพเยอรมันที่ถูกปิดล้อมนั้น  หมดพิษสงลงไป ได้เชลยสงครามกว่าสามหมื่นห้า..เป็นนายพลสิบสองนาย
และเหล่าผบ. ตำแหน่งปลีกย่อยนับนวนนับสิบ
งานสะสางและแยกหมวดหมู่ของเชลยนั้น..ได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากกองทัพกองโจรที่กลายมาเป็นฝ่ายอบต. ประสานงานในเรื่องทำเอกสารต่างๆ
ซึ่งกองทัพ Partisan Army นี้...แม่ทัพซูคอฟถือว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลืองานสงครามของเบโลรุสเซียให้ลุล่วงไปด้วยดี..

สองสามวันจากนั้นมา..เสียงเรียกจากมอสความาถึง ให้ ซูคอฟและอันโตนอฟให้เข้าไปพบด่วน..

บ่ายสองโมง..แม่ทัพทั้งสองก็ถึงมอสควาอย่างรวดเร็วทันใจ..ไปพบกับท่านผู้นำที่บ้านพักฤดูร้อน
สตาลินมีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ..อาจเป็นเพราะแม่ทัพวาสิเลฟสกี้เพิ่งจะส่งรายงานมาถึงว่า..สถานะการณ์ทางฝั่งบอลติค..ราบรื่นเป็นไปด้วยดี...
สตาลินรีบชวนว่า..
"เรายังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย..มาร่วมโต๊ะกันเลยซิ"
สองแม่ทัพ..บอกว่า เรียบร้อยมาแล้ว...แต่ก็ไม่ปฏิเสธในคำชวนนั้น..

ในช่วงของการรับประทานอาหาร..ทั้งหมดได้สนทนากันถึงเรื่องสงครามที่เปิดฉากทั้งสองด้าน..เยอรมันจะเอาอะไรมารับมือได้..
ฝ่ายสัมพันธมิตรได้เหยียบย่างขึ้นฝั่งมาแล้ว..
แต่..สตาลินได้มีความเห็นว่า..
"เฉพาะกองทัพโซเวียตอย่างเดียว..เรามั่นใจว่าจะสยบเยอรมันได้อย่างแน่นอน แต่..การช่วยของสัมพันธมิตรนั้นก็ดี จะทำให้งานของเราเร็วขึ้น และง่ายขึ้น..เพราะกองทัพของเราจะได้พักเสียบ้าง กรำศึกกันมาหลายปีแล้ว.."

ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า..เยอรมันไม่มีทางรอดอีกแล้ว..จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้น..
มาถึงตอนนี้..ผู้ที่เข้ามาร่วมในการสนทนา..คือ โมโลตอฟและเหล่าพวกผู้แทนในสภา..ที่มีส่วนจะต้องรับรู้ด้วยว่า..
ฮิตเล่อร์ และ เหล่าขุนพลนาซีนั้น..มีทางเลือกอื่นหรือไม่..เช่นขอทำสัญญาสงบศึกแยกส่วน..กับ อเมริกา หรือ อังกฤษ??

ซึ่งสตาลินได้ตอบอย่างมั่นคงว่า..
"ฮิตเล่อร์อาจจะขอ....แต่..ทั้งรูสเวลต์..เชอร์ชิลล์ กับเรา..ได้ตกลงกันเป็นสัญญาของลูกผู้ชายแล้วว่า..ไม่มีทาง..นอกจากเยอรมันจะต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขกับฝ่ายเราเท่านั้น..อีกทั้งเมื่อจะมีรัฐบาลใหม่..ก็จะต้องเป็นรัฐบาลภายในอาณัติ..ไม่ใช่ลัทธินาซีอย่างแน่นอน"

สตาลินหันมาถามแม่ทัพซูคอฟว่า..
"แล้วเรื่องโปแลนด์..ว่าไง..จะไปไล่เยอรมันให้ออกไปไห้หรือยัง..ความจริงเราเคลื่อนพลไปให้ถึงแม่น้ำ Vistula ได้เลย...เพราะเรามีกองทัพโปลิช ที่หนึ่งคุมอยู่ที่แนวนั้นแล้วนี่..

แม่ทัพได้ตอบว่า
"ตอนนี้ไม่ใช่แค่ถึงแม่น้ำแค่กองทัพเดียวหรอกขอรับ..แต่เราได้ไปตั้งฐานทัพไว้หลายจุดเตรียมพร้อมต่อการที่จะเข้าเบอร์ลิน..ส่วนกองทัพโปลิชที่หนึ่ง..ก็พร้อมที่จะเข้าสู่วอร์ซอว์"

แม่ทัพอันโตนอฟได้สนับสนุนการเคลื่อนพลสู่เบอร์ลิน เพราะแนวหน้าของเยอรมันในแถบยูเครเนียนนั้น..ไม่มีพิษสงเหลืออยู่แล้ว..

สตาลินจึงให้นโยบายกับแม่ทัพซูคอฟว่า..
"งั้นนายก็ไปคุมทัพฝั่งแนวหน้า 1st Ukrainian กับ 1st Belorussian แล้วกัน
ส่วนการคุมแนวขนาบและเทคนิคต่างๆ..นายก็รู้อยู่แล้ว..เอาว่าเป็นไปตามนี้ ส่วนงานสต๊าฟทั้งหลาย..นายก็ไปจัดการ คัดเลือกเอา"

ตามแผนนี้..หมายถึงแม่ทัพซูคอฟจะต้องประสานกับแม่ทัพวาสิเลฟสกี้ ซึ่งได้รับการมอบหมายให้เข้าโจมตีกองทัพเยอรมันที่คุมที่ฝั่งเหนือและตะวันออกของปรัสเซีย..
แม่ทัพซูคอฟจึงขอทำการปรับทัพใหม่..เพราะแนวฝั่งนี้..เชื่อได้ว่าทางเยอรมันได้เตรียมตัวไว้อย่างแน่นหนา..
สตาลินถึงกับถามว่า..
"เอ๊ะ...นายกับวาสิเลฟสกี้นัดกันไว้หรือเปล่า..เพราะเขาก็เพิ่งขอปรับทัพกับเราเหมือนกัน.."
"เปล่าขอรับ..ไม่ได้นัดกัน...แต่..มันเป็นเรื่องจริง..ที่เราต้องทำถ้าต้องการจะหักด่านทางปรัสเซีย.."
"เออ..ใช่..เพราะเยอรมันต้องสู้อย่างถวายหัวแน่นอน เพราะมันจ่อถึงหน้าประตูบ้านแล้วนี่..เราอาจจะต้องติดพันตรงนั้นอีกระยะหนึ่ง..แต่..ก่อนอื่นเราต้องกวาดข้าศึกให้ออกไปจากเขต Lvov และตะวันออกของโปแลนด์ให้หมดก่อน"

นั่นหมายถึง..กองทัพโซเวียตจะต้องไล่ทำศึกในแนวยาวถึง สองพันสามร้อยกิโลเมตร และในแนวลึกถึงหกร้อยกิโลเมตร..
กับกองทัพของนาซีที่มีอยู่ด้วยกันมากกว่า ร้อยห้าสิบกองพล อย่างถึงพริกถึงขิง..ทุกคนได้ยอมรับสภาพของการที่จะต้องสู้จนถึงชีวิตของทหารคนสุดท้าย (ตามคำสั่งของฮิตเล่อร์ )
อีกทั้งก็เพื่อรักษาผืนแผ่นดินและชีวิตของครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง..

เดือนสิงหาคม กองทัพโซเวียตได้กำลังจะ...ย่างเท้าพร้อมที่จะเข้าสู่เขตทางตะวันออกของโปแลนด์..

แต่แล้ว...เกิดเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดฝันขึ้น...นั่นคือ เกิดการลุกฮือของชาวโปล์ที่รวมตัวกันก่อการขับไล่นาซี และเป็นการประกาศตัวว่า..ไม่เอาคอมมิวนิสต์..หรือที่เรียกว่า...The Warsaw Uprising 1944

แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 55 10:36:49

 
 

จากคุณ : WIWANDA
เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 09:08:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com