ความคิดเห็นที่ 1 1. ซากแถวไหนครับ  กำแพงเมืองกรุงศรีอยุธยาหนา 5 เมตร สูง 6 เมตร 2. เขามีประตูน้ำกั้นอยู่ 20 ประตู (ไม่อย่างนั้นฤดูน้ำหลากอยุธยาล่มก่อนพม่าตีแน่) จากคุณ : hijack02 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:47:20

ความคิดเห็นที่ 2 3 อโยธยา เป็นรัฐพ่อค้า รวยกว่า มีปืนใหญ่ที่ยิงไกลกว่า พม่าเป็นรัฐทหารเก่งเรื่องการจัดการกำลังพล จากคุณ : NecroLord เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 12:05:30

ความคิดเห็นที่ 3 ซากกำแพงที่เห็นอาจเป็นกำแพงวัดก็ได้ครับ ตัวกำแพงเมืองจริงจะหนาเตี้ยเพื่อ ป้องกันการทำลายจากปืนใหญ่ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 55 18:39:08 จากคุณ : EspressoFx เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 18:38:55

ความคิดเห็นที่ 4 เอ่อ ข้อสี่ข้อเดียว ในสมัยใกล้เสียกรุงครั้งที่สองพม่ารามัญยิงปืนใหญ่ข้ามหัวพระสรรเพชรปราสาทเลยนะครับ แม่นขนาดโดนยอดร่วงมาเลย จากคุณ : buta_king เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 19:36:17

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วเขาใช้วัตถุดิบอะไรทำกระสุนปืนใหญ่หรือคะ จากคุณ : dorachan999 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 19:47:00

ความคิดเห็นที่ 6 ปืนใหญ่สมัยก่อนความแม่นยำต่ำเอามากๆครับ     ขนาดสงครามประกาศอิสรภาพของอเมริกาตรงกับช่วงธนบุรี      กองทัพอเมริกากับอังกฤษยังต้องใช้วิธีตั้งแถวยิงกันอยู่เลย     ปืนใหญ่แทบไม่มีผลอะไรมากนัก ปืนใหญ่ที่อานุภาพพอๆกัน    คุณคิดว่ายิงจากที่สูงลงข้างล่าง    กับยิงจากข้างล่างขึ้นไปข้างบนนี่อย่างไหนจะได้เปรียบกว่าละครับ เกาะเมืองอยุธยาเคยได้ยินว่าพื้นที่ราวๆ5พันไร่       1ตรางกิโงเมตรเท่ากับ 625ไร่    625 ÷ 5,000   =   8 ตารางกิโลเมตร กระสุนปืนใหญ่ก็เหล็กไงครับ    แต่ต้องแบ่งเป็นยุคๆไป    ถ้ายุคเก่าๆก็เป็นกระสุนลูกเหล็กตัน (เป็นเหล็กกลมๆทั้งก้อน)     ถ้าสมัยหลังมาก็มีการพัฒนาใส่ดินระเบิดในลูกปืน    เป็นปืนใหญ่ลูกแตก จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 20:54:20

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากค่ะ คุณzodiac28 เห็นคุณzodiac28 ได้โพสต์ตอบมาหลายกระทู้เกี่ยวกับอยุธยาเลยอยากได้คำชี้แนะค่ะ สมัย ร. 1 ตอนสงครามเก้าทัพ บันทึกว่า ร. 1 ใช้ไม้มาทำกระสุนปืนใหญ่ยิงใส่เชิงเทินของพม่า เรื่องนี้จริงใช่ไหมคะ ถ้าไม้สามารถทนแรงอัดดินปืนได้จริงก็อาจใช้โลหะชนิดอื่นมาทำกระสุนก็ได้นี่คะ (เช่นทองสัมฤทธิ์) ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเก็บเหล็กไว้มากกว่า เพื่อทำตัวปืน หรือมีดดาบน่ะคะ ส่วนกำแพงเมืองก่ออิฐนั้นสร้างเสร็จสมบูรณ์ในสมัยไหนหรือคะ แล้วทำไมไม่สร้างกำแพงให้สูงขึ้นอีกหน่อยคะ แค่ 6 เมตรคิดว่าเตี้ยนะคะ จากคุณ : dorachan999 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 21:33:02

ความคิดเห็นที่ 8 กระสุนปืนใหญ่ในอดีตเรียกได้ว่าจับฉ่ายครับ       อย่างยุถโรปบางที่ก็เอาโซ่ยาวๆมาใส่แล้วยิง      โซ่สายาวๆพอผ่านตรงไหนก็ตัดขาดหมด   โดนคนก็ตัวขาดเละเทะ     แบบเดียวกับมอเตอร์ไซด์วิ่งผ่านลวดที่ขึงน่ะ     บางที่ก็เอาหอกดาบใส่ปืนใหญ่   ยิงออกมาก็กลายเป็นเหมือนกระสุนลูกปราย      แต่สงคราม9ทัพผมบอกตรงๆว่าไม่ค่อยรู้ข้อมูลเท่าใดนัก เอาอย่างอื่นมาทำกระสุน     แร่โลหะในอดีตหลักๆก็มีเพียง   ดีบุก   ทองแดง  ตะกั่ว    ทองคำ   เงิน    ทองคำกับเงินเลิกพูด     ดีบุก  ทองแดง  ตะกั่ว มันอ่อนกว่าเหล็กเยอะครับ       อีกทั้งกระสุนเหล็กนั้นยิงไปก็ไม่ได้เสียไปไหน      สามารถเก็บกลับมายิงใหม่ได้อีก        ในอดีตไทยเองก็ไม่ได้ขาดแคลนเหล็กอะไรนัก กำแพงเมืองก่ออิฐน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่3      ส่วนทำไมไม่สร้างให้สูงกว่านั้น      เพราะมันไม่จำเป็นไงครับ       ระยะหลังกำแพงเมืองหลักๆเอาไว้กันลูกปืนใหญ่มากกว่า    ต้องเน้นหนาเข้าไว้      จึงไม่จำเป็นต้องสร้างกำแพงเมืองสูง10-20เมตรแบบจีนโบราณ    ส่วนเรื่องป้องกันคนปีนกำแพง      คุณลองนึกภาพดูว่ากำแพงเกลี้ยงๆสูง6เมตร    ไม่มีร่องอะไรให้มือ-เท้ายันเลย       ใครจะปีนได้กันละครับ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 21:44:35

ความคิดเห็นที่ 9 รายการที่รบกันที่ลาดหญ้า ปรากฏว่าพอกองทัพพม่าตั้งค่ายลงที่เชิงเขาบรรทัด กรมพระราชวังบวรฯก็ให้ตีค่ายพม่า แต่พม่าสู้รบแข็งแรง ไทยตีเอาค่ายพม่ายังไม่ได้ ก็ตั้งรบพุ่งติดพันกัยอยู่ พม่าให้ปลูกหอรบเอาปืนใหญ่ขึ้นยิงค่ายไทย กรมพระราชวังบวรฯจึงให้เอาปืนใหญ่และปืนปากกว้างอย่างยิงด้วยท่อนไม้ใช้เป็นกระสุน ไปตั้งรายยิงหอรบพม่าหักพังลงและถูกผู้คนล้มตายจนพม่าครั่นคร้ามไม่กล้าออกมาตีค่ายไทย Credit : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rattanakosin225&month=16-03-2007&group=2&gblog=9 จากคุณ : LegalisM เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 55 00:53:12

ความคิดเห็นที่ 10 ชนิดกระสุนแล้วแต่วัตถุประสงค์ครับ กระสุนเหล็กตัน สำหรับทำลายกำแพง กระสุนลูกแตก ลูกปราย กระสุนโซ่ สำหรับยิงทหาร กระสุนไม้ซุง สำหรับทำลายเชิงเทิน หอรบ กำแพงยิ่งสูงยิ่งถูกทำลายด้วยปืนใหญ่ได้ง่าย เนื่องจากปืนใหญ่ความแม่นยำต่ำ ต้องสร้างกำแพงเตี้ย กระสุนบางส่วนจะข้ามกำแพงไป ส่วนการเพิ่มวิถีให้ยิงได้ไกลขึ้นคือถมดินให้สูงขึ้น เนื่องจากกำแพงเตี้ยจึงสร้างคูล้อมเพื่อไม่ให้ประชิดได้ง่าย และตั้งปืนไว้บนกำแพงเพื่อไม่ให้ปืนใหญ่เข้าใกล้ จากคุณ : EspressoFx เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 55 01:16:53

ความคิดเห็นที่ 11 กำแพงล้อมเกาะอยุธยา  ผมลองวัดดูเคร่า ๆ จากกูเกิล ยาวประมาณ 12 กิโล ครับ กำแพงเดิมหนาแบบในหนังฝรั่งครับ มีทางให้คนเดินวิ่งถึงกันได้  ปืนใหญ่ก็น่าจะตั้งใด้ครับ  ส่วนข้าศึกที่เอาปืนใหญ่มายิงก็ต้องคิดว่า พม่าจะขนปืนใหญ่ข้ามห้วย ข้ามภูเขา ข้ามแม่น้ำมาคงจะลำบากถ้าเป็นปืนใหญ่ ๆ แบบหน้ากระทรวงกลาโหม น่าจะเป็นแบบเล็ก ๆ แบบมีล้อเข็นได้ คิดเอาแค่จะแบกลูกปืนเหล็กขนาด 6 นิ้ว มาสัก 100 ลูกนี่ก็ใช้ช้างเกือบสิบตัวแล้ว แล้ว อ้าย 100 ลูกนี่ แบ่งกันไปหลายหมวดหมู่คงได้ไม่กีลูก ยิงหมวดละ 10 ลูกก็ไม่ถึง ชั่วโมงก็หมดแล้ว น่าจะปล้นเอาจากเมืองที่ตีได้ตามทางนั่นแหละครับ  พวกเมืองที่แตกส่วนมากจึงเอาปืนฝังหรือถ่วงน้ำ หรือไม่ก็อุดรูชนวน  ครั้นจะหาแร่เหล็กมาหล่อกับที่ก็คงลำบาก  เพราะไม่ใช่ดินใช่ทรายหาขุดเอาแถวใหนก็ได้ แหล่งมันมีจำกัด  หรือจะไปหาเก็บเอาลูกปืนที่ข้าศึกยิงเข้ามาก็น่าจะง่ายกว่า   ถ้าพม่ามันยิงข้ากำแพงไม่ได้มันทำหอรบสูง ๆ เอาปืนขึ้นไว้ข้างบนเพิ่มระยะและความสูงการยิงข้ามกำแพง       สำหรับกำแพงโดยทั่วไปก็จะปิดหมด  เปิดได้เฉพาะตรงประตูซึ่งมีชื่อต่าง ๆ กันไป มีกี่ประตูผมจำไม่ได้ครับ  แต่ก็จะมีช่องเล็ก ๆ ไว้ตามปากคลองที่เชื่อมกับแม่น้ำรอบเกาะ  เช่น คลองท่อ คลองมะขามเรียง เพื่อเป็นทางระบายน้ำจากแม่น้ำเข้าไปเก็บไว้ในคลองภายในตัวเกาะ( บึงพระรามเป็นอ่างเก็บน้ำใหญ่)   เรียกว่าาช่องกุด  ตอนหน้าน้ำน้ำก็จะใหลเข้าได้  แต่พอน้ำเริ่มแห้งเขาก็จะเอาซุงมาปักปิดช่องกุดและเอาดินถมกลางเพื่อกักน้ำในคลองต่าง ๆ ไว้  ถ้าเหตึการณ์ปกติไม่มีศึกมาก ช่องกุดก็คงทำไว้พอกันน้ำออก  แต่ถ้ามีสงครามคงจะต้องปิดให้มิดชิดครับ   อ้ายที่ว่าเผากำแพงผมเดาเอาว่าคงจะเผาแถว ๆ ช่องกุดนี่แหละ พอซุงมันใหม้ดินมันก็พังลงมา เหลือแต่ซุงข้างในก็พังง่ายเข้า จากคุณ : วรรณเกษม เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 00:27:11

ความคิดเห็นที่ 12 "ซากกำแพงเมืองสมัยนี้ ตัวกำแพงหนาเท่ากับใบเสมาเท่านั้นเอง" ก็ตอนที่ย้ายเมืองหลวงก็เอาอิฐมาจากกรุงเก่านั่นแหล่ะครับ เลยเหลือแค่นั้น ไม่งั้นกรุงใหม่ไม่สร้างเร็วขนาดนี้หรอกครับ จากคุณ : arata_arty เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 10:54:12