| 
ไทยเราไม่ได้ปฏิเสธฝรั่งไปทั้งหมดหรอกครับ  เพียงแต่ไม่ไว้ใจเฉพาะพวกฝรั่งเศส ฝรั่งเศสเองก็พอดีมีเรื่องทำสงครามกับพวกฮอลันดา  ก็เลยไม่ได้มายุ่งกับไทย  พอฝรั่งเศสชนะก็เลยอยากจะหันกลับมาทำสัมพันธไมตรีให้ดีเหมือนเดิม  โดยส่ง บาดหลวง ตาชาร์ดคนเดิมมาเป็นทูต 10 ปีให้หลัง โดยหวังจะขอเมือง(เกาะ) มะริดอีก  ไทยเราก็ต้อนรับแบบเดิม แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ เพราะบาดหลวง แกถือหนังสือพระเจ้าหลุยส์ฉบับเก่ามา ไทยเราก็คลางแคลงใจ  ผลปรากฏว่าไม่มีอะไรคืบหน้า  แต่กับฝรั่งชาติอื่น ๆ ก็ทำมาค้าขายกันปกติ 
 ความจริงผมว่าตอนนั้นถ้าพระเพทราชาไม่ทำการรัฐประหาร  พระอนุชาของพระนารายณ์  ก็คงจะได้ขึ้นครองราชแทน  พระอนุชาองค์น้อยมีคิวว่าจะสมรสกับพระธิดาของสมเด็จพระนารายณ์  ซึ่งทั้งคู่ก็เกลียดพวกฝรั่งเศสเหมือนกัน  ฟอลคอนจึงตั้งใจชูพระปียร์ขึ้นมาแทน  ตัวฟอลคอนเองคงไม่ได้คิดใหญ่โตขนาดทำการปฏิวัติเอง  ตัวเองก็มีแผนจะไปใช้ชีวิตในฝรั่งเศสอยู่แล้ว  ถึงขนาดเอาเงินลงทุนหุ้นกับบ. อิสอินเดีย ฝรั่งเศส และตัวเองก็ได้รับยศเป็นมาควิส (?) จากพระเจ้าหลุยส์อีกต่างหาก  แกคงคิดแค่หาผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
 
 ฝรั่งเศสในตอนนั้นก็ยังไม่ถึงขนาดจะยึดเอาประเทศไทยเป็นอาณานิคมเหมือนฝรั่งเศสยุคหลัง   เพียงแต่ต้องการความสะดวกสบายและอภิสิทธในการค้าเป็นพิเศษ และต้องการทำเลที่ตั้งทัพเรือสำเภา( ซึ่งสมัยนั้นยังไม่ใช้ทหารเดินเรือ เป็นแต่เรือพ่อค้าและลูกเรือธรรมดา) ประจวบกับฟอลคอนเสนอแผนการณ์ลุกเงียบ  ให้พระเจ้าหลุยส์ส่งสามัญชน( ไม่ใช่ทหาร) เข้ามาอยู่ในราชสำนักสยาม  เพื่อค่อย ๆ แทรกซึมเสริมอำนาจและกำลังพลตนเอง  โดยให้ตัวฟอลคอนเองคุมเกมส์  มีการกล่าวบ้างจากทางฝรั่งเศสเหมือนกันในบางตอน ว่าถ้าไม่ได้ คุมบางกอก  ก็อาจใช่กำลังทหาร  แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่  ทั้งหมดนี่อาจเป็นเพราะพระเจ้าหลุยส์ใจร้อนเกินไป  ส่งกำลังทหารมาแบบชัดเจน  คนสยามก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา ชาติอื่น ๆ กษัตริย์เขาไม่ได้เล่นโดยตรง  เขามาแต่กองเรือพ่อค้า ซึ่งก็มีลูกเรือทำหน้าที่เป็นกองสู้รบไปด้วยเมือเวลาจำเป็น
 
				 
				
					| จากคุณ | : 
วรรณเกษม     |  
					| เขียนเมื่อ | : 
6 ส.ค. 55 00:57:26 |  
					|  |  |  |