ความคิดเห็นที่ 1 I looked at the first essay and did not want to look at the second because I am not a masochist. I don't want to make myself suffer too much when seeing poorly written essay. Practically every sentence is either grammatically incorrect or awkwardly expressed. The reason is OK. The writing is really bad. First one is Cancer. (Who taught you to write "Cancer"? Is "Cancer" a proper noun like London, Tokyo?). Second is Accident The last rank is Dyslipidemia in recent years Thailand has a population around 64 million people and 3 ranks of health problems (This is terrible expression and grammatically incorrect). etc etc etc. I really don't want to discourage you, but you need to do better than this. Go back to read basic grammar book and do all the exercises. If you can do structure test and error-recognition test at least 95% correct, I am sure that your essay will not be this bad. When I was in MS.5, at mid-term English test I scored 100% correct on structure part. When I wrote my first essay about 100 words in high school, I did not commit even a single grammatical mistake. I still remembered that I got 9 out of 10. I could do that because my grammar was good. I also read a lot (more than 200 graded readers in high school). I used Oxford Advanced Learner's Dictionary. If in doubt, I consulted this dictionary. Hope that you can learn a little from my critical comment. I really hate when I see bad writing full of simple grammatical errors. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 02:34:22

ความคิดเห็นที่ 2 Read this link as well. Read carefully. It will do you a lot of good if you really want to write a good essay. http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K12457271/K12457271.html จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 02:39:18

ความคิดเห็นที่ 3 grammar ผิดเพียบ There is a lot of people.... ใช้สำนวนไทยแล้วมาแปลเป็นอังกฤษแบบคำต่อคำยังไงก็ไม่เวิค Death may come from a variety of reasons..... จากคุณ : muateng เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 02:50:46 A:171.99.214.221 X: TicketID:358300

ความคิดเห็นที่ 4 การเขียน essay ให้คนอื่นแก้ มันช่วยให้เรียน writing ได้เฉพาะถ้าผู้เรียนพอสร้างประโยคง่ายๆได้แล้ว แต่ถ้ายังสร้างประโยคง่ายๆผิดหมด มันไม่ได้ผลหรอก เพราะจุดแก้มันมีเยอะมากๆ ซึ่งพอแก้ไปแล้วนักเรียนก็งงจนท้อใจ จริงๆแล้วอาจารย์คุณไม่ควรให้การบ้านเขียน essay เพราะนักศึกษาเอาไปให้คนอื่นแก้งานแล้วเอามาส่ง อาจารย์ก็ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การสอนไม่ได้เพราะไม่รู้ว่า "จริงๆแล้วนักศึกษาเอางานตัวเองหรืองานคนอื่นมาส่งให้ตรวจ" แต่อาจารย์ควรให้ตัวอย่างประโยคง่ายๆแค่ทีละประโยค แล้วให้นักศึกษาหัดเขียนมันพลิกแพลงกลับไปกลับมา โดยเขียนมันในสถานศึกษาเดี๋ยวนั้นเลย ผลัดกันเขียน แล้วเอามาฉายขึ้นจอให้ทุกคนดูข้อผิดพลาดของกันและกัน เพื่อการเรียนรู้ ตอนนี้เราสอนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวให้นักเรียน 2 ระดับ แบบไกลกันสุดกู่เลยหละ คือระดับแรกสอนตั้งแต่ verb to be ง่ายๆเพราะนักเรียนอ่อนมากๆ แต่อีกระดับหนึ่งคือนักเรียนพูดอังกฤษได้คล่องรู้เรื่องแล้ว (นักเรียนทำงานกับฝรั่ง) และนักเรียนทำข้อสอบ grammar ของ TOEFL ได้คะแนนเต็ม แต่ก็ยังเขียนภาษาอังกฤษได้แค่สอบผ่าน TOEFL แต่นักเรียนอยากเขียนให้ดีกว่านั้น แต่เวลาเราสอนเขียนเรายังแค่สอนให้เขียนสั้นๆพลิกกลับไปกลับมา ไม่ให้เขียน essay ยาวๆแบบนี้ เพราะการเขียนสั้นๆแต่เปลี่ยนคำศัพท์และเปลี่ยน sentence structure types ไปบ่อยๆกลายเป็นทำให้นักเรียนเรียนได้เร็วรู้รวดเร็วกว่าและกว้างไกลตั้งหลายเท่ามากกว่าอยู่ดีๆมาเขียน essay เรื่องเดียวยาวๆแบบนี้ ถ้าอาจารย์คุณให้นักศึกษาเขียน essay ยาวๆแบบนี้ แล้วอาจารย์คุณต้องสอนนักศึกษาตั้ง 20 คนที่อ่อนเหมือนคุณหมด อาจารย์คุณมีทางทำได้ 2 ทางคือ 1. อาจารย์ แก้ essays นักศึกษาจุดที่ผิดให้ครบหมดทุกจุด แล้วอาจารย์ก็ซัดพาราวันละกำๆ แล้วอาจารย์ก็เครียดจนไปผูกคอตายในที่สุด 2. อาจารย์ แก้ essays มาลวกๆ แล้วเขียนกำกับว่า "Very good" แล้วปล่อยให้นักศึกษาอ่อนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ สรุป การเรียนการสอน writing แบบที่อาจารย์สอนคุณอยู่ และแบบที่คุณเรียนอยู่ "มันไม่ได้ผล!" แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 55 11:03:01 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 10:58:29

ความคิดเห็นที่ 5 เรามาดูเรื่องง่ายๆที่คุณไม่รู้กัน (ซึ่งถ้าไม่รู้คุณก็เขียนประโยคง่ายๆยังไม่ได้เลยหละ)  ซึ่งถ้าอาจารย์คุณสอน writing เก่งมากๆ เขาจะต้องแก้ไขเยียวยาคุณในเรื่องพวกนี้ก่อนให้การบ้าน essay คุณ เริ่มจาก Every year there is a lot of people died. there is a lot มันผิด การใช้ there is กับ there are นี่มัน grammar มัธยมต้นนะคุณ สมมุติว่าแก้ให้ถูกเป็น there are a lot of people แต่ถ้าเขียนว่า Every year there are a lot of people died. ^ มันก็ผิดอีกนั่นแหละ เพราะ Every year there are a lot of people มันเป็น subject ที่ทำกริยา died ไม่ได้ ^ ที่คุณไม่รู้ส่วนนี้ก็เพราะว่าคุณไม่เคยเรียนว่า "อะไรใช้เป็น subject ของประโยคได้บ้าง" Death may come from a variety of reasons and from research the population of two countries is in the top 3 rankings that is a cause most health problems to death. ^ เขียนแบบนี้ตีความได้ว่า "การตายเกิดจากงานวิจัยได้อีกด้วย" First one is Cancer; cancer is a high mortality particularly met cancer in the spread stage. ^ ตรงนี้ดูดีๆว่า ไม่มี subject ที่ทำกริยา met  ที่ผิดแบบนี้ก็เพราะว่า "คุณเขียนมันด้วยโครงสร้างภาษาไทย" Second is Accident, accident may happen from drink alcohol and out of control. ตรงนี้ใช้ drink ผิดรูปแบบ (ซึ่งนี่ก็ grammar มัธยมต้น) America is the country has almost cold and Thailand of course weather is so hot. ^ ตรงนี้ผิดหลายแบบ สุดแต่จะมองมัน เช่นไม่มี relative pronoun หรือใช้ part of speech ผิดหรือใช้ article ผิด On the other hand, Thailand lives in tropical climate then have a lot of raw materials example is rice, vegetable, fruits and so on, but consumption of Thai not different from America. ^ อันนี้ผิดได้หมัศจรรย์มากๆ คือตรรกะมันผิด ตรง Thailand lives ส่วนใหญ่คนหรือสัตว์ทำกริยา live (อยู่อาศัย) ไม่ใช่ประเทศ And alcohol is always having in the party. ^ เขียนแบบนี้กลายเป็น alcohol เป็น subject ทำกิริยา is having คือ alcohol เป็นเจ้าของอะไรสักอย่างหนึ่ง (ที่ไม่ระบุ) แต่ไม่ได้หมายความว่า ที่ party มี alcohol ให้คนดื่ม ....................................................................... เราไม่รู้ว่าคุณเรียนอยู่ระดับไหน แต่จะบอกให้ว่าวิธีเยียวยา ไม่ใช่อาจารย์ให้การบ้านนักศึกษาเขียน essay ไปส่ง แล้วนักศึกษาก็ไปจ้างวานคนอื่นแก้แล้วมาส่ง เพราะจะทำให้อาจารย์สอนผิด เพราะหลงคิดว่านักศึกษาเก่งแล้ว วิธีเยียวยาก็ต้องทำโดยนักศึกษากลับไปหาอาจารย์แล้วพูดว่า โปรดสอนหนูเขียนประโยคง่ายๆก่อนเช่น This is a pen. There are many pens. หรืออะไรทำนองนั้น คือกลับไปทวนใหม่หมดตั้งแต่ verb to be เหมือนเริ่มเรียนมัธยม 1 ใหม่ ไม่ใช่อยู่ดีๆให้การบ้านเขียน essays ยาวๆแบบนี้  เพราะถ้าเขียนผิดเยอะขนาดนี้ ต่อให้มีคนแก้ให้ทุกวัน เขียนไปอีก 10 ปี ก็ยังเขียนผิดอยู่ดีนั่นแหละ เพราะแก้ไปเฉยๆมันไม่ได้ทำให้เขียนถูก แต่มันต้องอธิบายด้วยว่าเรื่องที่เขียนผิดนี้มันเข้าข่าย topics ไหน และมีเนื้อหาอะไรบ้างที่จะต้องเรียนเพื่อค่อยๆวางฐานรากให้มั่นคงก่อนที่จะสร้างเป็นอาคารสูงๆใหญ่ๆอันสวยงามได้ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 55 15:27:34 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:23:29

ความคิดเห็นที่ 6 ชัดเลย....เราเหมือน เจ้าของกระทู้เปะเลยค่ะ เตรียมตัวสอบ ไอเอลอยู่ แต่ไม่กล้าสอบซักทีเพราะเขียนโครงสร้างประโยคไม่ได้ ครั้งแรกที่อ่านข้อความเราก็คิดแค่ว่า อืม...มีเหตุผล อ่านแล้วเข้าใจดี จนไม่ทันสังเกตุว่า มีข้อผิดพลาดมากขนาดนี้จนได้อ่านคอมเม้นท์ของทั้ง 2 ท่าน เลยรู้สึกตัวเลย ว่าต้องเริ่มใหม่หมดจริงๆ  TT ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ มิ๊กก็คงต้องฝึกอีกหนักเหมือนกัน สู้ๆๆนะคะ ปล. มาพยายามด้วยกันน๊าาาา แล้ว คงต้องขอคำแนะนำจาก อ. ทั้งสองท่านด้านบนด้วยนะคะ จากคุณ : Mickey_Oops เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 17:25:08

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ยอมรับเลยว่าภาษาอังกฤษห่วยแตกมากๆ พื้นฐานศัพท์ก็ไม่ดี แกรมม่าก็ไม่ได้เรื่อง แต่อันนี้เป็นงานกลุ่มที่รีบส่ง เพื่อนคนหนึ่งอาสาเขียน เพราะเห็นว่างานเพื่อนเยอะ (ถึงเขียนเอง ยังไงก็คงไม่ต่างจากนี้ T-T) ซึ่งพออ่านแล้วก็ไม่รู้อยู่ดี ว่ามันผิดมั้ย เพราะความที่ไม่รู้ เลยเอามาโพสถาม เผื่อจะผิดไม่มาก  แต่ปรากฏว่ามันกลายเป็นการเขียนที่แย่มากๆซะงั้น มาตั้งกระทู้ครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า ต้องไปเริ่มต้นใหม่ ทวนตั้งแต่ม.ต้นเลย ขอบคุณมากๆอีกครั้งสำหรับคำแนะนำค่ะ แล้วจะนำคอมเม้นที่ได้ ไปพยายามให้มากขึ้นค่ะ :) จากคุณ : ไอแอมฮาลี่ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 19:26:34