Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตลาดหนังสือออนไลน์ แก้ปัญหากินดิบ 1 % ติดต่อทีมงาน

กระแสทัศน์ มติชนรายวัน  วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555  ตลาดออนไลน์ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์

สํานักพิมพ์ใหญ่สองแห่ง ซึ่งเป็นสายส่งใหญ่ด้วย ร่วมมือกันขึ้นราคาค่าวางหนังสืออีก 1% จนทำให้สำนักพิมพ์เล็กที่ต้องอาศัยสองแห่งนั้นวางตลาดให้ พากันโวยวายว่าเป็นการเอาเปรียบกันเกินไป

ทันทีที่ผมได้ยินข่าวนี้ ผมนึกถึงอินเตอร์เน็ตในฐานะตลาด ซึ่งผมขอใช้ในความหมายรูปธรรมว่าที่ขายของนี่แหละครับ สำนักพิมพ์เล็กน่าจะร่วมมือกันเปิดตลาดออนไลน์ขึ้น แม้ว่าอาจไม่สามารถเป็นอิสระจากสายส่งใหญ่ได้โดยสิ้นเชิง แต่อย่างน้อยก็บรรเทาผลกระทบลงได้ หากสามารถขายหนังสือได้โดยตรงเป็นสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น

คำอธิบายของสำนักพิมพ์ใหญ่ซึ่งขอขึ้นราคาค่าวางตลาด เท่าที่ผมได้ฟังทางทีวี และรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง มีว่า ต้นทุนการวางตลาดหนังสือตามร้านของสำนักพิมพ์ ซึ่งกระจายตามห้างสรรพสินค้าไปจนถึงสนามบินทั่วประเทศนั้น สำนักพิมพ์ใหญ่ต้องเป็นผู้แบกรับแต่ผู้เดียว ในขณะที่แรงงานราคาสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องขอขึ้นราคา

คนนอกวงหนังสืออย่างผมฟังแล้วก็ออกจะงง เท่าที่ผมเข้าใจ หนังสือหนึ่งเล่มนั้นมีผู้เข้ามาร่วมในการแบ่งกำไรกันดังนี้คือ 1. ผู้เขียน 2. ผู้พิมพ์ 3. สำนักพิมพ์ 4. ผู้จัดจำหน่าย (หรือที่เรียกกันว่าสายส่ง) และ 5. ร้านหนังสือ

แน่นอนว่าเพื่อจะเอาส่วนแบ่งกำไรดังกล่าว ทุกฝ่ายมีต้นทุนต้องจ่ายทั้งสิ้น ร้านหนังสือก็มี นับตั้งแต่เช่าที่ไปจนถึงจ้างแรงงาน ถ้าค่าแรงสูงขึ้นจนต้องเพิ่มราคา เหตุใดผู้พิมพ์และผู้จัดจำหน่ายจึงสามารถรับได้ แต่ร้านหนังสือรับไม่ได้

อันที่จริง เรื่องมันคงซับซ้อนกว่านั้น เพราะผู้จัดจำหน่ายในปัจจุบันไม่ได้เป็นแต่เพียง "สายส่ง" คือไม่ใช่แค่เอาหนังสือไปวางตามแผง หรือร้านหนังสือ แล้วก็รอเก็บเงินส่งคืนสำนักพิมพ์เท่านั้น ผมเข้าใจว่า เรื่องมันเริ่มจาก เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ผู้พิมพ์หรือโรงพิมพ์ขยายงานของตนไปสู่การเป็นสำนักพิมพ์ ในขณะเดียวกันก็มีนิตยสารเป็นของตนเองเพื่อเลี้ยงโรงพิมพ์ให้มีงานทำตลอดเวลา ทำให้ฐานะการเป็นสำนักพิมพ์สมบูรณ์ขึ้นด้วย เพราะสามารถใช้นิตยสารของตนโฆษณาหนังสือที่ตนผลิตขึ้นได้สะดวก (และในภายหลัง เมื่อกิจการใหญ่โตขึ้น ก็อาจโฆษณาผ่านการจัดอีเวนต์หรืออื่นๆ ได้อีก)

หากนิตยสารของตนประสบความสำเร็จ มีผู้อ่านจำนวนมาก ก็เริ่มวางหนังสือเองเพราะไม่มีเหตุผลที่จะต้องแบ่งกำไรส่วนนี้ให้แก่สายส่ง จากนั้นก็เขยิบฐานะขึ้นทำงานเป็นสายส่งเสียเอง

เพราะไหนๆ ก็ต้องวางหนังสือของตนเองอยู่แล้ว ซ้ำมีช่องทางที่จะเป็นผู้จัดจำหน่ายได้เก่งกว่าสายส่งเก่าๆ เสียด้วย เพราะมีแรงจะโฆษณาสินค้า ซ้ำมาในภายหลังยังสามารถเปิดร้านหนังสือของตนเองทั่วประเทศ (ตามจุดที่เป็นตลาดใหญ่เสียด้วย) การซื้อบริการสายส่งของสำนักพิมพ์ใหญ่เหล่านี้จึงเป็นข้อได้เปรียบทางการค้า

ดังนั้น ในห้าห่วงของการผลิตหนังสือหนึ่งเล่ม สำนักพิมพ์ใหญ่ๆ กลืนกินไปแล้ว 4 ห่วง เหลือแต่นักเขียนที่ยังไม่ถูกกลืนลงไปเพียงห่วงเดียว (แต่จำนวนมากก็กลายเป็นพนักงานของบริษัทสี่ห่วงไปพร้อมกัน)

 
 

จากคุณ : Anemone2526
เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 13:50:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com