ความคิดเห็นที่ 1 3 ปี แล้ว ขอได เหรอ ครับ ไม่ใช่ 5 ปี มี หนังสือ 2 เล่ม งาน วิจัย 1 เหรอ ครับ ที่ ถาม เพราะ กำลังจะขอ จากคุณ : Mobile 2003 เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 10:04:54

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเหตุผลที่ขอแล้วไม่ได้ คือ "งานที่ขอประเมินยังมีคุณภาพไม่ถึง" นี่น่าอายอยู่ครับ และถ้าคิดว่า ที่ทำไปนั้นดีแล้ว ก็จะเล่นเอาไปไม่เป็นเหมือนกัน เลยไม่ค่อยแปลกกับเรื่องที่คุณเล่ามาครับ จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 10:32:41

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ Mobile 2003 รุ่นพี่ท่านนั้นจบเอกครับ ถ้าจบเอกทำงาน 3 ปีก็ขอได้ครับ ขอให้คุณ Mobile 2003 ขอแล้วได้สมหวังนะครับ คุณ Players ขอบคุณครับ ที่คุณ Players ว่าไม่แปลกใจ แสดงว่าเป็นเรื่องน่าอายจริงๆสินะครับเนี่ย แต่ถ้ามองแบบคนวงนอก ถ้าโดนบอกว่าคุณภาพไม่ถึง ก็ปรับปรุงคุณภาพ แล้วปีหน้าก็ยื่นใหม่แบบนี้ไม่ได้เหรอครับ หรือมันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้นเหรอครับ จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 10:55:16

ความคิดเห็นที่ 4 คห 1 ระยะเวลาการขอ ผศ ขึ้นกับวุฒิ วุฒิ ป.ตรี ต้องทำงานสอนอย่างน้อย 9 ปี วุฒิ ป.โท ต้องทำงานสอนอย่างน้อย 5 ปี วุฒิ ป.เอก ต้องทำงานสอนอย่างน้อย 2 ปี ถึงจะขอ ผศ ได้ จากคุณ : ฟุตลอง เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 10:56:34

ความคิดเห็นที่ 5 มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอกครับ แต่ที่รับกันไม่ได้อยู่ที่ระบบมากกว่า   บางคนเก่งจริงๆ   ส่งเรื่องไปแล้วฟังคอมเมนท์ของกรรมการแล้วรับไม่ได้   เพราะคอมเมนท์พวกนั้นมันแสดงว่ากรรมการไม่รู้จริง แต่ระบบไม่เอื้อให้สามารถเปลี่ยนตัวกรรมการได้ เพราะฉะนั้นคุณมีทางเลือก 2 ทาง   ระหว่างยอมแก้ไขตามความเห็นปัญญาอ่อน   กับไม่ได้ตำแหน่งแต่ทิ้งเอกสารไว้อย่างที่คุณคิดว่าถูก คุณเลือกแบบไหนล่ะ จากคุณ : Tanis เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 11:06:29

ความคิดเห็นที่ 6 คุณฟุตลอง ป.เอกจะขอผศ 2 ปี จริงๆด้วยครับ ขออภัยที่ข้อมูลผิดครับ คุณ Tanis ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ถ้ายื่นขอก็จะเจอกรรมการชุดเดิมเหรอครับ และกรณีที่ยื่นขอแล้วไม่ผ่าน เพราะผลงานไม่ถึงจริงๆ ก็คงมีใช่ไหมครับ ถ้าเป็นกรณีนี้ทำไมบางท่านถึงถอดใจหละครับ จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 11:47:32

ความคิดเห็นที่ 7 เท่าที่ทราบ เกณฑ์ ตอนนี้ บทความวิจัย จำนวน 1 เรื่อง (ไม่จำเป็นต้องส่งตัวเต็ม แต่ก็บางสาขาก็มักให้ส่งฉบับเต็มไปด้วย) บทความวิชาการ  อย่างน้อย 1 เรื่อง นี่คือ ให้ กรรมการจากภายนอกพิจารณา ส่วนกรรมการภายในสถาบันพิจารณา เอกสารประกอบการสอน การสอน การขอแล้วไม่ได้นี่  มันก็น่าเสียหน้าจริงๆ นะครับ  แล้วก็คงอายมากๆ ว่าแต่ กรรมการ ปัจจุบัน ยังให้ข้อเสนอแนะอะไรได้อีกไหมครับ เพราะ เปลี่ยนมาพิจารณา ผลงานจาก บทความวิจัย และ บทความเสียแล้ว ไม่เหมือนรุ่นกก่อน ที่ส่ง จากเอกสารประกอบการสอน เฉย ๆ จากคุณ : โยคีรำพัน เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 12:03:35

ความคิดเห็นที่ 8 คุณโยคีรำพัน ขอบคุณมากครับ แต่ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าที่หลายท่านว่าเสียหน้าและน่าอาย คือเสียหน้ากับใคร อายใคร เหรอครับ กับเพื่อนร่วมงานอ.ท่านอื่นๆ หรือกับธุรการฝ่ายสนับสนุน หรือกับผู้บริหาร หรือกับนักศึกษา หรือกับคณะกรรมพิจารณา ถ้าผมมองแบบทั่วๆไป ว่าถ้าไม่ผ่านปีหน้าก็ยื่นใหม่ ไม่ได้เหรอครับ หรือว่าถ้าเคยยื่นแล้วไม่ผ่าน ปีต่อๆไปยื่นแล้วโอกาสผ่านจะลดลงหรือไม่ครับ หรือเป็นไปได้ไหมครับว่า บุคลากรสายนี้เรียนเก่งมาตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยทำอะไรผิดพลาด เลยยอมรับความผิดพลาดไม่ได้ ไม่ทราบว่าเกี่ยวไหมครับ (อันนี้เดาล้วนๆเลยนะครับ) ยังไงขอเอาใจช่วยให้คุณโยคีผ่านสมหวังนะครับ จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 12:55:38

ความคิดเห็นที่ 9 คุณผมรู้ครับ ผมไม่ได้พูดถึงคนที่ถอดใจ   ผมพูดถึงคนที่เก่งจริงและไม่แคร์โลก   คนแบบนี้มีจริง   อย่างน้อยในชีวิตผมก็เจอมาสามคนแล้ว จากคุณ : Tanis เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 13:40:27

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างรีบนว่าครับ มีสองกรณีคนที่ถอดใจ  ซึ่งเป็นเรื่องของทัศนคติ ต้องรอให้เจ้าตัวกลับมาภูมิใจตัวเองให้ได้อีกครั้งครับ อีกกรณีคือ การเป็นคนเก่ง และไม่คิดว่า กรรมการแนะนำได้กระจ่างนัก หรือ ไม่รู้เรื่องที่เขาทำ กรณ๊นี้ก็เลยไม่ขอครับ คุณผมรู้  อ่าไปตัดสินเขาเลยครับ แค่เขาพลาดการพิจารณาเขาก็เสียใจมากอยู่แล้วครับ คุณจะให้ทุกคนลุกขึ้นมาสู้ใหม่อย่างรวดเร็ว ทุกคนเป็นไปไม่ได้หรอกครับ แล้วการที่เขาบอกว่า "อาย" เขาก็อายจะอายจริง ๆ ครับ  มันคือการทำลายความภาคภูมิใจของตนเอง โดยกระบวนการวิชาการ อย่างสาหัส อยู่ครับ  ให้เวลาเขาหน่อยนะครับ เรื่องแบบนี้ ไม่เกิดกับตัว ไม่รู้หรอกครับ ว่าความรู้สึกมันเหวอะหวะขนาดไหน จากคุณ : โยคีรำพัน เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 14:56:29

ความคิดเห็นที่ 11 เล่าเรื่องของเพื่อนอีกคนนะคะ เขาส่งไปขอผศ. ผ่านไปปีกว่า ผลออกมาว่าไม่ได้ ถึงกับอึ้ง เพราะอย่างที่บอก เมื่อสิบปีก่อน มันไม่ได้ขอยากมากมาย ไม่ได้นี่มีเสียหน้าแน่นอน และเพื่อนคนนี้เป็นคนเก่งมากด้วย จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากจุฬา จบโทที่อังกฤษ วันที่รู้ผลเป็นวันศุกร์เย็น ต้องรออีก 2 วันกว่าจะถึงวันจันทร์กว่าจะโทรไปถามเจ้าหน้าที่ ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ดูแล้วบอกว่าคิดว่าขอรศ. ถ้าดูจากผลคะแนน ถ้าขอผศ. ยังไงก็ผ่าน ต้องเข้าคณะกรรมการอีกที สรุปว่าทำงานผิดพลาดกันเอง ดูผิดไป แต่ทำให้กระวนกระวาย นอนไม่หลับเลย คือจะบอกว่ามันเสียหน้าจริงๆค่ะ เวลาขอแล้วไม่ได้เนี่ย เพราะเรื่องต้องผ่านหลายขั้นตอน คนรู้เกือบทั้งคณะ ถึงเวลาที่ต้องรู้ผล ก็จะมีคนมาถามเรื่อยๆว่าได้หรือยัง อย่างรุ่นพี่ที่เล่าให้ฟังในกระทู้ก่อนนั้น พอเขาเห็นหน้าเรา เขาบอกไม่ต้องถามนะ พี่ไม่ได้ เราก็ต้องเงียบ ไม่พูดถึงอีก ไม่อยากให้เขาคิดมาก ที่จริงคนขอตำแหน่งก็มีเยอะนะคะ คนที่ไม่ได้เป็นส่วนน้อย เลยเสีย self ไปกันใหญ่ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 55 17:20:43 จากคุณ : unsinkable soul เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 17:19:10

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ โยคีรำพัน คุณ unsinkable soul ขอบคุณครับ ผมไม่ได้ตัดสินเขานะครับ แค่อยากรู้เลยตั้งกระทู้ขึ้นมาน่ะครับ ถ้าพิมพ์แล้วทำให้เข้าใจผิดก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ สาเหตุที่ผมสงสัยเพราะว่า ผมเชื่อว่าด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง ตอนเรียนเอก อ.จำนวนหนึ่ง (น่าจะจำนวนมากพอสมควรด้วย) น่าจะไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้ภายใน 3 ปี แต่พอเข้ามาทำงานก็ยังทำงานได้ปกตินี่ครับ เลยไม่เข้าใจว่าการขอตำแหน่งวิชาการแล้วไม่ได้ มันทำให้หมดความมั่นใจในตัวเอง มากกว่าการเรียนเอกไม่จบภายใน 3 ปี อย่างนั้นเหรออะครับ อีกประการหนึ่ง ถ้าไม่ใช่การขอ ผศ แต่เป็นขอ รศ หรือ ศ แล้วไม่ได้นี่เป็นเรื่องน่าอายหรือไม่เหรอครับ และที่คุณโยคีรำพันว่า เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่เข้าใจความรู้สึก ทำให้ผมคิดขึ้นมาว่า เป็นไปได้ไหมครับ ว่าส่วนใหญ่คนในวงการศึกษาจะเรียนเก่ง ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่ค่อยเจอเรื่องผิดหวังอะไร พอขอแล้วไม่ได้ด้วยเหตุผลต่างๆเลยหมดความมั่นใจในตนเองอะครับ ต้องย้ำอีกครั้งว่าผมไม่เคยขอ และตั้งกระทู้เพราะอยากรู้ และต้องการแชร์ความคิดเห็นกันเฉยๆนะครับ ไม่ได้ต้องการให้อ่านแล้วรู้สึกไม่ดีแต่อย่างใดนะครับ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 55 09:05:18 แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 55 08:59:34 จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 08:58:59

ความคิดเห็นที่ 13 เสียดายกิฟหมดแล้วอ่ะ  ไม่งั้นจะเทให้คุณธนิศเลย ชอบตรงนี้มาก "เพราะฉะนั้นคุณมีทางเลือก 2 ทาง   ระหว่างยอมแก้ไขตามความเห็นปัญญาอ่อน   กับไม่ได้ตำแหน่งแต่ทิ้งเอกสารไว้อย่างที่คุณคิดว่าถูก" ไม่แน่ใจว่า อ. ธีรยุทธ บุญมี หรือ อ. ดร.ปริตตา เฉลิมเผ่า กออนันตกูล ที่ท่านไม่ทำผลงาน เพราะไม่สนใจในระบบตำแหน่งวิชาการ หรือมีคอนฟลิกต์ประการใดเป็นพิเศษกับกรรมการพิจารณา ถึงท่านไม่มีตำแหน่ง แต่เราว่า สองท่านนี้ก็เก่งขั้นเทพเลยอ่ะ จากคุณ : ปากจัดชะมัดยาด (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 55 14:35:51

ความคิดเห็นที่ 14 เคยได้ยินว่าอาจารย์บางท่านไำม่เคยขอตำแหน่งวิชาการใดๆเลยจนเกษียณ เพราะไม่อยากถูกตัดสินผลงานของตนว่าดีไม่ดีจากใครก็ไม่รู้ อาจารย์เหล่านั้นส่วนใหญ่เท่าที่ทราบและเห็นผลงานอยู่ เก่งจริงซะด้วยสิ ส่วนที่ว่าจบเกิน 3 ปีทำไมไม่อายเท่าไม่ได้ผศ. ก็เพราะคนส่วนใหญ่ก็จบเอกเกิน 3 ปีทั้งนั้น เลยไม่รู้สึกแปลกแยกจากชาวบ้านเท่าไหร่ แต่คนที่ไม่ได้ผศ.นี่เป็นส่วนน้อยมากๆเลยนะคะ อันนี้ที่เห็นเองเลย ขอไป 10 คน แทบจะไม่มีใครไม่ได้เลย ถ้าจะมีก็แค่คนสองคนเอง เลยเสียความรู้สึกมากน่ะค่ะ จากคุณ : unsinkable soul เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 07:41:57

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ  unsinkable soul ขอบคุณมากเลยครับ พอจะเริ่มเข้าใจแล้วครับ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ การขอ รศ หรือ ศ ซึ่งขอยากกว่า แล้วไม่ได้ ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องน่าอายหรือไม่เหรอครับ อีกประการหนึ่งคือ ถ้าทำงานในบ.เอกชน หรือหน่วยงานราชการอื่นๆ การถูกประเมินความสามารถโดยคนอื่นเป็นเรื่องปกติเลย แต่การที่อ.บางท่านไม่ต้องการถูกตัดสินความสามารถจากคนอื่นนั้น เป็นไปได้ไหมครับว่าเป็นเพราะคนที่มาเป็นอ.ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีลักษณะเป็นปัจเจกสูง ต่างจากคนอื่นทั่วไปด้วย เลยไม่ชอบที่จะถูกประเมินโดยคนอื่น จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 12:30:13

ความคิดเห็นที่ 16 @ ความเห็นที่ 13          ศาสตราจารย์ ธีรยุทธ บุญมี (เกิด 10 มกราคม พ.ศ. 2493) เป็นนักวิชาการ นักวิจารณ์การเมือง และนักเขียนรางวัลศรีบูรพา อดีตเลขาธิการ ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลา เคยเป็นอาจารย์ประจำ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ สาขามานุยวิทยา ในปี พ.ศ. 2555[1] จากคุณ : ชาร์มมิ่ง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 20:51:17

ความคิดเห็นที่ 17 คนในวงการนี้มีความมั่นใจในตัวเองสูงทั้งนั้นครับ ผมเองมีผลงานตีพิมพ์ในสาขาของผมมากสุดในประเทศแระ ลองถ้าผมขอผศ.แล้วไม่ได้ผมก็คิดว่าผมจะไม่ขอตำแหน่งอีกเลยจนเกษียณเหมือนกันครับ (กะขอรศ.วิธีพิเศษเลยนะเนี่ย  ) จากคุณ : กุ้งบก เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:47:08